เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ผมได้ทำการย้ายค่าย จากค่ายเขียวมาค่ายแดงพร้อมกัน 2 เบอร์ ซึ่งผมได้ชำระค่าบริการที่ค้างอยู่ทั้งหมดแล้ว ซึ่งผมจะขอเรียก 2 เบอร์นี้ เป็นซิมหลัก กับซิมรอง นะครับ ตอนที่ผมทำเรื่องย้ายได้เดินเข้าไปที่ช็อปค่ายเขียว สาขายโสธร เพื่อสอบถามพนักงานค่ายเขียวว่า ผมต้องการใช้ต่อเพียงซิมหลักซิมเดียว พนักงานค่ายเขียวจึงแจ้งให้ผมทำเรื่องย้ายซิมหลักเป็นรายเดือน ส่วนซิมรองเป็นระบบเติมเงิน หลังจากนั้นพนักงานแจ้งว่าย้ายค่ายสำเร็จแล้ว ซิมรองหากไม่ได้ใช้ ตัวซิมจะถูกยกเลิกบริการไปเอง และมีการแจ้งเตือนเข้าโทรศัพท์ในรูปที่ (1)
หลังจากนั้นผมก็ใช้งานซิมหลักมาได้ปกติ แล้วปล่อยซิมรองให้ถูกยกเลิกไปเองตามที่พนักงานค่ายเขียวแจ้ง

แต่ว่าอยู่ ๆ วันที่ 25 กันยายน 2568 ก็มีจดหมายแจ้งหนี้จากสำนักงานกฎหมายกรวีร์ ในรูปที่ (2) แจ้งว่าเบอร์ซิมรองมียอดค้างชำระ 2,818.54 บาท ซึ่งทีแรกผมเข้าใจว่าเป็นมิจฉาชีพส่งจดหมายมา จึงเข้ามาค้นข้อมูลดู ทำให้ทราบว่ามีสมาชิกหลายท่านได้รับจดหมายแจ้งหนี้ดังกล่าว ด้วยเหตุผลคล้ายกันคือ ไม่ได้ใช้บริการของทางค่ายแดงนานแล้ว แต่จู่ ๆ ก็มีจดหมายทวงหนี้ ผมจึงตัดสินใจทักหลังไมค์ไปทางค่ายแดง เพื่อเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แล้วก็มีคอลเซ็นเตอร์จากค่ายแดงโทรมา ในทีแรกคอลเซ็นเตอร์ค่ายแดงเสนอปรับลด 1 รอบบิลให้ แต่ผมมองว่าไม่สมเหตุสมผลที่จะต้องจ่ายยอดค้างที่ผมไม่ได้ใช้งานเลย และผมก็ได้รับข้อความจากค่ายเขียวแล้วด้วย ว่าซิมรองย้ายมาเป็นระบบเติมเงินของค่ายเขียวแล้ว ทำให้ผมไม่ได้ฉุกคิดว่าจะมีการย้ายค่ายไม่สำเร็จ เจรจากันอีกสักพักใหญ่ สุดท้ายแล้วผมเลยเสนอขอปรับลด 3 รอบบิล และจะชำระเพียงรอบบิลเดียว ทางคอลเซ็นเตอร์จึงรับเรื่อง และส่งเรื่องต่อขึ้นไป แล้วผมก็เข้าไปที่ช็อปค่ายเขียว สาขายโสธร เพื่อสอบถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทำเรื่องย้ายพร้อมกัน 2 ซิม 1 ซิมย้ายได้ อีกซิมย้ายไม่สำเร็จ พนักงานที่สาขาไม่สามารถตอบคำถามได้ และขอเวลา 1 วันเพื่อตรวจสอบหาความจริงที่เกิดขึ้น

วันที่ 26 กันยายน 2568 พนักงานค่ายเขียวได้โทรมาแจ้งว่า เบอร์ที่ย้ายไม่สำเร็จเนื่องจากติดสิทธิพิเศษของทางค่ายเดิม ตอนนั้นผมค่อนข้างวุ่นจึงไม่ได้ซักถามต่อ และในช่วงเย็นคอลเซ็นเตอร์ค่ายแดงโทรมาแจ้งว่าคำขอลด 3 รอบบิลได้รับการอนุมัติ ลูกค้าสามารถชำระยอดค้าง 648 บาท พร้อมยกเลิกเบอร์ที่ช็อปค่ายแดงได้เลย ในรูปที่ (3) แต่ผมค่อนข้างวุ่นเรื่องงานจึงไม่ได้เข้าไป

วันที่ 27 กันยายน 2568 ผมเข้าไปที่ช็อปค่ายแดงเพื่อชำระยอดค้าง 648 บาท พร้อมยกเลิกใช้ซิมรองนั้น ในรูปที่ (4) และกลับมาเรียบเรียงข้อความเพื่อส่งหาค่ายเขียวทางหลังไมค์พันทิป เพื่อต้องการให้มีส่วนรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากทางพนักงานช็อปค่ายเขียว และส่งข้อความ SMS ให้ผมเกิดความเข้าใจผิดว่าย้ายค่ายสำเร็จแล้ว ในรูปที่ (5) ซึ่งภัทรจากค่ายเขียวเป็นคนรับเรื่อง และช่วงบ่ายนั้นก็ได้โทรติดต่อมา ผมซักถามถึงการรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพราะผมพลาดที่ไม่ได้เช็คว่าซิมรองย้ายค่ายสำเร็จก็จริง แต่ทั้งพนักงานช็อปค่ายเขียว และ SMS มีส่วนเป็นอย่างมากให้ผมเชื่อแบบนั้น คอลเซ็นเตอร์ภัทรแจ้งผมว่า โดยปกติหากย้ายค่ายไม่สำเร็จจะต้องมีข้อความแจ้งเตือน แต่ผมซึ่งใช้ซิมหลักรับข้อความเพียงซิมเดียวไม่ได้รับข้อความดังกล่าว ทั้งที่ก่อนหน้าก็ส่งข้อความย้ายมาใช้ระบบเติมเงินที่ซิมหลัก ในรูปที่ (1) ของผมได้ปกติ คอลเซ็นเตอร์ภัทรจึงแจ้งให้ผมรอ 2 วันทำการ โดยจะดำเนินการ 2 อย่างคือ 1) หาหลักฐานที่ส่งความว่าย้ายค่ายไม่สำเร็จมาเพื่อยืนยันว่าไม่ใช่ความผิดของค่ายเขียว 2) หาแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ซึ่งผมก็ยอมรับข้อเสนอ

วันที่ 29 กันยายน 2568 คอลเซ็นเตอร์ภัทรได้โทรมาแจ้งผลให้ทราบ ว่า 1) ทางค่ายเขียวไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันว่าส่งข้อความแล้วได้ เนื่องจากสำรองข้อมูลไว้เพียง 90 วัน 2) ทาง ค่ายเขียวจะไม่ร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นแม้แต่บาทเดียว ซึ่งหลักจากฟังแล้วผมก็ไม่มีอะไรจะคุยกับคอลเซ็นเตอร์ภัทรต่อแล้ว
ผมจึงได้เรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความตั้งใจคือไม่อยากให้ใครต้องมาจ่ายค่าโง่ แบบที่ผมจ่ายไป การย้ายค่ายควรเช็คทุกซิมให้ดีว่าย้ายสำเร็จหรือไม่ หากไม่แล้ว อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่ตามมาเกินกว่าที่คุณจะคาดคิดไว้
ขอชื่นชมค่ายแดงคุณดูแลลูกค้าเก่าอย่างผมได้ดีมากจริง ๆ เงินก้อนดังกล่าวไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ เลย คุณเลือกที่จะรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น และดูแลลูกค้าเก่าอย่างจริงใจ ผมสัญญาว่าจะย้ายค่ายกลับไปหาคุณในเร็ว ๆ นี้
ส่วนค่ายเขียวการทำงานของพวกคุณไม่เป็นมืออาชีพมาก ๆ ผมเชื่อสิ่งที่พนักงานช็อปของคุณพูด SMS ที่คุณส่งแต่สุดท้ายกลับเกิดปัญหาที่ผมก็คาดไม่ถึง และขั้นตอนการรับฟังลูกค้า และแก้ไขปัญหาของพวกคุณก็แย่มากจริง ๆ คุณหาหลักฐานที่จะมายืนยันว่าคุณถูกไม่ได้ และเลือกที่จะลอยแพลูกค้าปัจจุบันอย่างไม่เหลียวแล ก็ขอให้คุณเจริญวันเจริญคืนแล้วกันครับ
แชร์อุทาหรณ์ ย้ายค่ายไม่สำเร็จ เกือบเสียค่าโง่ 2,800 บาท
หลังจากนั้นผมก็ใช้งานซิมหลักมาได้ปกติ แล้วปล่อยซิมรองให้ถูกยกเลิกไปเองตามที่พนักงานค่ายเขียวแจ้ง
แต่ว่าอยู่ ๆ วันที่ 25 กันยายน 2568 ก็มีจดหมายแจ้งหนี้จากสำนักงานกฎหมายกรวีร์ ในรูปที่ (2) แจ้งว่าเบอร์ซิมรองมียอดค้างชำระ 2,818.54 บาท ซึ่งทีแรกผมเข้าใจว่าเป็นมิจฉาชีพส่งจดหมายมา จึงเข้ามาค้นข้อมูลดู ทำให้ทราบว่ามีสมาชิกหลายท่านได้รับจดหมายแจ้งหนี้ดังกล่าว ด้วยเหตุผลคล้ายกันคือ ไม่ได้ใช้บริการของทางค่ายแดงนานแล้ว แต่จู่ ๆ ก็มีจดหมายทวงหนี้ ผมจึงตัดสินใจทักหลังไมค์ไปทางค่ายแดง เพื่อเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แล้วก็มีคอลเซ็นเตอร์จากค่ายแดงโทรมา ในทีแรกคอลเซ็นเตอร์ค่ายแดงเสนอปรับลด 1 รอบบิลให้ แต่ผมมองว่าไม่สมเหตุสมผลที่จะต้องจ่ายยอดค้างที่ผมไม่ได้ใช้งานเลย และผมก็ได้รับข้อความจากค่ายเขียวแล้วด้วย ว่าซิมรองย้ายมาเป็นระบบเติมเงินของค่ายเขียวแล้ว ทำให้ผมไม่ได้ฉุกคิดว่าจะมีการย้ายค่ายไม่สำเร็จ เจรจากันอีกสักพักใหญ่ สุดท้ายแล้วผมเลยเสนอขอปรับลด 3 รอบบิล และจะชำระเพียงรอบบิลเดียว ทางคอลเซ็นเตอร์จึงรับเรื่อง และส่งเรื่องต่อขึ้นไป แล้วผมก็เข้าไปที่ช็อปค่ายเขียว สาขายโสธร เพื่อสอบถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทำเรื่องย้ายพร้อมกัน 2 ซิม 1 ซิมย้ายได้ อีกซิมย้ายไม่สำเร็จ พนักงานที่สาขาไม่สามารถตอบคำถามได้ และขอเวลา 1 วันเพื่อตรวจสอบหาความจริงที่เกิดขึ้น
วันที่ 26 กันยายน 2568 พนักงานค่ายเขียวได้โทรมาแจ้งว่า เบอร์ที่ย้ายไม่สำเร็จเนื่องจากติดสิทธิพิเศษของทางค่ายเดิม ตอนนั้นผมค่อนข้างวุ่นจึงไม่ได้ซักถามต่อ และในช่วงเย็นคอลเซ็นเตอร์ค่ายแดงโทรมาแจ้งว่าคำขอลด 3 รอบบิลได้รับการอนุมัติ ลูกค้าสามารถชำระยอดค้าง 648 บาท พร้อมยกเลิกเบอร์ที่ช็อปค่ายแดงได้เลย ในรูปที่ (3) แต่ผมค่อนข้างวุ่นเรื่องงานจึงไม่ได้เข้าไป
วันที่ 27 กันยายน 2568 ผมเข้าไปที่ช็อปค่ายแดงเพื่อชำระยอดค้าง 648 บาท พร้อมยกเลิกใช้ซิมรองนั้น ในรูปที่ (4) และกลับมาเรียบเรียงข้อความเพื่อส่งหาค่ายเขียวทางหลังไมค์พันทิป เพื่อต้องการให้มีส่วนรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากทางพนักงานช็อปค่ายเขียว และส่งข้อความ SMS ให้ผมเกิดความเข้าใจผิดว่าย้ายค่ายสำเร็จแล้ว ในรูปที่ (5) ซึ่งภัทรจากค่ายเขียวเป็นคนรับเรื่อง และช่วงบ่ายนั้นก็ได้โทรติดต่อมา ผมซักถามถึงการรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพราะผมพลาดที่ไม่ได้เช็คว่าซิมรองย้ายค่ายสำเร็จก็จริง แต่ทั้งพนักงานช็อปค่ายเขียว และ SMS มีส่วนเป็นอย่างมากให้ผมเชื่อแบบนั้น คอลเซ็นเตอร์ภัทรแจ้งผมว่า โดยปกติหากย้ายค่ายไม่สำเร็จจะต้องมีข้อความแจ้งเตือน แต่ผมซึ่งใช้ซิมหลักรับข้อความเพียงซิมเดียวไม่ได้รับข้อความดังกล่าว ทั้งที่ก่อนหน้าก็ส่งข้อความย้ายมาใช้ระบบเติมเงินที่ซิมหลัก ในรูปที่ (1) ของผมได้ปกติ คอลเซ็นเตอร์ภัทรจึงแจ้งให้ผมรอ 2 วันทำการ โดยจะดำเนินการ 2 อย่างคือ 1) หาหลักฐานที่ส่งความว่าย้ายค่ายไม่สำเร็จมาเพื่อยืนยันว่าไม่ใช่ความผิดของค่ายเขียว 2) หาแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ซึ่งผมก็ยอมรับข้อเสนอ
วันที่ 29 กันยายน 2568 คอลเซ็นเตอร์ภัทรได้โทรมาแจ้งผลให้ทราบ ว่า 1) ทางค่ายเขียวไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันว่าส่งข้อความแล้วได้ เนื่องจากสำรองข้อมูลไว้เพียง 90 วัน 2) ทาง ค่ายเขียวจะไม่ร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นแม้แต่บาทเดียว ซึ่งหลักจากฟังแล้วผมก็ไม่มีอะไรจะคุยกับคอลเซ็นเตอร์ภัทรต่อแล้ว
ผมจึงได้เรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความตั้งใจคือไม่อยากให้ใครต้องมาจ่ายค่าโง่ แบบที่ผมจ่ายไป การย้ายค่ายควรเช็คทุกซิมให้ดีว่าย้ายสำเร็จหรือไม่ หากไม่แล้ว อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่ตามมาเกินกว่าที่คุณจะคาดคิดไว้
ขอชื่นชมค่ายแดงคุณดูแลลูกค้าเก่าอย่างผมได้ดีมากจริง ๆ เงินก้อนดังกล่าวไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ เลย คุณเลือกที่จะรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น และดูแลลูกค้าเก่าอย่างจริงใจ ผมสัญญาว่าจะย้ายค่ายกลับไปหาคุณในเร็ว ๆ นี้
ส่วนค่ายเขียวการทำงานของพวกคุณไม่เป็นมืออาชีพมาก ๆ ผมเชื่อสิ่งที่พนักงานช็อปของคุณพูด SMS ที่คุณส่งแต่สุดท้ายกลับเกิดปัญหาที่ผมก็คาดไม่ถึง และขั้นตอนการรับฟังลูกค้า และแก้ไขปัญหาของพวกคุณก็แย่มากจริง ๆ คุณหาหลักฐานที่จะมายืนยันว่าคุณถูกไม่ได้ และเลือกที่จะลอยแพลูกค้าปัจจุบันอย่างไม่เหลียวแล ก็ขอให้คุณเจริญวันเจริญคืนแล้วกันครับ