ทำไมเรารู้สึกว่าตรรกะครอบครัวของเราบิดเบี้ยวไปหมดหรือเราเอาแต่ใจตัวเอง

ครอบครัวเราเริ่มแรกมีกันอยู่5คน พ่อ แม่ พี่ชาย เรา น้องชาย พ่อกับแม่ชอบทะเลาะกันตลอด ตอนทะเลาะกันแม่ชอบพาพวกเราหนีพ่อไปอยู่บ้านยายพอพ่อมาง้อก็กลับไปคืนดีกัน วนอยู่อย่างนี้หลายรอบจนน่าจะ9ขวบมั้งที่พ่อแม่น่าจะหย่ากันจริงๆ แม่ก็พามาอยู่บ้านยายอย่างถาวร หลังเลิกกับพ่อแม่ก็แต่งงานใหม่เรื่อยๆ ประมาณ5รอบ แล้วก็มีหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่มาติดพันเรื่อยๆ ในะหว่างแต่งงานสามีใหม่แม่ก็ย้ายมาอยู่บ้านยายด้วยบาง หรือกับบางคนแม่ก็เทียวไปเทียวมาบ้านสามี เรากับแม่ห่างเหินกันมากไม่เคยคุยเรื่องส่วนตัวกันเลย กับน้องเราก็เหมือนกัน เรื่องที่คุยกันจะมีแค่กินข้าวกับอะไรแค่นั้น ส่วนพี่ชายก็บวชตั้งแต่พี่อายุ10ปี เราห่างกับพี่3ปี น้องเราห่างกับเรา3ปี หลังปีบวชก็เหมือนกับว่าเราไม่เคยมีพี่ชายเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราไม่เคยพอใจกับการแต่งงานใหม่ของแม่เลยซักครั้ง บางทีที่แม่ทะเลาะกับสามีแม่ก็หอบข้าวของกลับบ้าน ไม่ทันได้ชื่นใจเราก็เห็นแม่เล่นแอพหาคู่คุยกับคนนู้นทีคนนู้นที บอกตรงๆเรารับไม่ได้กับพฤติกรรมแบบนี้ของแม่มากๆ แต่สุดท้ายพอสามีแม่มาง้อแม่ก็กลับไปอยู่ดี ผ่านมาซักพักบ้านยายมีปัญหาเรื่องที่ดินเพราะเป็นที่ของลุง ลุงจะขายเอาไปใช้หนี้ ยายย้ายไปอยู่กับลูกสาว ส่วนแม่ก็พาเรามาอาศัยบ้านหลังเก่าที่อยู่กับพ่อ (พ่ออนุญาตให้อยู่เพราะเห็นแก่เราและพ่อไปที่ต่างประเทศแล้ว) ถึงอย่างงั้นแม่ก็พาผู้ชายคนอื่นมาอาศัยอยู่บ้านสามีเก่าอย่างพ่อ ซึ่งเราคิดว่าไม่เหมาะสมแต่ก็ว่าอะไรไม่ได้ มีครั้งนึงจำฝังใจตอนนั้นเราอายุ17ปี แม่ทะเลาะกับสามีใหม่แล้วไปเล่นแอพเจอผู้ชายคนนึง แม่จะไปหาเขาที่ตจวแล้วชวนเราไปด้วยแต่เราไม่ไป แม่เลยทิ้งเงินไว้ให้200บาท (เรากับน้องใช้เงิน200ประทังชีวิต3วัน) แล้วพาก็กลับมาพร้อมกับผู้ชายคนนั้นแล้วเหมือนแม่ไม่ถูกใจก็เลยแยกทางกันไม่นาน  ค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมดแม่เป็นคนดูแลพ่อก็ช่วยส่งเงินให้เดือนละ5000บาท ส่วนค่าใช้จ่ายใหญ่ๆเช่นค่าเทอมพ่อจะเป็นคนจ่ายให้ รถมอเตอร์ไซค์ โทรศัพท์ โน้ตบุ๊ค ไอแพดเรา พ่อเป็นคนซื้อให้ทั้งหมด แม่ก็ชอบมาขอยืมใช้แต่เราไม่ค่อยเต็มใจให้เพราะแม่ไม่ถนอมของใช้ทำโน้ตบุ๊คเราลำโพงแตกไป2ข้างแล้ว เวลาทะเลาะกันแม่ก็ชอบอ้างบุญคุณ ค่านม ค่าอุ้มท้องบลาๆ บอกว่าเราเรียนจบต้องส่งน้องต่อ แม่ให้แขนขามาสมบูรณ์แล้ว พูดกรอกหูอยู่ซ้ำจนเราท้อใจ แล้วใครส่งเราแหละ ต่อให้พ่อส่งเราก็มั่นใจว่าพ่อไม่สามารถส่งให้เราเรียนจบได้ คิดไปคิดมาก็น้อยใจในชีวิต ความปลอดภัยในบ้านก็ไม่มี มีวันนึงแม่มาถามว่าเราใช้โน้ตบุ๊กบ่อยมั้ยแม่จะยืมไปจำนำ เราบอกว่าไม่ให้หลังจากนั้นเวลาจะออกจากบ้านเรามักจะซ่อนของมีค่าต่างๆของเราไว้เสมอ ความสัมพันธ์กับพ่อก็เหมือนจะดีแต่เราว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่แปลก ทุกครั้งที่โทรคุยกันพ่อมักจะถามว่าถ้าเกิดให้เงิน100000บาทจะเอาไปลงทุนอะไร ถามทุกครั้งเกี่ยวกับธุรกิจซึ้งเรายังไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย แค่อยากเรียนให้จบก่อน เราไม่ได้อยากทำธุรกิจ แต่ก็ต้องตอบๆไป บางทีพ่อเมาก็หาเรื่องมาด่า ด่าแม่บ้าง แล้วก็ถามพ่อกับแม่เลือกใคร ใครมีบุณคุณกว่ากัน บางครั้งเรายังไม่ทันตอบอะไรก็ด่วนสรุปเอาเองว่าเข้าบ้างแม่ พ่อโมโหไม่คุยกับเราเป็นเดือนๆ หรือบางทีเมามาก็ด่าเราว่าไม่สวยไม่มีการศึกษาเท่าลูกติดแฟนใหม่(พ่อก็มีคนคุยมาเรื่อยๆ ส่งเงินให้สาวหมดไปก็หลายแสน) แต่เราก็ต้องประคองความสัมพันธ์กับพ่อเพราะพ่อเป็นคนเดียวที่เราพอจะพึ่งได้ หลังจากจบมัธยมเราดร๊อปเรียนทำงานพาสไทม์อยู่บ้านปีนึง แล้วก็ขอพ่อย้ายมาอยู่กรุงเทพทำงานพาสไทม์บ้าง พ่อส่งเงินช่วยบ้าง เรามีความฝันว่าอยากจะใช้ชีวิตในรั้วมหาลัย มันเป็นเป้าหมายสำคัญมากๆในชีวิต อยู่ที่นี่ชีวิตก็ดีขึ้น รู้สึกปลอดภัยมากกว่าอยู่ที่บ้าน ส่วนแม่ก็โทรมายืมเงินบ้าง  (ก่อนย้ายมาเราทิ้งรถมอเตอร์ไซค์กับโน้ตบุ๊คให้น้องชาย) พอขอมากๆเข้าเราก็สวดไปเลย1บทว่า หนูมาเรียนนะ ถ้าแม่ส่งหนูไม่ได้ก็อย่ามาขอเงินหนูถึงจะยอมเงียบลงแต่ก็แทรกค่าใช้จ่ายเช่นค่าเน็ตอินเตอร์ในบ้านงี้ นอกจากเรื่องเงินแม่ก็ไม่เคยคุยเรื่องอื่นกับเราเลยแต่เราก็รู้สึกดีที่ไม่ได้คุยกับแม่เช่นกัน เวลาทำงานพาสไทม์ส่วนใหญ่มักจะเจอลูกค้ามากับพ่อแม่ตลอด ไม่ก็แม่ลูก ลูกพ่อ ส่วนเราก็ได้แต่อิจฉาแต่ก็ปลงแล้วเรื่องครอบครัวเนี่ย ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราคิดว่าเราไม่สมควรได้รับอะไรแบบนี้คนที่ผิดคือพ่อแม่ และเราเน้นคนผิดคือแม่เป็นส่วนใหญ่ ถ้าเกิดอนาคตเรามีการงานที่มั่นคงเราคงจะส่งเงินให้แม่บ้าง(แต่คงไม่ให้เป็นประจำเพราะเรารู้จักแม่เราดีว่าให้แล้วจะได้ใจแต่จดจ่อกับการขอเงิน) แม่เราเคยพูดไว้ว่าพี่ก็บวชให้แม่เกาะผ้าเหลือง พอลูก2คนโตก็มารุมเลี้ยงแม่นะ เราได้ยินแล้วยิ่งเกลียดแม่มากกว่าเดิมอีก  สงสัยเราจะเป็นลูกอกตัญญูรึป่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่