เจอพ่อแบบนี้ มีวิธีจัดการยังไง ???????? ช่วยด้วยค่ะไม่ไหวจริงๆ หลายๆเรื่องเลย

เราอายุ 28-29 นะคะ มีลูกชาย 1 คนอายุ 11 เราเลี้ยงลูกเองตั้งแต่เกิด จนพอลูกอายุ 1 ขวบเราไปหางานทำ เงินเดือน 9000 แต่แบ่งให้แม่(ที่ช่วยดูแลลูกให้เรษ) เดือนละ 4000 ในขณะที่ตอนนั้นเราอายุ 18 เราจัดฟันเพราะฟันเราเหยินมากกกกกกก เดือนละ 2000 และผ่อนมอไซเพื่อขับไปทำงานเดือนละ 1900 จ่ายค่าน้ำไฟเดือนละ  500 และช่วยค่าเช่าห้องพักที่แม่อยู่กะพ่อและลูกเรา 500 (=ช่วยห้องพักและน้ำไฟ 1000ละนะ) จากตรงนี้เราใช้เครื่องคิดเลขให้ค่ะ เหลือ 100 เช้า/เย็นกินข้าวบ้าน (แฟนเก่า.พ่อของลูก คือเราไปๆมาๆกับแม่นะคะ เพราะอยู่กับแฟนบ้านเขาเป็นกระต๊อปเลยมาเช่าให้เขา) แต่ที่ทำงานเรามีข้าวกลางวันฟรี แต่ๆๆๆ ยังไม่รวมค่าผ้าอนามัยนะเธอ555555  คือเราทำงานแบบไม่มีเงินเก็บเลยมา 4 ปี (โดยที่พ่อเราไม่เคยช่วยค่าใช้จ่ายไรเลยสักบาท แต่เขากินอยู่กับแม่นะ) แต่เขาทำงานนะ

โอเคเล่าต่อตั้งแต่ทำงานปีแรก ผ่านมาแต่ละปีเราจะได้เงินเดือนขึ้น 1000 โดยเราก็บอกพ่อแม่แหละ แต่ทีนี้ เราก็เริ่มอยากสวยไง แต่งหน้าตา ใส่คอนแทคเลน ทากันแดด สรุป พ่อบอกว่าไม่ได้ เงินทุกบาทต้องช่วยที่บ้านก่อน พอเงินเดือนขึ้น 1000 ก็เอามาช่วยค่าเช่าห้องเพิ่ม ไหนจะค่าน้ำไฟอีกเขาบอก (ค่าเช่าห้องเต็มจำนวนคือ 2000 ที่ที่เราช่วยเขา 1000 เพราะเราให้แม่ไป 4000 แล้ว ส่วนต่าง 1000ค่าห้อง คือแม่เอาเงินเราจ่ายค่าเช่าเองด้วย (โดยที่พ่อแม่ออกสักบาทเหมือนเดิม)

ทีนี้ปีต่อมา เงินเดือนเราขึ้น 1000 เหมือนเดิม แต่เราไม่กล้าบอกพ่อละกลัวโดนอีก แต่คิดว่า เราช่วยค่าห้องพักขนาดนี้แล้ว ไม่น่าจะเอาไรอีกนะ เราก็เลยลองบอกไป สรุป ไม่ผิดคาด เขาบอกว่าได้เงินเพิ่มก็จ่ายค่าห้องคนเดียวไปเลย 2000 เพราะว่าแม่ก็อยู่ดูแลหลานให้ แถมแม่ก็ไม่มีเวลาไปช่วยพ่อทำงานด้วย (พ่อทำขนส่งนะ แต่ไม่เคยให้เงินแม่เลยสักบาท แต่เขาถือว่ากินอยู่ด้วยกัน) และไม่เคยพาแม่กิน เที่ยวหรือซื้อของที่อยากได้ให้เลยสักครั้งในชีวิต แม่บอกเรามาน่ะ

ทีนี้เราเริ่มรู้ละว่า ถ้าบอกพ่อไม่ได้งั้นเราไม่บอก เพราะไม่มีเงินใช้เองเลย แค่ทำงานไปวันๆ ไม่มีอนาคต ไม่มีกำลังใจ ไม่มีรางวัลชีวิตตัวเองเลยตลอด  ปีที่ผ่านมา พอปีนั้นปีที่ 3 เราเลยตัดสินใจไม่บอกพ่อ และแน่นอนเขาถามค่ะ เรื่องเงินเดือน เราก็โกหกค่ะว่าประเมินเราไม่ดี ไม่ผ่านเลยทำให้เงินเดือนไม่ขึ้น เขาเลยบอกว่างั้นก็เตรียมออกเลยไปทำงานเซเว่นดีกว่า ได้ OT ด้วย บลาๆ  เราก็แบบ อิหยังวะ ???? และเขาไม่เชื่อว่าไม่ได้ขึ้น เลยให้เราจดรายรับจ่ายรายงานเขาทุกวัน แกรรรรรรรร ฉันอายุ 20 แล้วนะเว้ยยยย ตอนนั้น มันขนาดนั้นเลยอ่อ !!!! และขอดูเงินเข้าออก บช. ด้วย เราเลยเลี้ยงไม่ค่อยไปเจอเขา

จนปีสุดท้ายที่เราออก ปีที่ 4 เหตุคือพ่อเราเอาเอกสารเราไปออกรถ ซึ่งเราก็รับทราบแหละ และอยากมีรถยนต์ของตนเอง เพราะอายุเกิน 20 แล้ว แต่ประเด็นมันโป๊ะไงตรงที่ต้องใช้เอกสารเงินเดือนเพื่อยื่นซื้อรถ บรรเทิงเลย พ่อเห็นว่าเราเงินเดือน 12000 แล้ว ก็เลยโยนให้เราผ่อนด้วย เพราะมอไซก็ผ่อนหมดแล้ว (3ปี) ชื่อพ่อนะ แต่เราผ่อนคนเดียว 100% ทีนี้พ่อยื่นข้อเสนอใช้เงินเขาดาวน์ 56k แล้วเราผ่อนเดือนละ 7000 อะแก 7 ปี !! นี่คือรถที่ถูกสุดในตลาดแล้วด้วยนะ แต่เขาบอกว่าเดะเขาจ่ายค่าห้องพักเอง เราจ่ายแค่นี้ เพราะมอไซก็หมดแล้ว เหมือนไม่ได้มีภาระไรเพิ่มเยอะแยะ เพราะเขาก็ช่วยอยู่ ว่าซ่าน! แต่ก็แหละ เราก็อยากได้รถยนต์ด้วยอะเนาะเป็นสาวแล้ว 22-23 ตอนนั้น ก็ทำสัญญาซื้อรถ

ผ่อนได้ไม่ถึงเดือนเลยมั้ง พ่อไปคุยกะป้าคนที่เคยส่งเสียเราตอนเด็กๆ ว่าจะขอกับไปอยู่ด้วย แล้วบอกว่าเรามีลูกมาด้วยแล้วโดนแฟนทิ้ง เลยลำบากขอให้ป้าให้อภัยเราแล้วรับหลานหน่อย ป้าเราก็เห็นใจก็เลยให้กลับมา สรุปเลย ก็คือพ่อไม่ต้องจ่ายค่าน้ำไฟและค่าเช้าห้องพักละ แล้วที่ผ่านมา ทำไมไม่คุยกะป้าให้แต่แรก (คือป้าเราไล่ครอบครอบครัวเราออกจากบ้านตอนเราท้องตอน ม.5-6 อะ) แต่พอตัวเองจะเสียกลับคุยให้เลย เราก็ไม่คิดไร ถือว่าก็ดีอยู่บ้านเขาช่วยๆกันดูแลบ้านด้วยเพราะป้าเราแก่มากแล้ว แต่ในใจลึกๆ แอบหงุดหงิดพ่อนะ เราเลยออกจากงานเลย และหางานใหม่ ทีนี้เขาไม่ให้เราขับรถเพราะเราไม่มีใบขับขี่แต่เราขับเป็นแต่เด็กนะเพราะเขาสอน (ตั้งแต่ 10ขวบ) แต่ไม่เคยออกถนน แค่ขับในซอยร้าง และก็ซ้อมขับมาเรื่อยๆ แต่เราก็ไม่เคยเอารถเขาไปขับนะถ้าไม่มีเขาอยู่ แต่เราเป็นคนผ่อนไง หลังๆมาขอฝึกก็ไม่ให้หวงรถและเขาบอกว่าไม่ให้ขับจนกว่าจะมีใบขับขี่ เราก็เลยไปสอบใบขับขี่ ทีนี้เขาก็ไม่ให้ เอากุญแจพกไปทำงานด้วย เลยเราบอกเขาว่าต้องใช้รถเขาก็ให้ เพราะแม่เราบอกว่าเรามีใบขับขี่แล้วต้องให้ตามที่พูด ตอนนั้นเราไปทำงานนักแสดงประกอบ  ผ่านไปไม่ถึงเดือนตอนนั้นเจอโควิด งานแคนหมดเราเลยบอกพ่อว่างั้นเราปล่อยยึดนะ เขาเลยบอกว่าไม่เป็นไรเดะเขาช่วยผ่อน 5000 ที่เหลือเราออก เราก็เลยยื้อรถไว้ แต่ผ่านไม่กี่เดือน เราได้งานใหม่เงินเดือนสูงเลยล่ะ แต่ไม่บอกเขา เราเลยเสนอตัวเลยว่า เราผ่อน 5000 เองให้เขาผ่อนที่เหลือ เขาก็โอเคเลย
(เอ้อ ลืมบอกเราเลิกกะพ่อของลูกตั้งแต่ ลูก 2 ขวบนะและเขาเป็นแฟนคนแรกด้วย หลังจากนั้นเป็นแฟนคนใหม่คนที่ 2) ทีนี้เรากับแฟนคน 2 ก็อยู่กันมาไม่ได้มีปัญหาอะไรมา เกือบ 4 ปี เราไม่ไหว เพราะว่าเราเลี้ยง ผช ฝ่ายเดียว (เขาเป็น นศ) แต่อายุเท่านั้นกัน แต่เขาเหมือนดรอปเรียนไป 2 ปีเลยช้า  เราก็ซัพเขาไม่ไหว เงินเดือนเราตอนนั้น 18k แต่เราซัพเขาทุกอย่างเลย ทั้งค่ากิน น้ำมัน ค่าเทอม เที่ยว บลาๆ ก็เลยเลิกกันไป

จนมาคนล่าสุดคนที่ 3 และในปัจจุบัน 5 ปีแล้วยังคบอยู่ พ่อเห็นว่าแฟนเราคนนี้ดูแลเราดีมาก พาเที่ยวตลอด กินอะไรดีๆตลอด เลยบอกให้เราผ่อนรถคนเดียว และประกันรถ จากที่เคยหาร บอกว่าให้เราจ่ายกะแฟนเพราะเราเอารถไปทำงานและเที่ยวกับแฟน แต่แฟนเราก็ดีเกิน บอกว่าโอเคนะ เพราะใช้รถด้วยกันไปอีก ก็ดีเลยอะ แต่หลายๆเรื่องพอยอมแล้วมันก็มีตามมาอีก

กลับมาเรื่องบ้านป้า  อยู่มาหลายเดือนเขาก็เริ่มพูดเรื่องค่าน้ำไฟที่แพงขึ้น เราก็ออกตัวช่วยจ่ายเพราะว่าตั้งแต่อยู่มาไม่ได้ช่วยนะบอกตรงๆ แต่เรากะแม่ทำงานบ้านให้ทุกอย่าง แต่มันคงไม่พอแหละ อีกอย่างไหนจะแม่เราลูกเราก็ช่วยเขาค่ะ แต่พ่อไม่ออกสักบาทเหมือนเดิม เพราะอ้างว่าทำงานนอกบ้านและไม่ค่อยได้กลับบ้าน ไม่ต้องออกป้าคงไม่ว่า และเพราะเราจ่ายอยู่แล้ว .....

เอาจริงมีเป็นล้านเรื่องอะ แต่ขอสรุปว่า พ่อเราไม่เคยช่วยแบ่งเบาไรเลย และชอบโยนภารพอื่นๆมาให้เรา และล่าสุดเราไม่ได้นอนเพราะพ่อกรนดังทะลุบ้าน เราเลยบอกเขาให้ไปนอนที่รถ (เพราะพ่อทำงานขนส่งนอนกินกับรถมาตลอดชีวิตอยู่แล้ว เวลาไม่ได้งานก็นอนรอที่บริษัทในรถ)  แล้วคือหลังๆเหมือนขี้เกียจไม่ไปทำงาน เลยนอนบ้านยาวๆ บางทีหลายอาทิตย์ แต่ด้วยคำว่า "พ่อ" ค้ำคอเราเลยยอมมาตลอด เวลากินอะไรข้างนอก เรากะแฟนจ่ายหมด พ่อไม่เคยช่วยออกเลย ถึงแม้บางครั้งเขาเป็นคนชวนก็ตาม แล้วแบบบางทีไปซื้อของช้อปปิ้งเวลาเขาซื้ออะไรเขาจะมารวมจ่ายกะเราและตีเนียนไม่ให้เงิน มีตั้งแต่หลักสอบถึงหลักพัน หลักสิบเราไม่ติดหรอก แต่หลักร้อยพัน มันเกินไปปะ ???

พอเราพูดกะเขาตรงๆ เขาบอกว่าเออเดะไปหาเช่าห้องนอนเองข้างนอกก็ได้ (แต่แค่ค่าน้ำไฟบ้านยังไม่ช่วยสักบาท จะไปเช่าจริงดิ) แล้วเราเลยตกลงว่า ถ้าวันไหนรถมีของก็นอนบ้านได้ แต่ถ้าวันไหนไม่มีของต้องไปนอนรถ เขาบอกโอเค สบาย แต่ปัจจุบันนี้ผ่านมา 2-3 ปีละ เหมือนเดิม เราควรทำไง นอนก็ไม่ได้นอน กินไรเราก็ต้อง่ายเองออกเอง ทุกอย่าง เออลืมบอกอีก แล้วแม่เราจับได้ว่าพ่อเติมเกิมไปเกือบ 3 หมื่นเมื่อ1-2ปีที่แล้วนี่เอง แต่ปีนี้ไม่ทราบเลย

แล้วบ้านเราเล็กอะ มี 2 ห้องนอน เราครอบครัวนึง แล้วป้าเขาก็มีพี่น้องอีกไง ก็ครบแล้ว 2 ห้อง เราไม่อยากนอนห้องเดียวกับเขา แกเข้าใจปะ กรนดังแบบถ้าเดินผ่านหน้าบ้านได้ยิน จริงๆ ไม่เวอร์ โคตรน่าลำคาน พ่อก็พ่อเหอะ เราทุบกำแพง เตียง พื้นทุกวัน เวลาเขากรนดังแบบกระชากอะ ถ้าไม่กระชากก็ดังอยุ่แล้วอะ โคตรลำคานเลย จะไล่ก็ไม่กล้า ทำวิธีไหนได้บ้างช่วยด้วย ลำคานด้วย หงิดหงุดด้วย และอึดอัดด้วยค่ะ

และสุดท้ายพ่อดูดบุหรี่วันละ 3 ซองค่ะ ไม่ใช่ 3 มวนนะ เหนื่อยใจชิปปปปปปปป ค่าข้าวยังไม่ออก แต่บุหรี่ต้องได้ดูด โอ้ยยยย อยากกรี๊ดดดดด
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่