เชิญชวนมาร่วมกัน"คายตะขาบ"กัน ว่าด้วยเทคนิคการใช้รถยนต์ จากรุ่นสู่รุ่น

กระทู้สนทนา
ว่าง ๆ  เลยนึกขึ้นมาได้ว่า น่าจะมีกระทู้สักกระทู้ที่ส่งต่อเทคนิคการใช้ยานยนต์ การดูแลรถยนต์ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน

วลี "คายตะขาบ" เป็นประโยคฮิตที่ใช้กันทั่วบ้านทั่วเมืองถึงตอนนี้ในความหมาย สืบทอดทายาท , ส่งไม้ต่อ หรือถ่ายทอดเป็นมรดก แล้วแต่คนจะใช้กัน ถ้าใช้คำนี้คือเป็นที่รู้กันเลย ว่ามาจาก ละครทายาทอสูร ที่คุณยายวรนาฏ ตัวเอกของเรื่องได้รับและส่งต่อให้ทายาทที่จะมาเป็นทายาทอสูรในรุ่นต่อไป

ขอให้ทุกคนที่เข้ามาถ้ามีเทคนิคอะไรที่นึกขึ้นได้ก็ช่วยเขียนต่อๆ กันนะครับ เชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้รถยนต์หน้าใหม่ ได้บ้าง

การเลี้ยวแบบถนอมแรค เทคนิคนี้เริ่มมาจากวิธีการขับในรถรุ่นเก่า "เพาเว่อร์แรงเย่อ" นั่นคือรถที่ไม่มีเพาเวอร์พวงมาลัยช่วยผ่อนแรง ในยุคนั้น พวงมาลัยจะมีรอบวงที่ใหญ่ เพื่อช่วยผ่อนแรงคนขับ แต่เทคนิคที่จะใช้กันในการขับคือ ทุกครั้งที่หมุนพวงมาลัย รถต้องเคลื่อนตัวเสมอ อย่าพยายามหมุนพวงมาลัยเมื่อรถอยู่กับที่ การหมุนเมื่อรถหยุดสนิท ตัวล้อ(ยาง)จะถูกพื้นถนนเป็นแรงเสียดทาน ต้องใช้แรงมากกว่า2-3เท่า(จากความรู้สึก) จนมาถึงยุคที่มีเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรง เทคนิคการขับแบบนี้ก็หายไป เพราะสามารถหมุนพวงมาลัยได้ด้วยมือข้างเดียว แต่อย่าลืมว่า แรงเสียดทานจากพื้นถนนยังมีอยู่เท่าเดิม หากขับแบบนี้ ระบบพวงมาลัยที่มีแรคกลไก หรือแรคไฟฟ้าก็ต้องรับโหลดมากขึ้น การเสื่อมของแรคก็ต้องมากขึ้น หน้ายางก็สึกด้วย
ดังนั้นหากเราขับโดยเลียนแบบการขับในรถรุ่นเก่า ย่อมทำให้ระบบต่างๆ ของการบังคับเลี้ยวทำงานเบาลง

ทุกครั้งที่หมุนพวงมาลัย รถต้องเคลื่อนตัว และอย่าพยายามหมุนเลี้ยวจนสุดแล้วยังฝืนหมุนอีก จะเพิ่มแรงจากไฮโดรลิคพวงมาลัย เมื่อรู้สึกว่าหมุนจนสุดแล้วก็คลายกำลังลง อย่าออกแรงต่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่