สวัสดีค่ะ เกรด ม.5 เทอมหนึ่งเพิ่งออก และหนูกำลังสับสนอย่างหนัก ขอคำวิจารณ์ตรง ๆ ให้หนูตาสว่างทีค่ะ
จากคนป่วยซ้ำซากสู่นักกีฬาสุขภาพดี
ย้อนไปตอนม.4ป่วยบ่อยมาก เพราะไม่เคยออกกำลังกาย สุขภาพแย่มากพอหายปุ๊ป ก็ป่วยอีก หมดค่ายา เสียกำลังกายมาก ติดโควิตไปสองรอบได้เป็นวงจรอุบาดเลย
ช่วงขึ้นม.5ลูกพี่ลูกน้องมีแฟนที่เล่นกีฬาชักกะเย่อ เลยชวนเราไปเล่นด้วย เราเริ่มซ้อมจริงจังตอนขึ้นม.5
ซ้อมหลังเลิกเรียนสัปดาห์ละ 3 วัน ส่วนอีก 2 วันไปเรียนพิเศษภาษาจีน สอบกลางภาคผ่านไปได้ปกติ เกรดค่อนข้างโอเคถึงจะไม่ดีมากคือ3.66 แถมสุขภาพดีสุดๆ
เกรดตก
มาต่อที่สอบปลายภายยอมรับเลยว่าเรียนไม่รู้เรื่องเลยแล้วก่อนสอบปลายภาคต้องไปแข่งซึ่งต้องหยุดเรียน1สัปดาห์ก่อนสอบ(เดินทางไปตั้งแต่วันที่17 กลับถึงวันที่22ตอนเย็น)ซึ้งวันที่22ตรงกับวันสอบวันแรกพอดีก่อนไปก็ตามงานส่งงานล่วงหน้าไว้หมดแล้ว แก้ปันหาด้วยกันไปสอบย้อนหลัง เกรดออกแล้วได้3.56 มันอาจดูไม่แย่มาก แถมภาษาจีนที่เรียนตรงสายก็ได้คะแนนดีสุดๆ แต่ติดปัญหาที่แม่
ความกดดัน
แม่ไม่สนับสนุนที่เราสนใจด้านกีฬา มักตำหนิและตั้งคำถามตลอดเช่น"ไปซ้อมทุกวันแบบนี้แล้วจะเรียนทันหรอ" "มอปลายควรจริงจังกับการเรียนมากกว่า" "ควรจะเก็บเกรดเก็บคะแนนให้ดี" "เก็บพอร์ตได้แล้ว" แล้วเมื่อรู้ว่าเราต้องหยุดเรียน1สัปดาห์เพื่อไปแข่งยิ่งขัดค้านบอกจะไม่ให้ไป
เราจึงขอไปว่าขอแข่งเทอมนี้กับเทอมหน้า พอขึ้นม.6ก็แข่งไม่ได้แล้วเพราะอายุเกิน
พอเกรดออกมันดันตกลงมาเยอะมาก กลายเป็นข้ออ้างให้แม่อีกว่าเป็นเพราะกีฬาไง
ความจริงแล้วเราชอบกีฬานี้จริงๆกีฬาชักกะเย่อต้องใช้ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ วินัยไม่ใช่แค่กิจกรรมฆ่าเวลาถึงจะไม่นับว่าเก่งแต่มันทำให้ร่างกายเราเปลี่ยเรามีความสุขที่ร่างกายเราเป็นแบบนี้สุขภาพคือดีที่สุด ถึงแม้ว่าเราจะไม่ชนะในการแข่งครั้งนี้แต่เราไปเพื่อไปเอาประสบการณ์จริงๆตอนปิดเทอมเราก็ยังซ้อมอีกเพื่อเตรียมตัวสำหรับแข่งรอบเยาวชน แต่แม่ก็พูดยังคนพูดเหมือนเดิม อย่างเช่น"เราคุยกันจบแล้วนะเรื่องนี้" "เมื่อไหร่จะออกซักที" "ถ้ายังดื้อแบบนี้อยู่ก็ตามใจ" "ทำไมไม่รับผิดชอบเลย" มักพูดประชดประชันกัน
แม่อยากให้เราเก็บพอร์ตแต่ก็ไม่ยอมปล่อยให้เราทำกิจกรรม เราก็เป็นห่วงเกรดตัวเองแต่ก็รักกีฬา เราควรทำยังไงดี สับสนมากเกรดก็เป็นห่วงกีฬาก็สำคัญกับความกดดันจากแม่อีก
อย่างให้ช่วยวิจารณ์เราค่ะให้เราตาสว่างสักที ถึงคำวิจารณ์มันจะเจ็บแต่ก็จะยอมรับค่ะ
ขอบคุณทุกคำวิจารณ์ค่ะ
สุขภาพที่ดี แลกกับเกรดที่ลดลง(3.66--->3.56) คุ้มไหม? ชนะสุขภาพแต่แพ้เกรด
จากคนป่วยซ้ำซากสู่นักกีฬาสุขภาพดี
ย้อนไปตอนม.4ป่วยบ่อยมาก เพราะไม่เคยออกกำลังกาย สุขภาพแย่มากพอหายปุ๊ป ก็ป่วยอีก หมดค่ายา เสียกำลังกายมาก ติดโควิตไปสองรอบได้เป็นวงจรอุบาดเลย
ช่วงขึ้นม.5ลูกพี่ลูกน้องมีแฟนที่เล่นกีฬาชักกะเย่อ เลยชวนเราไปเล่นด้วย เราเริ่มซ้อมจริงจังตอนขึ้นม.5
ซ้อมหลังเลิกเรียนสัปดาห์ละ 3 วัน ส่วนอีก 2 วันไปเรียนพิเศษภาษาจีน สอบกลางภาคผ่านไปได้ปกติ เกรดค่อนข้างโอเคถึงจะไม่ดีมากคือ3.66 แถมสุขภาพดีสุดๆ
เกรดตก
มาต่อที่สอบปลายภายยอมรับเลยว่าเรียนไม่รู้เรื่องเลยแล้วก่อนสอบปลายภาคต้องไปแข่งซึ่งต้องหยุดเรียน1สัปดาห์ก่อนสอบ(เดินทางไปตั้งแต่วันที่17 กลับถึงวันที่22ตอนเย็น)ซึ้งวันที่22ตรงกับวันสอบวันแรกพอดีก่อนไปก็ตามงานส่งงานล่วงหน้าไว้หมดแล้ว แก้ปันหาด้วยกันไปสอบย้อนหลัง เกรดออกแล้วได้3.56 มันอาจดูไม่แย่มาก แถมภาษาจีนที่เรียนตรงสายก็ได้คะแนนดีสุดๆ แต่ติดปัญหาที่แม่
ความกดดัน
แม่ไม่สนับสนุนที่เราสนใจด้านกีฬา มักตำหนิและตั้งคำถามตลอดเช่น"ไปซ้อมทุกวันแบบนี้แล้วจะเรียนทันหรอ" "มอปลายควรจริงจังกับการเรียนมากกว่า" "ควรจะเก็บเกรดเก็บคะแนนให้ดี" "เก็บพอร์ตได้แล้ว" แล้วเมื่อรู้ว่าเราต้องหยุดเรียน1สัปดาห์เพื่อไปแข่งยิ่งขัดค้านบอกจะไม่ให้ไป
เราจึงขอไปว่าขอแข่งเทอมนี้กับเทอมหน้า พอขึ้นม.6ก็แข่งไม่ได้แล้วเพราะอายุเกิน
พอเกรดออกมันดันตกลงมาเยอะมาก กลายเป็นข้ออ้างให้แม่อีกว่าเป็นเพราะกีฬาไง
ความจริงแล้วเราชอบกีฬานี้จริงๆกีฬาชักกะเย่อต้องใช้ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ วินัยไม่ใช่แค่กิจกรรมฆ่าเวลาถึงจะไม่นับว่าเก่งแต่มันทำให้ร่างกายเราเปลี่ยเรามีความสุขที่ร่างกายเราเป็นแบบนี้สุขภาพคือดีที่สุด ถึงแม้ว่าเราจะไม่ชนะในการแข่งครั้งนี้แต่เราไปเพื่อไปเอาประสบการณ์จริงๆตอนปิดเทอมเราก็ยังซ้อมอีกเพื่อเตรียมตัวสำหรับแข่งรอบเยาวชน แต่แม่ก็พูดยังคนพูดเหมือนเดิม อย่างเช่น"เราคุยกันจบแล้วนะเรื่องนี้" "เมื่อไหร่จะออกซักที" "ถ้ายังดื้อแบบนี้อยู่ก็ตามใจ" "ทำไมไม่รับผิดชอบเลย" มักพูดประชดประชันกัน
แม่อยากให้เราเก็บพอร์ตแต่ก็ไม่ยอมปล่อยให้เราทำกิจกรรม เราก็เป็นห่วงเกรดตัวเองแต่ก็รักกีฬา เราควรทำยังไงดี สับสนมากเกรดก็เป็นห่วงกีฬาก็สำคัญกับความกดดันจากแม่อีก
อย่างให้ช่วยวิจารณ์เราค่ะให้เราตาสว่างสักที ถึงคำวิจารณ์มันจะเจ็บแต่ก็จะยอมรับค่ะ
ขอบคุณทุกคำวิจารณ์ค่ะ