ช่วยด้วยค่ะ พี่ป่วยจิตเวช แล้วก่อหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อเงินสดไว้ครึ่งล้าน

เราลบเนื้อหากระทู้นี้เพราะไม่สามารถลบได้เอง เราพิมพ์ไปตอนที่สติแตก แต่ตอนนี้ตั้งสติได้แล้วค่ะ

ขอบคุณพระคุณความเห็นทุกท่านค่ะ


-

ขอมาแก้ไขอีกครั้ง เผื่อแปะไว้เป็นวิทยาทานนะคะ หรือใครกำลังเผชิญปัญหาเดียวกัน เผื่อมาอ่านจะได้ช่วยอะไรได้บ้างนะคะ

เรื่องย่อสั้นๆ คือ พี่ชายป่วยเป็นจิตเภท (ประสาทหลอน หูแว่บ กลัวมีคนมาทำร้าย) สาเหตุคือ เขาเคยเป็นคนที่เรียนเก่งมาก เรียนจบสูง หน้าที่การงานดี เป็นลูกชายที่แม่ทุ่มทรัพยากรให้ทุกอย่าง แต่เพราะเลี้ยงเขามาแบบลูกเทวดาที่ไม่เคยผิดหวังเลย พอเขาเจอความผิดหวังครั้งใหญ่ในชีวิตเขาเลยสติหลุดไปค่ะ ตอนนี้หนี้สินร่วมสี่แสน (แค่เท่าที่แม่สืบทราบ)

และการเลี้ยงดูแบบประคอบประหงม ทำให้เขามีบุคลิกภาพแบบ นาซิซิส หรือ หลงตัวเอง คิดว่าตัวเองดีที่สุด อยู่เหนือคนอื่น
ทำให้ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยดูเรื่องเงินได้เพราะ 1. เขาระแวงเพราะโรคจิตเภท (ประสาทหลอน ระแวง) 2. เขาเป็นนาซิซิสที่ตัวเองเก่งอยู่คนเดียว ดูถูกคนอื่น ดังนั้น ความเห็นที่พี่ๆ บอกว่าให้ริบบัตรเขา เป็นไปไม่ได้เลยค่ะ เพราะเขาระแวงขั้นแม็กซ์ พูดเรื่องเงินขึ้นมา เขาจะของขึ้นโมโหร้ายทันที กลัวเขาทำร้ายแม่ค่ะ (พี่ชายเป็น ผช ตัวใหญ่)

หรือบอกให้ปล่อยเขาไป จัดการรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง คือ ตอนนี้เขาป่วยเป็นจิตเภท เขาจึงไม่สามารถดำรงชีวิตเหมือนคนปกติได้ค่ะ (วันนี้ยังพูดคุยกับโรบอทในอากาศอยู่เลย ลองเสิร์ทหาคำว่า AI psychosis ดูค่ะ) และเงินเดือนที่เข้ามาก็ไหลออกไปไหนไม่รู้หมดบัญชี ถ้าแม่กับเราไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย เขาก็จะมีแนวโน้มจะทำเรื่องใหญ่อยู่สองอย่างคือ ยืมเงิน ก่อหนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ก็จบชีวิตตัวเองค่ะ

แนวทางที่แก้ปัญหาอยู่ตอนนี้ เผื่อเป็นวิทยา หรือใครที่กำลังเจอเรื่องแบบเดียวกันนะคะ ไม่รู้จะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน แต่ตอนนี้กำลังดำเนินการแบบนี้อยู่ค่ะ

เรียงตามความสำคัญที่ต้องทำค่ะ

1. หาหมอรับยาค่ะ หัวใจของโรคจิตเภท คือต้องกินยา ตอนนี้พยายามให้พี่ชายกินยาต่อเนื่อง แต่การพูดกับนาซิซิสคือยากมากๆ ห้ามพูดบังคับให้กิน ห้ามพูดว่าเขาป่วย แต่ให้พูดแนะนำเช่น กินยาจะได้ช่วยให้นอนหลับสบายนะ หรือ จัดยาให้เขาหลังเขากินข้าวเย็นทันที ไม่ต้องพูดอะไรแค่เตรียมไว้ให้ แต่ก่อนนัดหาหมอรอบใหม่ แม่เราจะกลับต่างจังหวัดเพื่อมาพักเพราะเครียดไม่ไหวแล้ว แล้วก็ต้องลุ้นเอาว่าเขาจะยอมกินยาเองไหม ถ้าเขาไม่ยอมกินยาต่อเนื่อง ติดต่อหมอเจ้าของไข้เพื่อปรับแนวทางการรักษาต่อไปค่ะ เป็นโรคที่ต้องใช้ความอดทนสูงมาก ตอนนี้ครอบครัวเราเจอเรื่องนี้แค่ราวๆ ไม่ถึงอาทิตย์ เหมือนเหมือนมันนานและผ่านไปได้ยากมากค่ะ แต่เท่าที่รู้มาคือกว่าคนไข้จะกลัมาใช้ชีวิตแบบคนปกติได้ อาจต้องใช้เวลาสองสามปีเลยค่ะ

2. ติดต่อธนาคาร ตรวจสอบสเตทเม้นท์ ว่าเงินเดือนที่เข้ามามันไหลออกไปไหนหมด และ เปลี่ยนบัญชีรับเงินเดือนเป็นบัญชีอื่นเพื่อรักษาเงิดสดไว้ให้เขาได้ใช้ชีวิตได้ก่อนค่ะ ถ้าแก้เรื่องเงินได้เปราะนึง เขาน่าจะทุเลาอาการกังวลได้บ้าง (ขั้นตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ และพี่ชายจะไปคุยกับธนาคารพร้อมแม่ ซึ่งเรายังไม่รู้อนาคตเหมือนกันว่าจะออกมาเป็นรูปแบบไหน ภาวนาให้ออกมาในทางที่ดีค่ะ)

3. เรื่องหนี้ ขอใบรับรองแพทย์มา และทำเรื่องประนอมหนี้ค่ะ รักษาอาการป่วยให้ดีขึ้นก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน ทำอะไรไม่ได้ค่ะ (ขั้นตอนนี้ไว้คิดหลังสุดเลย ใครมีคำแนะนำเรื่องนี้ ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ) เราไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย เลยไม่รู้ว่ามีแนวทางไหนได้บ้าง ถ้าพี่ๆ มีความรู้ก็ขอความกรุณาด้วยนะคะ

ส่วนเรื่องเงินของเรา ตอนนี้เราไม่มีทางเลือกค่ะ เราช่วยเท่าที่ช่วยได้ ตอนนี้มันจะผ่านไปยาก แต่กำลังอดทนให้ผ่านไปได้อยู่ค่ะ ตอนนี้พี่ชายไม่สามารถมีสติสัมปชัญญะในการจับจ่าย เลยโอนเงินให้แม่ แล้วพยายามให้แม่เป็นคนควบคุมเงิน ถึงมันจะยากมากๆ เพราะขัดใจเขาไม่ได้ด้วยโรคขอเขา แต่ก็ต้องยอมเพราะยังไงก็ต้องรักษาโรคที่เขาเป็นให้ได้ก่อน ส่วนเราก็เทียมเกวียนเยี่ยงควายไปค่ะ

ที่เหลือก็สวดมนต์เอาค่ะ รักษาใจตัวเอง กับแม่ไม่ให้หลุดลอยไปอีกคนค่ะ

ขอบพระคุณทุกคนที่อ่านถึงตรงนี้อีกคร้ังค่ะ ใครมีข้อเสนอแนะใดๆ แนะนำได้เลยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่