รัฐดันกฎหมายใหม่ ‘ประกันสังคม ม.40’ หนุนอาชีพอิสระเข้าระบบ 20 ล้านคน

KEY POINTS
รัฐบาลผลักดันกฎหมายใหม่เพื่อปรับปรุงสิทธิประโยชน์ประกันสังคมมาตรา 40 โดยตั้งเป้าหมายดึงแรงงานอิสระเข้าระบบ 20 ล้านคน

มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่สำคัญหลายด้าน เช่น เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีเจ็บป่วย, เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพตลอดชีพ, และเงินสงเคราะห์บุตร

ปรับปรุงเกณฑ์การรับเงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย โดยหากแพทย์ให้หยุดพักตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป จะได้รับเงิน 200 บาทต่อวัน และเพิ่มสิทธิกรณีป่วยด้วยโรคติดต่ออันตราย อมยิ้ม04


นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญกับการผลักดันกฎหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานอิสระซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ผ่านการพัฒนาสิทธิประโยชน์ “ประกันสังคมมาตรา 40” ให้มีความคุ้มครองรอบด้านและสอดคล้องกับบริบทเศรษฐกิจสังคมในปัจจุบัน

ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้ตั้งเป้าหมายขยายหลักประกันทางสังคมให้ครอบคลุมแรงงานอิสระทั่วประเทศกว่า 20 ล้านคน ขณะนี้มีผู้สมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 แล้วกว่า 11,018,243 คน (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2568) ซึ่งสะท้อนถึงความตื่นตัวของแรงงานนอกระบบที่ต้องการมีหลักประกันทางรายได้และชีวิตที่มั่นคงมากขึ้น

สาระสำคัญของร่าง พ.ร.ฎ. ฉบับใหม่
ทั้งนี้ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของผู้สมัครเป็นผู้ประกันตน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หลังคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568

โดยร่างกฎหมายดังกล่าวมีสาระสำคัญเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราสิทธิประโยชน์ให้ทันสมัยและตอบโจทย์ชีวิตแรงงานอิสระมากขึ้น โดยมีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้
1. เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
ปรับลดระยะเวลาการได้รับเงินทดแทน โดยหากแพทย์มีความเห็นให้หยุดพักตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป จะได้รับเงินทดแทน 200 บาทต่อวัน สำหรับผู้ประกันตนทุกทางเลือก (1–3)

2. เพิ่มสิทธิกรณีเจ็บป่วยด้วยโรคติดต่ออันตราย รวมถึงโควิด-19
ผู้ประกันตนที่แพทย์มีความเห็นให้หยุดพักตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป มีสิทธิได้รับเงินทดแทน 200 บาท/วัน พร้อมเปิดให้ใช้สิทธิย้อนหลังสำหรับผู้ที่เจ็บป่วยด้วยโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 – 30 กันยายน 2565

3. เพิ่มเงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ
แก้ไขหลักเกณฑ์ให้จ่ายเงินทดแทนรายเดือนตลอดชีวิต โดยผู้ประกันตนทางเลือกที่ 1–2 ได้รับ 1,000–2,000 บาท/เดือน ส่วนทางเลือกที่ 3 ได้รับ 1,500–3,000 บาท/เดือน ครอบคลุมตลอดอายุขัย

4. ปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร
ผู้ประกันตนทางเลือกที่ 3 จะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเดือนละ 300 บาทต่อบุตร 1 คน คราวละไม่เกิน 2 คน สำหรับบุตรที่มีอายุไม่เกิน 7 ปีบริบูรณ์

5. ปรับหลักเกณฑ์กรณีเสียชีวิตก่อนวัยชรา
หากผู้ประกันตนเสียชีวิตก่อนอายุครบ 60 ปี หรือก่อนรับสิทธิกรณีชราภาพ ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพแก่บุคคลที่ผู้ประกันตนระบุไว้ในหนังสือ หากไม่ได้ระบุ ให้เฉลี่ยจ่ายแก่คู่สมรส บิดามารดา และบุตรในจำนวนเท่ากัน

6. กำหนดบทเฉพาะกาล
ผู้ประกันตนที่เจ็บป่วยก่อนพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามหลักเกณฑ์ใหม่เช่นเดียวกัน

“หลังร่าง พ.ร.ฎ. ฉบับนี้ผ่านการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการให้สำนักงานประกันสังคมยืนยันร่างก่อนส่งต่อไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ต่อไป”
นายสิริพงศ์ ย้ำว่า การปรับปรุงสิทธิประโยชน์ภายใต้ประกันสังคมมาตรา 40 ครั้งนี้ เป็นการสร้างหลักประกันทางสังคมที่มั่นคงและเท่าเทียมให้แก่แรงงานอิสระ ซึ่งถือเป็นกลุ่มแรงงานส่วนใหญ่ของประเทศ และมีบทบาทสำคัญต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะยาว

“รัฐบาลมุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้แรงงานทุกกลุ่ม โดยเฉพาะแรงงานอิสระ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีหลักประกันทางสังคมที่มั่นคง เป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทยในอนาคต”

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่