สีกายุ โร่พบ "บิ๊กเต่า" หลังมีกลุ่มชายฉกรรจ์ บุกคุกคามถึงบ้านพัก เตรียมเร่งเดินทางกลับเยอรมนี หวั่นไม่ปลอดภัย ด้าน "ทนายอนันต์ชัย" เผยเตรียมแจ้งเอาผิด "พระคึกฤทธิ์" เพิ่มอีก 2 ประเด็น หลังพบเอาเงินวัดไปจ่ายโบนัส - ซื้อรถหรูให้คนใกล้ชิด
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 ตุลาคม 2568 ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พา นางกัญญาภัค ชไนเดอร์ หรือ สีกายุ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีการตรวจสอบพฤติกรรมของ พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง ว่ามีการทุจริตยักยอกเงินของวัดไปใช้โดยมิชอบ หรือไม่
นายอนันต์ชัย กล่าวว่า เหตุที่ต้องพา นางกัญญาภัค หรือ สีกายุ พยานคนสำคัญมาให้ปากคำกับทางตำรวจ บก.ปปป. อีกครั้งในวันนี้ ก็เพื่อต้องการให้กระบวนการสักถามพยานในส่วนของสีกายุเสร็จสิ้น เพื่อที่จะได้ให้เจ้าตัวเดินทางกลับประเทศเยอรมนีได้เร็วที่สุด เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากทราบว่าหลังเจ้าตัวเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ได้มีสาวกของพระวัดดัง จ.ปทุมธานี จำนวน 2 คน มายืนดักรอที่บริเวณประตู 4 ของสนามบิน ตนจึงประสานตำรวจสอบสวนกลาง ให้พาตัวออกประตู 7 แทน เลี่ยงการเผชิญหน้ากัน ก่อนจะพาขึ้นรถเดินทางมาเข้าให้ปากคำกับตำรวจ บก.ปปป. ในทันที
นายอนันต์ชัย กล่าวอีกว่า นอกจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ยังทราบว่าก่อนหน้านี้เคยมีกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวน 4-5 คน มาเดินถ่ายรูปบริเวณหน้าบ้านพักของ สีกายุ ซึ่งตนมาทราบข้อมูลจากสื่อว่า กลุ่มคนดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จึงอยากฝากถึงผู้บังคับบัญชาว่า กลุ่มคนดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดจริงหรือไม่ และ มาด้วยวัตถุประสงค์ใด
นายอนันต์ชัย กล่าวเสริมอีกว่า ขณะเดียวกันตนยังทราบข้อมูลจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนสำนักหนึ่งอีกว่า มีการตรวจสอบพบความผิดปกติของพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เกี่ยวกับการบริหารจัดการเงินของวัด 2 ประเด็น โดยเรื่องแรกเป็นประเด็นเกี่ยวกับการนำเงินบุญกฐินของวัดมาแจกจ่ายโบนัสให้กับคนใกล้ชิด จำนวน 4 คน และ อีกประเด็นคือ ทราบว่ามีการนำเงินของวัดไปซื้อรถหรูให้กับคนใกล้ชิด ซึ่งมีทั้งหญิงและชาย โดยทั้ง 2 เรื่องดังกล่าว ขณะนี้ตนมีพยานหลักฐานอยู่ในมือแล้วประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ และ ในเร็วๆ นี้ทางมูลนิธิทนายกองทัพธรรมจะนำหลักฐานทั้งหมดมาเข้าแจ้งความดำเนินคดีอย่างเป็นทางการ เพราะจากพฤติกรรมและหลักฐานที่มีอยู่ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า มีการนำเงินของวัดมาใช้ผิดวัตถุประสงค์
ขณะที่ นางกัญญาภัค กล่าวว่า จากกรณีที่มีคนแปลกหน้ามาที่บ้านพัก หรือ ดักรอที่สนามบิน ยอมรับว่าค่อนข้างเป็นกังวล และ กลัวในเรื่องของความปลอดภัย เพราะเหมือนกับตนกำลังถูกคุกคาม ส่วนที่ต้องเดินทางกลับมาให้ข้อมูลกับทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ก็เพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ และ นำหลักฐานต่างๆมามอบให้กับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม
https://www.thairath.co.th/news
สีกายุ โร่พบ "บิ๊กเต่า" หลังมีกลุ่มชายฉกรรจ์ บุกคุกคามถึงบ้านพัก ด้าน"ทนายอนันต์ชัย"เผยเตรียมแจ้งเอาผิดพระคึกฤทธิ์ เพิ่ม
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 ตุลาคม 2568 ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พา นางกัญญาภัค ชไนเดอร์ หรือ สีกายุ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีการตรวจสอบพฤติกรรมของ พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง ว่ามีการทุจริตยักยอกเงินของวัดไปใช้โดยมิชอบ หรือไม่
นายอนันต์ชัย กล่าวว่า เหตุที่ต้องพา นางกัญญาภัค หรือ สีกายุ พยานคนสำคัญมาให้ปากคำกับทางตำรวจ บก.ปปป. อีกครั้งในวันนี้ ก็เพื่อต้องการให้กระบวนการสักถามพยานในส่วนของสีกายุเสร็จสิ้น เพื่อที่จะได้ให้เจ้าตัวเดินทางกลับประเทศเยอรมนีได้เร็วที่สุด เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากทราบว่าหลังเจ้าตัวเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ได้มีสาวกของพระวัดดัง จ.ปทุมธานี จำนวน 2 คน มายืนดักรอที่บริเวณประตู 4 ของสนามบิน ตนจึงประสานตำรวจสอบสวนกลาง ให้พาตัวออกประตู 7 แทน เลี่ยงการเผชิญหน้ากัน ก่อนจะพาขึ้นรถเดินทางมาเข้าให้ปากคำกับตำรวจ บก.ปปป. ในทันที
นายอนันต์ชัย กล่าวอีกว่า นอกจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ยังทราบว่าก่อนหน้านี้เคยมีกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวน 4-5 คน มาเดินถ่ายรูปบริเวณหน้าบ้านพักของ สีกายุ ซึ่งตนมาทราบข้อมูลจากสื่อว่า กลุ่มคนดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จึงอยากฝากถึงผู้บังคับบัญชาว่า กลุ่มคนดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดจริงหรือไม่ และ มาด้วยวัตถุประสงค์ใด
นายอนันต์ชัย กล่าวเสริมอีกว่า ขณะเดียวกันตนยังทราบข้อมูลจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนสำนักหนึ่งอีกว่า มีการตรวจสอบพบความผิดปกติของพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เกี่ยวกับการบริหารจัดการเงินของวัด 2 ประเด็น โดยเรื่องแรกเป็นประเด็นเกี่ยวกับการนำเงินบุญกฐินของวัดมาแจกจ่ายโบนัสให้กับคนใกล้ชิด จำนวน 4 คน และ อีกประเด็นคือ ทราบว่ามีการนำเงินของวัดไปซื้อรถหรูให้กับคนใกล้ชิด ซึ่งมีทั้งหญิงและชาย โดยทั้ง 2 เรื่องดังกล่าว ขณะนี้ตนมีพยานหลักฐานอยู่ในมือแล้วประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ และ ในเร็วๆ นี้ทางมูลนิธิทนายกองทัพธรรมจะนำหลักฐานทั้งหมดมาเข้าแจ้งความดำเนินคดีอย่างเป็นทางการ เพราะจากพฤติกรรมและหลักฐานที่มีอยู่ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า มีการนำเงินของวัดมาใช้ผิดวัตถุประสงค์
ขณะที่ นางกัญญาภัค กล่าวว่า จากกรณีที่มีคนแปลกหน้ามาที่บ้านพัก หรือ ดักรอที่สนามบิน ยอมรับว่าค่อนข้างเป็นกังวล และ กลัวในเรื่องของความปลอดภัย เพราะเหมือนกับตนกำลังถูกคุกคาม ส่วนที่ต้องเดินทางกลับมาให้ข้อมูลกับทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ก็เพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ และ นำหลักฐานต่างๆมามอบให้กับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม
https://www.thairath.co.th/news