ช่วยฮุนเซนเหิมเกริม!สื่อสหรัฐฯแฉจีนส่งอาวุธให้กัมพูชาเพียบก่อนเปิดศึกไทย เชื่อเขมรเตรียมการมานานแล้ว
เครื่องบินขนส่งทางทหารของจีนหลายลำ ได้ส่งมอบจรวด กระสุนปืนใหญ่และกระสุนปืนครกแก่กัมพูชา ไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ประเด็นพิพาทตามแนวชายแดนกับไทย จะปะทุลุกลามเข้าสู่สงครามเสียเลือดเสียเนื้อช่วงสั้นๆในเดือนกรกฏาคม ตามรายงานของสำนักข่าวนิวยอร์กไทม์ส อ้างอิงการพบเห็นในเอกสารข่าวกรองของไทย
รายงานข่าวกรองดังกล่าว ซึ่งได้รับการยืนยันจากพวกเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของไทย เน้นย้ำว่าเครื่องบินลำเลียง Y-20 จำนวน 6 ลำ ได้ลงจอดที่เมืองสีหนุวิลล์ ระหว่างวันที่ 21 กรกฏาคม ถึง 23 กรฏาคม โดยเครื่องบินเหล่านี้บรรทุกตู้บรรจุกระสุน 42 ตู้ ที่ต่อมาถูกเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ชายแดนใกล้ปราสาทพระวิหาร ที่ทั้ง 2 ประเทศต่างกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ ตามรายงานของนิวยอร์กไทม์ส
การส่งมอบดังกล่าว ซึ่งไม่เคยมีรายงานมาก่อน ประจวบเหมาะกับที่กัมพูชาเสริมกำลังตามแนวชายแดน ในนั้นรวมถึงการสร้างถนนใหม่และฐานแห่งใหม่ที่สามารถเห็นได้ในภาพถ่ายดาวเทียม พวกนักวิเคราะห์บอกกับนิวยอร์กไทม์สว่าความเคลื่อนไหวนี้เป็นการส่งสัญญาณถึงท่าทีก้าวร้าวกว่าเดิมมากเมื่อเทียบกับการเผชิญหน้าในอดีตที่ผ่านมา
สุดท้ายแล้วการสู้รบก็ปะทุขึ้นในช่วงปลายเดือนกรกฏาคม หลังจากลากยาว 5 วัน และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 ราย อีกหลายแสนคนต้องโยกย้ายถิ่นฐาน เจ้าหน้าที่ไทยบอกว่ากัมพูชายิงจรวดโจมตีสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง โรงพยาบาลแห่งหนึ่งและบ้านเรือนประชาชนหลายหลัง ปลิดชีพพลเรือนอย่างน้อย 13 ราย ส่วนไทยตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศโดยเครื่องบิน F-16 ถือเป็นการยืนยันถึงความเหนือกว่าด้านการทหารอย่างรวดเร็ว
นิวยอร์กไทม์ส ระบุว่าพวกเจ้าหน้าที่กลาโหมกัมพูชาไม่ปฏิเสธข่าวเกี่ยวกับการส่งมอบ แต่บอกว่าความเคลื่อนไหวของอาวุธเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการซ้อมรบร่วมกับกองทัพปลดแอกประชาชนจีนในเดือนพฤษภาคม ขณะที่กระทรวงกลาโหมจีนยืนกรานปฏิเสธว่า พวกเขาไม่ได้ป้อนอาวุธให้กัมพูชาเอาไปใช้เล่นงานไทย
พวกนักสังเกตการณ์อิสระยืนยันข้อเท็จจริงในส่วนสำคัญของข่าวกรองของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่อาวุธส่วนใหญ่ที่กัมพูชาใช้นั้น มีแหล่งที่มาจากจีน ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชน Fortify Rights บอกว่ากองกำลังกัมพูชายิงจรวดที่ผลิตโดยจีนใส่จังหวัดต่างๆของไทยระหว่างความขัดแย้ง
การออกมาเปิดโปงของนิวยอร์กไทม์ส สื่อมวลชนสหรัฐฯในครั้งนี้ ก่อความยุ่งยากซับซ้อนแก่จีน ที่พยายามวางตัวในฐานะคนกลางโดยธรรมชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปักกิ่งทำงานอยู่หลังฉากเป็นคนกลางในข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชา แต่อีกด้านหนึ่งดูเหมือนว่าอาวุธของพวกเขาจะเป็นตัวโหมกระพือความขัดแย้งเสียเอง
รายงานข่าวระบุว่าทั้งกัมพูชาและไทยเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และพึ่งพิงอย่างมากต่ออาวุธของจีน พวกนักวิเคราะห์ชี้ว่า ฮุนเซน ผู้นำกัมพูชา อาจฮึกเหิมจากการได้ปักกิ่งหนุนหลัง เชื่อว่าประเทศของเขาอยูในสถานะที่แข็งแกร่งขึ้นมากกว่าการปะทะครั้งไหนๆในอดีตที่ผ่านมา
นิวยอร์กไทม์ส รายงานว่าประเด็นพิพาทมีแก่นกลางอยู่ที่ปราสาทต่างๆตามแนวหน้าหนึ่ง ที่แบ่งเขตกันระหว่างยุคสมัยที่กัมพูชาเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส โดยในขณะที่ศาลระหว่างประเทศตัดสินในช่วงยุคทศวรรษ 1960 ว่าประสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา แต่ ไทย ไม่เคยยอมรับคำตัดสินดังกล่าว
"หลักฐานทั้งหมดบ่งชี้ว่ามันเป็นการตัดสินใจที่วางแผนมาแล้วโดยผู้นำกัมพูชา ล่วงหน้าเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี ก่อนการปะทะตามแนวชายแดน เพื่อเปลี่ยนสภาพการณ์ปัจจุบัน" นาธาน รูเซอร์ จากสถาบันนโยบายยุทธศาสตร์ออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์กไทม์ส
สำนักข่าวนิวยอร์กไทม์ส รายงานปิดท้ายว่า แม้การสู้รบคลี่คลายลงไปแล้วภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่เปราะบางหนึ่งๆ แต่การเปิดโปงครั้งนี้ก่อคำถามเกี่ยวกับบทบาทคู่ขนานของจีน ทั้งในฐานะผู้จัดหาอาวุธและผู้รักษาสันติภาพ ในหนึ่งศึกพิพาทด้านเขตแดนที่จุดติดไฟง่ายที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(ที่มา:ศรีลังกาการ์เดียน/นิวยอร์กไทม์ส)
อ้าว USAเสี้ยม หรือจีนทำจริง ; สื่อสหรัฐฯแฉจีนส่งอาวุธให้กัมพูชาเพียบก่อนเปิดศึกไทย เชื่อเขมรเตรียมการมานานแล้ว
เครื่องบินขนส่งทางทหารของจีนหลายลำ ได้ส่งมอบจรวด กระสุนปืนใหญ่และกระสุนปืนครกแก่กัมพูชา ไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ประเด็นพิพาทตามแนวชายแดนกับไทย จะปะทุลุกลามเข้าสู่สงครามเสียเลือดเสียเนื้อช่วงสั้นๆในเดือนกรกฏาคม ตามรายงานของสำนักข่าวนิวยอร์กไทม์ส อ้างอิงการพบเห็นในเอกสารข่าวกรองของไทย
รายงานข่าวกรองดังกล่าว ซึ่งได้รับการยืนยันจากพวกเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของไทย เน้นย้ำว่าเครื่องบินลำเลียง Y-20 จำนวน 6 ลำ ได้ลงจอดที่เมืองสีหนุวิลล์ ระหว่างวันที่ 21 กรกฏาคม ถึง 23 กรฏาคม โดยเครื่องบินเหล่านี้บรรทุกตู้บรรจุกระสุน 42 ตู้ ที่ต่อมาถูกเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ชายแดนใกล้ปราสาทพระวิหาร ที่ทั้ง 2 ประเทศต่างกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ ตามรายงานของนิวยอร์กไทม์ส
การส่งมอบดังกล่าว ซึ่งไม่เคยมีรายงานมาก่อน ประจวบเหมาะกับที่กัมพูชาเสริมกำลังตามแนวชายแดน ในนั้นรวมถึงการสร้างถนนใหม่และฐานแห่งใหม่ที่สามารถเห็นได้ในภาพถ่ายดาวเทียม พวกนักวิเคราะห์บอกกับนิวยอร์กไทม์สว่าความเคลื่อนไหวนี้เป็นการส่งสัญญาณถึงท่าทีก้าวร้าวกว่าเดิมมากเมื่อเทียบกับการเผชิญหน้าในอดีตที่ผ่านมา
สุดท้ายแล้วการสู้รบก็ปะทุขึ้นในช่วงปลายเดือนกรกฏาคม หลังจากลากยาว 5 วัน และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 ราย อีกหลายแสนคนต้องโยกย้ายถิ่นฐาน เจ้าหน้าที่ไทยบอกว่ากัมพูชายิงจรวดโจมตีสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง โรงพยาบาลแห่งหนึ่งและบ้านเรือนประชาชนหลายหลัง ปลิดชีพพลเรือนอย่างน้อย 13 ราย ส่วนไทยตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศโดยเครื่องบิน F-16 ถือเป็นการยืนยันถึงความเหนือกว่าด้านการทหารอย่างรวดเร็ว
พวกนักสังเกตการณ์อิสระยืนยันข้อเท็จจริงในส่วนสำคัญของข่าวกรองของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่อาวุธส่วนใหญ่ที่กัมพูชาใช้นั้น มีแหล่งที่มาจากจีน ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชน Fortify Rights บอกว่ากองกำลังกัมพูชายิงจรวดที่ผลิตโดยจีนใส่จังหวัดต่างๆของไทยระหว่างความขัดแย้ง
การออกมาเปิดโปงของนิวยอร์กไทม์ส สื่อมวลชนสหรัฐฯในครั้งนี้ ก่อความยุ่งยากซับซ้อนแก่จีน ที่พยายามวางตัวในฐานะคนกลางโดยธรรมชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปักกิ่งทำงานอยู่หลังฉากเป็นคนกลางในข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชา แต่อีกด้านหนึ่งดูเหมือนว่าอาวุธของพวกเขาจะเป็นตัวโหมกระพือความขัดแย้งเสียเอง
รายงานข่าวระบุว่าทั้งกัมพูชาและไทยเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และพึ่งพิงอย่างมากต่ออาวุธของจีน พวกนักวิเคราะห์ชี้ว่า ฮุนเซน ผู้นำกัมพูชา อาจฮึกเหิมจากการได้ปักกิ่งหนุนหลัง เชื่อว่าประเทศของเขาอยูในสถานะที่แข็งแกร่งขึ้นมากกว่าการปะทะครั้งไหนๆในอดีตที่ผ่านมา
นิวยอร์กไทม์ส รายงานว่าประเด็นพิพาทมีแก่นกลางอยู่ที่ปราสาทต่างๆตามแนวหน้าหนึ่ง ที่แบ่งเขตกันระหว่างยุคสมัยที่กัมพูชาเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส โดยในขณะที่ศาลระหว่างประเทศตัดสินในช่วงยุคทศวรรษ 1960 ว่าประสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา แต่ ไทย ไม่เคยยอมรับคำตัดสินดังกล่าว
"หลักฐานทั้งหมดบ่งชี้ว่ามันเป็นการตัดสินใจที่วางแผนมาแล้วโดยผู้นำกัมพูชา ล่วงหน้าเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี ก่อนการปะทะตามแนวชายแดน เพื่อเปลี่ยนสภาพการณ์ปัจจุบัน" นาธาน รูเซอร์ จากสถาบันนโยบายยุทธศาสตร์ออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์กไทม์ส
สำนักข่าวนิวยอร์กไทม์ส รายงานปิดท้ายว่า แม้การสู้รบคลี่คลายลงไปแล้วภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่เปราะบางหนึ่งๆ แต่การเปิดโปงครั้งนี้ก่อคำถามเกี่ยวกับบทบาทคู่ขนานของจีน ทั้งในฐานะผู้จัดหาอาวุธและผู้รักษาสันติภาพ ในหนึ่งศึกพิพาทด้านเขตแดนที่จุดติดไฟง่ายที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(ที่มา:ศรีลังกาการ์เดียน/นิวยอร์กไทม์ส)