หมดไฟจากการเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ตอนนี้ยังเอาไฟนั้นกลับมาไม่ได้เลย

กระทู้สนทนา
ก่อนหน้านี้ เราทำงานไปด้วยเรียนรามไปด้วย เพราะที่บ้านมีปัญหาหลายๆ อย่าง แต่หลักๆ ก็คือไม่มีตังส่งให้เรียนนั่นแหละ ยังมีน้องๆ อีก 2 คนที่ต้องส่งเรียนเหมือนกัน เราก็เลยถูกกึ่งๆ บังคับให้ต้องเสียสละเลือกเส้นทางนี้ เราทำงานแบบเต็มเวลาจันทร์ - ศุกร์เข้า 9 โมงเลิก 5 โมง แล้วกลับบ้านมานั่งดูเทปบรรยายวันละ 2 - 3 ชั่วโมง แล้วยังทำคลิปลงยูทูปทุกสัปดาห์หารายได้เสริม + เพราะว่าชอบทำอีก

ปีแรกๆ เรารู้สึกว่าเราเก่งมาที่สามารถจัดการทุกอย่างได้ นอนน้อย แต่ช่างมัน ไม่รู้เอาแรงมาจากไหนเยอะแยะ แต่มันสะสมมาเรื่อยๆ จนกระทั่งตอนใกล้เรียนจบ อยู่ดีๆ เราก็เริ่มรู้สึกว่าทุกอย่างที่เคยแบกมามันทำให้เหนื่อย เหนื่อยเกินไป เหมือนหมดไฟ เริ่มตัดสิ่งที่ต้องทำออกไปทีละอย่าง ยูทูปที่ชอบก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง จนสุดท้ายมีช่วงนึงเลิกทำไปเป็นปีๆ งานที่ทำก็เริ่มทำไปวันๆ ให้มันเสร็จๆ เหมือนจะทำอะไรน้อยลง มีเวลาพักมากขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย

พอเราเรียนจบ เราก็เลยลองเปลี่ยนงานดู ก็ยังเป็นสายงานคล้ายๆ เดิม ที่เคยทำตอนเรียนไปด้วย (แต่ก็ไม่ได้ตรงสายกับที่จบรามมา) อาศัยว่ามันเป็นสายงานเดิมที่ทำมาเกือบ 5 ปี + ตอนนี้มีวุฒิป.ตรีแล้ว เรียกเงินเดือนสูงๆ ไป จะได้เอาเงินไปซื้อความสุข สุดท้ายทำได้อยู่ 2 เดือนเขาไล่เราออก เพราะเราทำงานได้ไม่ตรงความคาดหวังของเขา

ตอนแรก เราโทษว่าเพราะนายจ้างใหม่เราเรื่องมาก จะไปทำงานให้ถูกใจเขาได้ไง แต่พอมาคิดดูดีๆ แล้ว เราว่าเป็นเพราะตัวเราเองแหละ อาการหมดไฟจากที่เก่ามันไม่หาย การเปลี่ยนงานใหม่ก็ไม่ได้ช่วยแก้อะไร เจอสภาพแวดล้อมที่ทำงานใหม่ที่ไม่เหมาะสมกับการทำงานของเรา ซึ่งเรามีอาการสมาธิสั้นแต่เด็กแล้วที่บ้านไม่เคยพาไปรักษาเลย แต่ก็อยู่รอดมาได้เรื่อยๆ เรียนได้ ทำงานได้ (แต่ก็เหนื่อยมากๆๆ เพราะต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่นหลายเท่า) ทีนี้กระเจิงเลย เหมือนปัญหาหลายๆ อย่างที่เราคิดว่าไม่เป็นไร เราเอาอยู่มันระเบิดออกมาใส่หน้าทีเดียว แล้ว... เราทำอะไรไม่ถูก

ตอนนี้ เราอยู่บ้านมาจะ 4 เดือนแล้ว รู้สึกไม่อยากทำอะไรเลย เหมือนมันอยากเอาคืนที่เคยโคตรเหนื่อยโดยการไม่ต้องทำอะไร แล้วเราคิดว่า อยู่เฉยๆ ไปสักพักมันคงดีขึ้นเอง เพราะถ้าเหนื่อย ก็พัก ม้นจะดีขึ้น แต่นี่มันผ่านมา 4 เดือนแล้ว มันไม่ได้ดีขึ้นเลย ถึงแม้เราจะไม่ได้อยู่เฉยๆ เราหางานฟรีแลนซ์ทำ จากประสบการณ์ที่มีจากสายงานเก่า และเริ่มสร้างคอนเนคชั่นในสายงานใหม่ที่ตัวเองเรียนจบมา มีเงินใช้จนถึงตอนนี้ไม่เคยเดือดร้อนคนที่บ้าน ถึงมันจะไม่ได้เยอะ แต่ก็อยู่ได้

แต่คนที่บ้านเราดูจะเดือดร้อนกับการที่เราทำงานอยู่บ้าน กดดันให้ออกไปหางานประจำทำ ทั้งๆ ที่เรารู้สึกว่าเราไม่พร้อม เราไม่อยาก เดี๋ยวก็เข้าอีหรอบเดิมอีก ที่ตลกคือ คนที่บ้านทำงานมีเงินเดือน แต่ก็ยังต้องระเห็จมาขอยืมเงินคนที่เขามองว่าว่างงานอยู่บ้านแบบเรา...

จะบอกว่าเราน้อยใจที่บ้านก็ได้ เพราะน้องเราสองคนพวกเขาก็ส่งให้เรียน คนนึงอาจจะต้องมีไปทำพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนบ้าง เพราะที่บ้านไม่ได้ให้เงินใช้ ให้แต่ค่าเรียน ส่วนลูกคนโปรดจัดการจ่ายให้ทุกอย่าง แม้แต่ค่าเช่าบ้านเพราะไปเรียนตจว. ในขณะที่เราตั้งแต่จบม.6 มาเราไม่เคยขอเงินเลยสักบาท หาส่งตัวเองเรียน หาเลี้ยงตัวเองมาตลอด บางทีก็ต้องให้เขายืมหมดไปหลายหมื่น แต่ก็ไม่เคยได้คืน เราก็ไม่อยากจะอะไร ถือว่าให้ไปเพราะทำให้เกิดมาแล้วกัน เราแค่รู้สึกว่า ถ้าไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดูมาตั้งแต่ตอนนั้น ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกัน ก็ไม่ต้องมายุ่งได้มั๊ยว่าเราจะเอายังไงกับชีวิตของเรา

คือ เราอาจจะขี้เกียจแบบที่เขาบอกจริงๆ ก็ได้ เราแค่รู้สึกว่า ที่ผ่านมาเราทำอะไรมาเยอะมากจนตอนนี้มันไม่อยากทำอะไรแล้ว จะอยู่หรือจะไปก็ไม่ได้แคร์เท่าไหร่ ของที่เคยทำให้เรามีความสุข ตั้งหน้าตั้งตาอยากมีชีวิตต่อไป ก็ไม่ได้ทำให้เรามีความสุขอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เลยหาทางอยู่แบบชิวๆ ไปแบบนี้โดยไม่เดือดร้อนใคร มันผิดมากเหรอที่เราเป็นแบบนี้? เราเหนื่อยแล้ว... เราไม่อยากจะอะไรแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่