หุ้น AI + Healthcare เมกะเทรนด์ที่กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการแพทย์และสุขภาพ
วันนี้ AI ไม่ได้อยู่แค่ในวงการเทคโนโลยีอีกต่อไป แต่กำลังเข้ามาเปลี่ยนโลกการแพทย์และสุขภาพ ตัวอย่างเช่น
ตรวจโรคได้เร็วขึ้น → ตรวจเจอมะเร็งตั้งแต่ยังไม่มีอาการ
ค้นพบยาใหม่เร็วขึ้น → ใช้เวลาไม่กี่ปีแทนที่จะเป็นสิบปี
ผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ → ลดความเสี่ยงจากความเหนื่อยล้าของแพทย์
ดูแลสุขภาพจากที่บ้าน → เช็กค่าต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์
โอกาสที่น่าสนใจในกลุ่ม AI + Healthcare ไม่ได้มีเพียงภาพใหญ่ของเมกะเทรนด์เท่านั้น แต่ยังแยกย่อยออกมาเป็นหลายเซกเตอร์ที่สะท้อนทั้งศักยภาพการเติบโตและความเสี่ยงที่แตกต่างกันไป ลองมาดูกันว่าแต่ละด้านมีโอกาสลงทุนอะไรบ้าง
1. หุ้นตรวจโรคระยะแรก (Early Disease Detection)
AI สามารถตรวจจับความผิดปกติได้ตั้งแต่ยังไม่แสดงอาการ เช่น มะเร็งระยะเริ่มต้น เพิ่มโอกาสรักษาหายและยืดอายุผู้ป่วยได้มากขึ้น
หุ้นเด่น: Guardant Health (GH), Exact Sciences (EXAS), Avant Technologies (AVAI)
2. หุ้นวิจัยและค้นพบยา (Drug Research & Discovery)
การค้นหายาใหม่เคยใช้เวลานานนับปี แต่ AI ทำให้จำลองและคัดเลือกโมเลกุลได้อย่างรวดเร็ว ลดเวลาและต้นทุนลงมหาศาล พร้อมเพิ่มความแม่นยำ
หุ้นเด่น: Recursion Pharma (RXRX), Schrodinger (SDGR), BioAge Labs (BIOA), Absci (ABSI), AbCellera Biologics (ABCL)
3. หุ้นวิเคราะห์จีโนมและข้อมูลชีวภาพหลายมิติ (Genomics & Multi-omics Sequencing)
การอ่าน DNA/RNA ด้วย AI ช่วยบอกความเสี่ยงโรคและออกแบบการรักษาที่เจาะจงเฉพาะบุคคล ไม่ใช่แนวทางการรักษาแบบสูตรเดียวใช้ได้กับทุกคนอีกต่อไป
หุ้นเด่น: Tempus AI (TEM), 10X Genomics (TXG), Illumina (ILMN), CRISPR Therapeutics (CRSP), Beam Therapeutics (BEAM), Twist Bioscience (TWST)
4. หุ้นหุ่นยนต์ผ่าตัดและระบบอัตโนมัติ (Surgical Robotics & Automation)
หุ่นยนต์ผ่าตัดทำงานได้ละเอียดและแม่นยำกว่ามนุษย์ ไม่เหนื่อย ไม่สั่น ลดความเสี่ยงความผิดพลาดจากแพทย์ และเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ป่วย
หุ้นเด่น: Intuitive Surgical (ISRG), Vicarious Surgical (RBOT)
5. หุ้นการแพทย์ทางไกลและเฝ้าติดตามผู้ป่วย (Telehealth & Remote Care)
จากพฤติกรรมใหม่หลังโควิด Telemedicine และอุปกรณ์ติดตามสุขภาพจากบ้านกำลังกลายเป็นเรื่องปกติ ผู้ป่วยสามารถพบแพทย์ออนไลน์และตรวจสุขภาพแบบเรียลไทม์ได้ตลอดเวลา
หุ้นเด่น: Molina Healthcare (MOH), Cardinal Health (CAH), Teladoc Health (TDOC), Stryker (SYK), Hims & Hers (HIMS)
6. หุ้นเทคโนโลยีสนับสนุนระบบการแพทย์ (Healthcare Tech & Data Systems)
เบื้องหลังระบบการแพทย์สมัยใหม่คือเทคโนโลยีที่ช่วยถ่ายภาพ วิเคราะห์ข้อมูล และจัดการ workflow ของโรงพยาบาล กลุ่มนี้แม้จะไม่เด่นเท่า แต่เป็นฟันเฟืองสำคัญของระบบ
หุ้นเด่น: Butterfly Network (BFLY), Nano-X Imaging (NNOX), RadNet (RDNT), Weave Communications (WEAV), Definitive Healthcare (DH), Doximity (DOCS), Veeva Systems (VEEV), GE Healthcare Tech (GEHC), Ginkgo Bioworks (DNA)
ในปี 2025 ตลาด AI ด้านการแพทย์และสุขภาพถูกคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 35–40 พันล้านดอลลาร์ โดยมีการประเมินจากหลายสำนัก เช่น Grand View Research, Precedence Research และ Roots Analysis ซึ่งต่างก็ให้ตัวเลขใกล้เคียงกัน
หากตลาดขยายครบ value chain ตั้งแต่การตรวจโรค ค้นหายา ผ่าตัด Telehealth และระบบข้อมูลสุขภาพ ตัวเลขรวมอาจขยับสูงกว่านี้อีกในอนาคต
และเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดสุขภาพโลกที่มีขนาดใหญ่อยู่แล้ว การผสาน AI เข้ากับบริการสุขภาพจึงถูกมองว่าเป็นหนึ่งในโอกาสการลงทุนระดับหลายหมื่นพันล้านดอลลาร์ที่น่าจับตา
หุ้น AI + Healthcare เมกะเทรนด์ที่กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการแพทย์และสุขภาพ
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะวันนี้ AI ไม่ได้อยู่แค่ในวงการเทคโนโลยีอีกต่อไป แต่กำลังเข้ามาเปลี่ยนโลกการแพทย์และสุขภาพ ตัวอย่างเช่น
ตรวจโรคได้เร็วขึ้น → ตรวจเจอมะเร็งตั้งแต่ยังไม่มีอาการ
ค้นพบยาใหม่เร็วขึ้น → ใช้เวลาไม่กี่ปีแทนที่จะเป็นสิบปี
ผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ → ลดความเสี่ยงจากความเหนื่อยล้าของแพทย์
ดูแลสุขภาพจากที่บ้าน → เช็กค่าต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์
โอกาสที่น่าสนใจในกลุ่ม AI + Healthcare ไม่ได้มีเพียงภาพใหญ่ของเมกะเทรนด์เท่านั้น แต่ยังแยกย่อยออกมาเป็นหลายเซกเตอร์ที่สะท้อนทั้งศักยภาพการเติบโตและความเสี่ยงที่แตกต่างกันไป ลองมาดูกันว่าแต่ละด้านมีโอกาสลงทุนอะไรบ้าง
1. หุ้นตรวจโรคระยะแรก (Early Disease Detection)
AI สามารถตรวจจับความผิดปกติได้ตั้งแต่ยังไม่แสดงอาการ เช่น มะเร็งระยะเริ่มต้น เพิ่มโอกาสรักษาหายและยืดอายุผู้ป่วยได้มากขึ้น
หุ้นเด่น: Guardant Health (GH), Exact Sciences (EXAS), Avant Technologies (AVAI)
2. หุ้นวิจัยและค้นพบยา (Drug Research & Discovery)
การค้นหายาใหม่เคยใช้เวลานานนับปี แต่ AI ทำให้จำลองและคัดเลือกโมเลกุลได้อย่างรวดเร็ว ลดเวลาและต้นทุนลงมหาศาล พร้อมเพิ่มความแม่นยำ
หุ้นเด่น: Recursion Pharma (RXRX), Schrodinger (SDGR), BioAge Labs (BIOA), Absci (ABSI), AbCellera Biologics (ABCL)
3. หุ้นวิเคราะห์จีโนมและข้อมูลชีวภาพหลายมิติ (Genomics & Multi-omics Sequencing)
การอ่าน DNA/RNA ด้วย AI ช่วยบอกความเสี่ยงโรคและออกแบบการรักษาที่เจาะจงเฉพาะบุคคล ไม่ใช่แนวทางการรักษาแบบสูตรเดียวใช้ได้กับทุกคนอีกต่อไป
หุ้นเด่น: Tempus AI (TEM), 10X Genomics (TXG), Illumina (ILMN), CRISPR Therapeutics (CRSP), Beam Therapeutics (BEAM), Twist Bioscience (TWST)
4. หุ้นหุ่นยนต์ผ่าตัดและระบบอัตโนมัติ (Surgical Robotics & Automation)
หุ่นยนต์ผ่าตัดทำงานได้ละเอียดและแม่นยำกว่ามนุษย์ ไม่เหนื่อย ไม่สั่น ลดความเสี่ยงความผิดพลาดจากแพทย์ และเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ป่วย
หุ้นเด่น: Intuitive Surgical (ISRG), Vicarious Surgical (RBOT)
5. หุ้นการแพทย์ทางไกลและเฝ้าติดตามผู้ป่วย (Telehealth & Remote Care)
จากพฤติกรรมใหม่หลังโควิด Telemedicine และอุปกรณ์ติดตามสุขภาพจากบ้านกำลังกลายเป็นเรื่องปกติ ผู้ป่วยสามารถพบแพทย์ออนไลน์และตรวจสุขภาพแบบเรียลไทม์ได้ตลอดเวลา
หุ้นเด่น: Molina Healthcare (MOH), Cardinal Health (CAH), Teladoc Health (TDOC), Stryker (SYK), Hims & Hers (HIMS)
6. หุ้นเทคโนโลยีสนับสนุนระบบการแพทย์ (Healthcare Tech & Data Systems)
เบื้องหลังระบบการแพทย์สมัยใหม่คือเทคโนโลยีที่ช่วยถ่ายภาพ วิเคราะห์ข้อมูล และจัดการ workflow ของโรงพยาบาล กลุ่มนี้แม้จะไม่เด่นเท่า แต่เป็นฟันเฟืองสำคัญของระบบ
หุ้นเด่น: Butterfly Network (BFLY), Nano-X Imaging (NNOX), RadNet (RDNT), Weave Communications (WEAV), Definitive Healthcare (DH), Doximity (DOCS), Veeva Systems (VEEV), GE Healthcare Tech (GEHC), Ginkgo Bioworks (DNA)
ในปี 2025 ตลาด AI ด้านการแพทย์และสุขภาพถูกคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 35–40 พันล้านดอลลาร์ โดยมีการประเมินจากหลายสำนัก เช่น Grand View Research, Precedence Research และ Roots Analysis ซึ่งต่างก็ให้ตัวเลขใกล้เคียงกัน
หากตลาดขยายครบ value chain ตั้งแต่การตรวจโรค ค้นหายา ผ่าตัด Telehealth และระบบข้อมูลสุขภาพ ตัวเลขรวมอาจขยับสูงกว่านี้อีกในอนาคต
และเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดสุขภาพโลกที่มีขนาดใหญ่อยู่แล้ว การผสาน AI เข้ากับบริการสุขภาพจึงถูกมองว่าเป็นหนึ่งในโอกาสการลงทุนระดับหลายหมื่นพันล้านดอลลาร์ที่น่าจับตา