เมื่อคุณตกลงกับสามีว่าให้เราทั้งคู่มีอิสระในความสัมพันธ์แบบเปิด ชีวิตคู่ที่ก็ดูเหมือนจะแซ่บขึ้น

สวัสดีทุกคน วันนี้จะมาเล่าเรื่องราวสุดแซ่บที่อาจจะฟังดูแปลกสำหรับบางคน แต่สำหรับคนที่อยู่ในแวดวง “ความสัมพันธ์แบบเปิด” หรือ Open Relationship แล้ว มันอาจจะเป็นเรื่องที่ชวนให้ตื่นเต้นและน่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะ เรื่องนี้เริ่มจากความกล้าที่จะลองอะไรใหม่ ๆ ในชีวิตคู่ และการได้เจอคนที่ “คิดเหมือนกัน” โดยบังเอิญ ซึ่งมันทำให้ทุกอย่างยิ่งสนุกและซับซ้อนขึ้นไปอีก

ยิ้ม จุดเริ่มต้นของการตัดสินใจครั้งใหญ่
เรื่องมันเริ่มจาก “น้องมิว” (สมมติชื่อนะ) และ “พี่เอก” สามีของเธอ ทั้งคู่แต่งงานกันมาได้ 5 ปีแล้ว ชีวิตคู่ก็หวานชื่นดี แต่ด้วยความที่ทั้งสองคนเป็นสายสมัยใหม่ เปิดใจกว้าง และชอบคุยกันแบบตรงไปตรงมา วันหนึ่งขณะที่กำลังนั่งกินข้าวเย็นกัน น้องมิวก็โยนคำถามออกมาแบบชิล ๆ ว่า “ถ้าสมมติว่าเราอนุญาตให้กันและกันได้ลองมีความสัมพันธ์กับคนอื่นบ้างล่ะ จะเป็นยังไงนะ?”

ตอนแรกพี่เอกก็ช็อกนิดหน่อย อารมณ์แบบ “เอ๊ะ! เมียเราคิดอะไรอยู่วะเนี่ย?” แต่ด้วยความที่ทั้งคู่คุยกันทุกเรื่องอยู่แล้ว เลยลองเปิดใจคุยกันยาว ๆ ว่าถ้าจะลองมีความสัมพันธ์แบบเปิด มันจะเป็นยังไง? กฎกติกาจะต้องมีอะไรบ้าง? และที่สำคัญคือต้องเคารพความรู้สึกของกันและกันเป็นหลัก หลังจากคุยกันหลายรอบ ดื่มกาแฟไปหลายแก้ว และนอนคิดไปหลายคืน ทั้งคู่ก็ตกลงกันว่า “ลองดูสักตั้ง!” แต่มีกฎเหล็กคือ ต้องบอกกันทุกอย่าง ไม่มีปิดบัง และถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้สึกไม่โอเค ต้องหยุดทันที

ยิ้มการเดินทางในโลกของ Open Relationship
หลังจากตกลงกันได้ น้องมิวและพี่เอกก็เริ่มต้นการเดินทางในโลกของความสัมพันธ์แบบเปิด ซึ่งต้องบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ นะ เพราะมันต้องใช้ความไว้วางใจในระดับที่สูงมากกกก พี่เอกเริ่มจากไปเดตกับสาวที่เจอในแอปหาคู่ ส่วนน้องมิวก็ลองคุยกับหนุ่มที่เจอกันในงานปาร์ตี้ของเพื่อน ทั้งคู่จะกลับมาเล่าให้กันฟังทุกครั้งหลังเดต ฟังดูเหมือนจะแปลก ๆ แต่สำหรับทั้งสองคน มันกลับทำให้รู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะได้แชร์ทุกความรู้สึก ทุกประสบการณ์

ทีนี้ น้องมิวเริ่มรู้สึกว่า การที่สามีได้ไปเจอคนใหม่ ๆ มันไม่ได้ทำให้ความรักของทั้งคู่ลดลงเลย แถมยังทำให้พี่เอกดูมีพลังมากขึ้น มีเรื่องใหม่ ๆ มาเล่าให้ฟัง ส่วนน้องมิวเองก็รู้สึกว่าตัวเองได้ค้นพบมุมใหม่ ๆ ในตัวเองที่ไม่เคยรู้มาก่อน เช่น การที่ได้รู้ว่าตัวเองก็มีเสน่ห์ในสายตาคนอื่นเหมือนกัน

ยิ้มเจอพี่สาวที่คิดเหมือนกัน
เรื่องมันเริ่มพีคขึ้นเมื่อน้องมิวไปเจอกับ “พี่แอน” เพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาลัยที่ไม่ได้เจอกันมานานมากกกก วันนั้นน้องมิวไปงานรวมรุ่น แล้วบังเอิญเจอพี่แอนที่มานั่งเม้าท์มอยด้วยกัน พี่แอนคนนี้เป็นสาวมั่น กล้าคิดกล้าทำ และที่สำคัญคือแต่งงานแล้วเหมือนกัน ระหว่างที่คุยกันไปมา น้องมิวเล่าให้พี่แอนฟังเรื่องความสัมพันธ์แบบเปิดของตัวเองแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ เพราะกลัวพี่แอนจะตีหน้าแล้ววิ่งหนี

แต่ สิ่งที่ทำให้อ้าปากค้างคือ พี่แอนหัวเราะแล้วบอกว่า “เฮ้ย! น้องมิว พี่ก็อยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้เหมือนกัน!” อะไรนะ? โลกนี้มันกลมเกินไปแล้ว พี่แอนเล่าว่าสามีของเธอและเธอตกลงกันมานานแล้วว่าทั้งคู่สามารถมีความสัมพันธ์กับคนอื่นได้ ตราบใดที่มันไม่กระทบความสัมพันธ์หลักของทั้งสองคน และที่สำคัญคือต้องซื่อสัตย์ต่อกัน

น้องมิวรู้สึกเหมือนเจอเพื่อนรู้ใจทันที ทั้งสองเริ่มแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอย่างเมามัน พี่แอนเล่าว่าตอนแรกสามีของเธอก็มีลังเลเหมือนกัน แต่พอได้ลองแล้ว ทั้งคู่รู้สึกว่ามันทำให้ชีวิตคู่สนุกขึ้น แถมยังช่วยให้ทั้งสองคนได้พัฒนาตัวเองในหลาย ๆ ด้าน เช่น การสื่อสาร การจัดการอารมณ์ และการเข้าใจความต้องการของตัวเองและคู่รัก

เยี่ยม ความท้าทายและบทเรียน
ถึงจะฟังดูเหมือนทุกอย่างจะราบรื่น แต่การอยู่ในความสัมพันธ์แบบเปิดมันก็มีดราม่าบ้างแหละ เช่น มีครั้งหนึ่งที่น้องมิวรู้สึกหึงนิด ๆ เมื่อพี่เอกดูเหมือนจะสนิทกับสาวคนหนึ่งมากไปหน่อย หรือตอนที่พี่แอนเล่าว่าสามีของเธอเคยรู้สึกไม่มั่นใจเมื่อพี่แอนไปเดตกับหนุ่มที่ดูเหมือนจะ “เพอร์เฟกต์” เกินไป แต่ทั้งสองคู่ก็เรียนรู้ที่จะจัดการกับความรู้สึกเหล่านี้ด้วยการพูดคุยกันอย่างเปิดใจ

น้องมิวบอกว่า สิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์แบบนี้เวิร์คคือ การที่ทั้งคู่ต้องเคารพและให้เกียรติกันเสมอ ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์อะไรก็ตาม ส่วนพี่แอนก็เสริมว่า การมีเพื่อนที่เข้าใจและคิดเหมือนกันอย่างน้องมิว ช่วยให้เธอรู้สึกว่าไม่ได้เดินบนเส้นทางนี้คนเดียว มันเหมือนมีกองเชียร์ที่คอยให้กำลังใจและแชร์ประสบการณ์ด้วยกัน

ประหลาดใจสรุปแล้วมันเป็นยังไง
การที่อนุญาตให้สามีมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่นได้ และการได้เจอพี่ที่รู้จักที่คิดแบบเดียวกัน มันเหมือนการผจญภัยครั้งใหญ่ในชีวิตคู่ของน้องมิวและพี่เอกเลยล่ะ มันอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะกับทุกคน เพราะมันต้องใช้ความเข้าใจ ความไว้วางใจ และการสื่อสารที่แข็งแกร่งมาก ๆ แต่สำหรับน้องมิวและพี่แอน มันคือการค้นพบว่าความรักและความสัมพันธ์มันมีหลายรูปแบบ และถ้าเรากล้าที่จะลองอะไรใหม่ ๆ พร้อมกับรักษาความซื่อสัตย์ต่อกัน มันก็สามารถนำไปสู่ความสุขในแบบที่เราคาดไม่ถึงได้เหมือนกัน

สุดท้ายนี้ ถ้าใครอ่านแล้วรู้สึกว้าว หรืออยากลองเปิดใจคุยกับแฟนเรื่องนี้ ก็อย่าลืมว่าทุกอย่างต้องเริ่มจากการพูดคุยและเคารพความรู้สึกของกันและกันนะ! และถ้าเจอเพื่อนที่คิดเหมือนกันล่ะก็ เตรียมตัวเม้าท์กันยาว ๆ ได้เลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่