สวัสดีค่ะ ต้องขอแนะนำตัวก่อนว่าเราเป็นนักศึกษาคณะบัญชีที่มหาลัยแห่งหนึ่ง ตอนนี้อยู่ปี 2 แล้วค่ะ
ขอเกริ่นก่อนว่าตอน ม.ปลาย ช่วงที่ต้องตัดสินใจว่าจะเรียนอะไร เราตั้งเป้ามาตลอดกับอนาคตตัวเองว่าอยากเรียนทางสายภาษา ซึ่งไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าจะไปทำอะไรในอนาคต ณ ตอนนั้น จนถึงตอนนี้ก็ยังมีความคิดที่เหมือนเดิมว่าอยากโฟกัสกับสิ่งที่ชอบก่อน ถ้าเรามีแพชชั่นกับการทำอะไรสักอย่างในอนาคตก็คงหาลู่ทางได้เอง
เวลามีคนถาม หรือเพื่อนถามว่าทำไมถึงอยากเรียนภาษา เอาจริง ๆ เราตอบไม่ได้เลยค่ะ555555 เรารู้แค่ว่าเราไม่เก่งวิทยาศาสตร์ เพราะฉะนั้นสายวิทย์เราตัดทิ้งไปเลย คณิตศาสตร์ก็พอได้แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่อยากทำ เหลืออย่างสุดท้ายคือภาษาอังกฤษซึ่งเราเองก็มีความฝันที่อยากไปตั้งรกรากที่ต่างประเทศ
บ้านเราเป็นเกษตรกร พ่อกับแม่ไม่ได้มีใครเรียนปริญญา เพราะฉะนั้นเวลาปรึกษาเขาก็จะบอกว่าตามใจเรา แต่เรามีอาที่เรียนจบปริญญาคะยั้นคะยอให้เรามาเลือกสายบัญชี เพราะอามีธุรกิจ และหวังว่าถ้าเราจบมาเราจะช่วยงานเขาได้ + สายภาษามันหางานยากกว่า แต่เราก็แค่ฟังหูไว้หูนะคะ เพราะเรารู้ความจริงข้อนั้นอยู่แล้ว แต่ตามที่บอกไปข้างต้น เรารู้สึกอยากเรียนสิ่งที่มีแพชชั่นกับมัน
แต่เรื่องมันเกิดที่ว่าวันนึงพ่อเราเสียเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนช่วงที่ใกล้จะเลือกอันดับ admission ค่ะ ตอนนั้นเราเคว้งเลย แม่เราร้องไห้ฟูมฟายข้าวแทบไม่ได้กิน น้องชายเราก็เข้าโรงพยาบาลเพราะไปกับพ่อตอนเกิดเหตุ เอาเป็นว่าขอไม่ลงรายละเอียดนะคะ แต่ตอนนั้นกลายเป็นเราที่ต้องเข้มแข็งที่สุด และเมื่อญาติ ๆ หรือแขกร่วมงานถามว่าใกล้จะยื่นอันดับแล้วเราจะเรียนอะไร จากตอนแรกที่เราสามารถตอบได้ชัดเจนว่า อักษร/มนุษย์ ก็ตอบไม่ได้แล้วค่ะ เพราะการเรียนบัญชีเริ่มมามีอิทธิพลกับเรา
ถามว่าทำไมถึงมีอิทธิพล จากที่บอกไปข้างต้นนะคะว่าอาเป็นคนแนะนำมา บ้านเราเป็นเกษตรกรไม่ได้ร่ำรวย ที่ผ่านมาถ้าเงินของที่บ้านไม่พอส่งเราเรียนพิเศษ อาจะเป็นคนช่วยเหลือของส่วนนี้ค่ะ และตอนนี้พ่อเราไม่อยู่แล้ว ถ้าเราจะเรียนมหาลัย คงมีอีกหลายเรื่องที่ต้องพึ่งพาอาอยู่บ่อย ๆ นั่นคือเหตุผลที่สุดท้ายเราก็เข้ามาเรียนสาขานี้ค่ะ
จนมาถึงตอนนี้ จบปี 1 เราเรียนได้เกรดรวมแค่ 3.26 และตอนนี้ใกล้จะสอบมิดเทอมของปี 2 แล้วค่ะ จากที่เคยเตรียมสอบมา ถึงต่อให้อ่านเยอะแค่ไหน สรุปก่อนสอบ ก็ไม่เป็นไปตามที่คิดเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นที่วิธีการเรียนของเราที่ไม่มีประสิทธิภาพเองหรือป่าวก็ไม่แน่ใจ แต่บอกตรง ๆ ว่ากับวิชาบัญชีเราไม่มีใจเรียนเลยค่ะ เรียนไปแป้ป ๆ ก็หมดกำลังใจอีกแล้ว แต่วิชาสาขาตัวอื่น ๆ เช่นการตลาดก็มีความสุขดีที่ได้เรียนนะคะ แต่ก็นะ เราตั้งใจกับวิชานี้มาก ๆ อ่านเยอะกว่าบัญชี สรุปจบเป็นวิชาแรก เรายังได้แค่ B ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน 55555
คิดหลายครั้งนะคะว่าอยากซิ่ว ตอนนี้เราไม่มีเวลาให้กับภาษาที่ตัวเองชอบด้วยซ้ำ จนตอนนี้รู้สึกว่าสกิลภาษาของตัวเอง ย่ำแย่ลงไปเยอะมาก ๆ ทำให้ตอนนี้รู้สึกสับสนกับชีวิตมาก ๆ เลยค่ะ เหมือนไม่รู้ว่าเราจะไปทางไหนกับชีวิตต่อ แต่ก็เสียดายทั้งเงินทั้งเวลา เราอยากรีบ ๆ เรียนจบแล้วมีงานมีเงินมาใช้ชีวิตเร็ว ๆ
มีอาอีกคนที่เราสนิทแนะนำว่าให้เราเรียนควบ ม.ราม ถ้าเราสนใจทางด้านภาษาจริง ๆ แต่เราก็ปฏิเสธไป เพราะเรารู้ตัวว่าเราเป็นคนขี้เกียจและจัดสรรเวลาได้ไม่ดี เรารู้เลยว่าถ้าเราเรียนควบ เราต้องไปสนใจแต่สิ่งที่เราชอบจนไม่สนใจสิ่งที่เรากำลังเรียนอยู่แน่ ๆ
สุดท้ายนี้เราเลยอยากถามความคิดทุกคนที่อาจจะเป็นทั้งรุ่นเดียวกันหรือพี่ ๆ ที่มีประสบการณ์ชีวิต ว่าเราควรทำยังไงดีคะให้ในอนาคตเราประสบความสำเร็จ สุดท้ายเราจะสามารถหาลู่ทางในชีวิตได้เองเหมือนที่คิดไหม หรือการที่เราไม่ได้เรียนจบเกียรตินิยมมันก็คงไม่ได้แย่ขนาดนั้น((ที่ห่วงเรื่องนี้มาก ๆ เพราะจากที่ฟังผ่านรุ่นพี่ที่ฝึกงานกับ Big4 มา สายบัญชีค่อนข้างจะใช้เกรดเลยน่ะค่ะ แล้วยิ่งเราไม่ได้เรียนฬ มธ หรือเอแบคด้วย))
**ขอบอกไว้ว่า ความสำเร็จสำหรับเรา คือรวยนะคะ 555555 อาจจะดูตื้นเขิน แต่สำหรับลูกชาวนาแบบเรา เราอยากรวยแล้วเลี้ยงแม่ตอนแกแก่ เพราะตอนนี้แม่กำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อเลี้ยงดูเราและน้องด้วยตัวคนเดียวค่ะ
ไม่จบเกียรตินิยม จะสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้จริงหรอ
ขอเกริ่นก่อนว่าตอน ม.ปลาย ช่วงที่ต้องตัดสินใจว่าจะเรียนอะไร เราตั้งเป้ามาตลอดกับอนาคตตัวเองว่าอยากเรียนทางสายภาษา ซึ่งไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าจะไปทำอะไรในอนาคต ณ ตอนนั้น จนถึงตอนนี้ก็ยังมีความคิดที่เหมือนเดิมว่าอยากโฟกัสกับสิ่งที่ชอบก่อน ถ้าเรามีแพชชั่นกับการทำอะไรสักอย่างในอนาคตก็คงหาลู่ทางได้เอง
เวลามีคนถาม หรือเพื่อนถามว่าทำไมถึงอยากเรียนภาษา เอาจริง ๆ เราตอบไม่ได้เลยค่ะ555555 เรารู้แค่ว่าเราไม่เก่งวิทยาศาสตร์ เพราะฉะนั้นสายวิทย์เราตัดทิ้งไปเลย คณิตศาสตร์ก็พอได้แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่อยากทำ เหลืออย่างสุดท้ายคือภาษาอังกฤษซึ่งเราเองก็มีความฝันที่อยากไปตั้งรกรากที่ต่างประเทศ
บ้านเราเป็นเกษตรกร พ่อกับแม่ไม่ได้มีใครเรียนปริญญา เพราะฉะนั้นเวลาปรึกษาเขาก็จะบอกว่าตามใจเรา แต่เรามีอาที่เรียนจบปริญญาคะยั้นคะยอให้เรามาเลือกสายบัญชี เพราะอามีธุรกิจ และหวังว่าถ้าเราจบมาเราจะช่วยงานเขาได้ + สายภาษามันหางานยากกว่า แต่เราก็แค่ฟังหูไว้หูนะคะ เพราะเรารู้ความจริงข้อนั้นอยู่แล้ว แต่ตามที่บอกไปข้างต้น เรารู้สึกอยากเรียนสิ่งที่มีแพชชั่นกับมัน
แต่เรื่องมันเกิดที่ว่าวันนึงพ่อเราเสียเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนช่วงที่ใกล้จะเลือกอันดับ admission ค่ะ ตอนนั้นเราเคว้งเลย แม่เราร้องไห้ฟูมฟายข้าวแทบไม่ได้กิน น้องชายเราก็เข้าโรงพยาบาลเพราะไปกับพ่อตอนเกิดเหตุ เอาเป็นว่าขอไม่ลงรายละเอียดนะคะ แต่ตอนนั้นกลายเป็นเราที่ต้องเข้มแข็งที่สุด และเมื่อญาติ ๆ หรือแขกร่วมงานถามว่าใกล้จะยื่นอันดับแล้วเราจะเรียนอะไร จากตอนแรกที่เราสามารถตอบได้ชัดเจนว่า อักษร/มนุษย์ ก็ตอบไม่ได้แล้วค่ะ เพราะการเรียนบัญชีเริ่มมามีอิทธิพลกับเรา
ถามว่าทำไมถึงมีอิทธิพล จากที่บอกไปข้างต้นนะคะว่าอาเป็นคนแนะนำมา บ้านเราเป็นเกษตรกรไม่ได้ร่ำรวย ที่ผ่านมาถ้าเงินของที่บ้านไม่พอส่งเราเรียนพิเศษ อาจะเป็นคนช่วยเหลือของส่วนนี้ค่ะ และตอนนี้พ่อเราไม่อยู่แล้ว ถ้าเราจะเรียนมหาลัย คงมีอีกหลายเรื่องที่ต้องพึ่งพาอาอยู่บ่อย ๆ นั่นคือเหตุผลที่สุดท้ายเราก็เข้ามาเรียนสาขานี้ค่ะ
จนมาถึงตอนนี้ จบปี 1 เราเรียนได้เกรดรวมแค่ 3.26 และตอนนี้ใกล้จะสอบมิดเทอมของปี 2 แล้วค่ะ จากที่เคยเตรียมสอบมา ถึงต่อให้อ่านเยอะแค่ไหน สรุปก่อนสอบ ก็ไม่เป็นไปตามที่คิดเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นที่วิธีการเรียนของเราที่ไม่มีประสิทธิภาพเองหรือป่าวก็ไม่แน่ใจ แต่บอกตรง ๆ ว่ากับวิชาบัญชีเราไม่มีใจเรียนเลยค่ะ เรียนไปแป้ป ๆ ก็หมดกำลังใจอีกแล้ว แต่วิชาสาขาตัวอื่น ๆ เช่นการตลาดก็มีความสุขดีที่ได้เรียนนะคะ แต่ก็นะ เราตั้งใจกับวิชานี้มาก ๆ อ่านเยอะกว่าบัญชี สรุปจบเป็นวิชาแรก เรายังได้แค่ B ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน 55555
คิดหลายครั้งนะคะว่าอยากซิ่ว ตอนนี้เราไม่มีเวลาให้กับภาษาที่ตัวเองชอบด้วยซ้ำ จนตอนนี้รู้สึกว่าสกิลภาษาของตัวเอง ย่ำแย่ลงไปเยอะมาก ๆ ทำให้ตอนนี้รู้สึกสับสนกับชีวิตมาก ๆ เลยค่ะ เหมือนไม่รู้ว่าเราจะไปทางไหนกับชีวิตต่อ แต่ก็เสียดายทั้งเงินทั้งเวลา เราอยากรีบ ๆ เรียนจบแล้วมีงานมีเงินมาใช้ชีวิตเร็ว ๆ
มีอาอีกคนที่เราสนิทแนะนำว่าให้เราเรียนควบ ม.ราม ถ้าเราสนใจทางด้านภาษาจริง ๆ แต่เราก็ปฏิเสธไป เพราะเรารู้ตัวว่าเราเป็นคนขี้เกียจและจัดสรรเวลาได้ไม่ดี เรารู้เลยว่าถ้าเราเรียนควบ เราต้องไปสนใจแต่สิ่งที่เราชอบจนไม่สนใจสิ่งที่เรากำลังเรียนอยู่แน่ ๆ
สุดท้ายนี้เราเลยอยากถามความคิดทุกคนที่อาจจะเป็นทั้งรุ่นเดียวกันหรือพี่ ๆ ที่มีประสบการณ์ชีวิต ว่าเราควรทำยังไงดีคะให้ในอนาคตเราประสบความสำเร็จ สุดท้ายเราจะสามารถหาลู่ทางในชีวิตได้เองเหมือนที่คิดไหม หรือการที่เราไม่ได้เรียนจบเกียรตินิยมมันก็คงไม่ได้แย่ขนาดนั้น((ที่ห่วงเรื่องนี้มาก ๆ เพราะจากที่ฟังผ่านรุ่นพี่ที่ฝึกงานกับ Big4 มา สายบัญชีค่อนข้างจะใช้เกรดเลยน่ะค่ะ แล้วยิ่งเราไม่ได้เรียนฬ มธ หรือเอแบคด้วย))
**ขอบอกไว้ว่า ความสำเร็จสำหรับเรา คือรวยนะคะ 555555 อาจจะดูตื้นเขิน แต่สำหรับลูกชาวนาแบบเรา เราอยากรวยแล้วเลี้ยงแม่ตอนแกแก่ เพราะตอนนี้แม่กำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อเลี้ยงดูเราและน้องด้วยตัวคนเดียวค่ะ