บางวันทุกอยางเหมือนจะพังไปหมด รถติด ฝนตก มาสาย งานที่ทำก็ยังไม่เสร็จ งานด่วนมาแบบไม่บอกล่วงหน้า คนรอบตัวก็เหมือนจะไม่เข้าใจเราเลยสักนิด
เมื่อเหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่หวัง แต่มีบางคน กลับยิ้มได้เฉย
แถมยังพูดปลอบใจตัวเองว่า "ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมันก็ผ่านไป"
เราควรต้องทำอย่างไร
ความลับไม่ได้อยู่ที่เขาไม่เจอปัญหา แต่เพราะเขามี “กล้ามเนื้อความคิดเชิงบวก” ที่ฝึกจนแข็งแรงนั่นเอง
1 มองหาด้านดีเล็ก ในเรื่องแย่ (มันไม่ง่ายใช่ไหม)
แทนที่จะจมอยู่กับปัญหา ลองถามตัวเองว่า
👉 เรื่องนี้มันสอนอะไรเราได้บ้าง?
👉 อย่างน้อยมันช่วยให้เราเห็นชัดขึ้นว่าเราต้องปรับปรุงตรงไหน?
เช่น รถติด = ฉันได้ฟังพอดแคสต์จบหนึ่งตอน,
งานหนัก = โอกาสฝึกความอดทน (เพราะไม่งานไหนไม่หนัก ถ้าเราถนัด งานที่หนักคืองานที่เรายังไม่เชี่ยวชาญ ถ้าได้ทำบ่อยๆ ความเชี่ยวชาญก็จะตามมา)
2. เปลี่ยนคำพูด เปลี่ยนพลังใจ
คำพูดในหัวของเราสร้างโลกทั้งใบ ถ้าเราพูดกับตัวเองว่า “แย่แน่เลย” มันก็จะแย่ขึ้นจริง ๆ ลองเปลี่ยนเป็นคำง่าย ๆ เช่น
“มันยาก แต่ฉันไหว”
“ฉันกำลังเรียนรู้อะไรบางอย่างอยู่”
"มันจะทำให้ฉันเก่งขึ้น"
3. หัด “ซูมออก” จากปัญหา
เวลามีเรื่องกดดัน ลองจินตนาการว่าตัวเองเป็นผู้กำกับหนังแล้วซูมกล้องออกมา ปัญหาที่ใหญ่โตตรงหน้าอาจกลายเป็นแค่ “ฉากเล็ก ๆ” ในชีวิตทั้งเรื่อง
แล้วเราจะได้ไม่เอาจริงเอาจังเกินไป
4. อยู่ใกล้คนพลังบวก
พลังงานมันส่งต่อกันได้ ถ้าอยู่กับคนที่มองโลกในแง่ดี เราจะเผลอติดนิสัยนั้นมาด้วย แบบเดียวกับที่หาวแล้วคนรอบ ๆ หาวตามนั่นแหละ 😆
5. ฝึกขอบคุณทุกวัน
ก่อนนอนลองลิสต์ 3 สิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณในวันนั้น แม้จะเล็กแค่กาแฟแก้วอร่อย ก็พอแล้ว
การขอบคุณทำให้สมองโฟกัสกับสิ่งดี ๆ มากกว่าสิ่งที่ขาด
สรุป
การคิดบวกไม่ใช่การแกล้งทำเป็นไม่เห็นปัญหา แต่คือการเลือกมุมมองที่ทำให้เรา เข้มแข็งและก้าวต่อไปได้
เหมือนกับการเล่นฟิตเนส กล้ามเนื้อยิ่งฝึกยิ่งแข็งแรง เช่นเดียวกันกับ กล้ามเนื้อความคิดเชิงบวก ที่เราสามารถสร้างได้ทุกวัน
แล้ววันหนึ่ง คุณจะพบว่าต่อให้โลกโยนความวุ่นวายมาใส่ คุณก็ยังยิ้มได้ พร้อมพูดว่า:
“เอาอีกสิ ชีวิต! ฉันพร้อมรับมือแล้ว” 🌈✨
ชีวิตคิดบวกสร้างไว้เป็นเกราะให้ตัวคุณ
เมื่อเหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่หวัง แต่มีบางคน กลับยิ้มได้เฉย
แถมยังพูดปลอบใจตัวเองว่า "ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมันก็ผ่านไป"
เราควรต้องทำอย่างไร
ความลับไม่ได้อยู่ที่เขาไม่เจอปัญหา แต่เพราะเขามี “กล้ามเนื้อความคิดเชิงบวก” ที่ฝึกจนแข็งแรงนั่นเอง
1 มองหาด้านดีเล็ก ในเรื่องแย่ (มันไม่ง่ายใช่ไหม)
แทนที่จะจมอยู่กับปัญหา ลองถามตัวเองว่า
👉 เรื่องนี้มันสอนอะไรเราได้บ้าง?
👉 อย่างน้อยมันช่วยให้เราเห็นชัดขึ้นว่าเราต้องปรับปรุงตรงไหน?
เช่น รถติด = ฉันได้ฟังพอดแคสต์จบหนึ่งตอน,
งานหนัก = โอกาสฝึกความอดทน (เพราะไม่งานไหนไม่หนัก ถ้าเราถนัด งานที่หนักคืองานที่เรายังไม่เชี่ยวชาญ ถ้าได้ทำบ่อยๆ ความเชี่ยวชาญก็จะตามมา)
2. เปลี่ยนคำพูด เปลี่ยนพลังใจ
คำพูดในหัวของเราสร้างโลกทั้งใบ ถ้าเราพูดกับตัวเองว่า “แย่แน่เลย” มันก็จะแย่ขึ้นจริง ๆ ลองเปลี่ยนเป็นคำง่าย ๆ เช่น
“มันยาก แต่ฉันไหว”
“ฉันกำลังเรียนรู้อะไรบางอย่างอยู่”
"มันจะทำให้ฉันเก่งขึ้น"
3. หัด “ซูมออก” จากปัญหา
เวลามีเรื่องกดดัน ลองจินตนาการว่าตัวเองเป็นผู้กำกับหนังแล้วซูมกล้องออกมา ปัญหาที่ใหญ่โตตรงหน้าอาจกลายเป็นแค่ “ฉากเล็ก ๆ” ในชีวิตทั้งเรื่อง
แล้วเราจะได้ไม่เอาจริงเอาจังเกินไป
4. อยู่ใกล้คนพลังบวก
พลังงานมันส่งต่อกันได้ ถ้าอยู่กับคนที่มองโลกในแง่ดี เราจะเผลอติดนิสัยนั้นมาด้วย แบบเดียวกับที่หาวแล้วคนรอบ ๆ หาวตามนั่นแหละ 😆
5. ฝึกขอบคุณทุกวัน
ก่อนนอนลองลิสต์ 3 สิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณในวันนั้น แม้จะเล็กแค่กาแฟแก้วอร่อย ก็พอแล้ว
การขอบคุณทำให้สมองโฟกัสกับสิ่งดี ๆ มากกว่าสิ่งที่ขาด
สรุป
การคิดบวกไม่ใช่การแกล้งทำเป็นไม่เห็นปัญหา แต่คือการเลือกมุมมองที่ทำให้เรา เข้มแข็งและก้าวต่อไปได้
เหมือนกับการเล่นฟิตเนส กล้ามเนื้อยิ่งฝึกยิ่งแข็งแรง เช่นเดียวกันกับ กล้ามเนื้อความคิดเชิงบวก ที่เราสามารถสร้างได้ทุกวัน
แล้ววันหนึ่ง คุณจะพบว่าต่อให้โลกโยนความวุ่นวายมาใส่ คุณก็ยังยิ้มได้ พร้อมพูดว่า:
“เอาอีกสิ ชีวิต! ฉันพร้อมรับมือแล้ว” 🌈✨