รีวิวฟอกสีฟันที่สตูดิโอสมาย: เมื่อสายอินโทรเวิร์ตใส่ใจบุคลิกภาพ

สายอินโทรเวิร์ตมักเป็นกลุ่มคนที่มั่นใจในคุณสมบัติภายในของตนเอง เช่น ความดี ความสามารถ
แต่ไม่มั่นใจบุคลิกและรูปลักษณ์ภายนอก

ชาวอินโทรเวิร์ตมักโปรดปรานความเงียบ เลือกงานที่ไม่ต้องพบปะผู้คน เช่น นักเขียน นักคอมพิวเตอร์
บ้างก็ไปได้ดี กับงานที่ทำคนเดียว นำพาชีวิตพุ่งรุ่งโรจน์โดยไม่ต้องแคร์สายตาใคร
ดังจะเห็นได้ว่า ศิลปินและอัจฉริยะบางคน ดูเท่ห์ แม้ไม่ได้หวีผม

แต่ก็มีคนอีกมากที่ทำงานผสมผสาน  ทั้งงานเดี่ยวและงานที่ต้องเข้าสังคม เช่น
พบปะลูกค้า เจรจาผู้ร่วมทุน งานขาย งานบริการ งานบริหาร
การเตรียมตัวด้านบุคลิกเป็นสิ่งที่เพิ่มอำนาจการสื่อสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
รอยยิ้ม คือ ประตูบานแรกในการเชื่อมสัมพันธ์กับผู้คน
 
การปรับปรุงกริยาท่าทาง คือ สิ่งที่เรียนได้ด้วยตนเอง ผ่านวิดิโอ
แต่หากใครต้องการความเป๊ะ ได้ฝึกซ้อมเพื่อกำจัดจุดอ่อน ก็ลองเข้าคอสเรียนกับโค้ช
แต่ที่ทำเองไม่ได้แน่ๆ  คือ ทำฟัน และบ้างก็ไปถึงขั้นศัลยกรรมใบหน้า
สำหรับคนทั่วไปอย่างเราๆ ที่ไม่ต้องใช้ใบหน้าเป็นเครื่องมือหลักในการประกอบอาชีพ
มองว่า สุขภาพที่ดี ผิวพรรณที่สมบูรณ์ การแต่งกายและแต่งหน้าที่เหมาะกาละเทศะ และฟันสวย
เป็นองค์ประกอบพื้นฐาน ที่ควรให้เวลาและความใส่ใจ
 
เพื่อสร้างรอยยิ้มที่สบายตาและน่าไว้วางใจเมื่อพบปะคนสำคัญ เราเลือกฟอกสีฟันที่สตูดิโอสมาย
ใกล้สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง ตรงข้ามตึกซีพี  การตัดสินใจมีแนวพิจารณา 3 ด้าน


- ทันตแพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล
- วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาทันกรรมบูรณะเพื่อความสวยงามและทันตกรรมรากเทียม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ประกาศนียบัตร สาขาทันตกรรมรากเทียม UCLA School Of Dentistry Los Angeles สหรัฐอเมริกา
 
บริการที่เลือก คือ  ฟอกสีฟันแบบระดับโปรสตูดิโอสมาย
เป็นการฟอกแบบไม่จำกัดรอบ (เราได้รับการฟอก 4 รอบ) ขาวขึ้นทันทีประมาณ 5-7 ระดับ
แจ้งสเป๊คว่า ไม่ให้ขาวจนดูหลอกตา  ตามด้วยการอุดปิดช่องฟันห่าง และเติมส่วนปลายฟัน ให้ดูดีแต่คงความเป็นธรรมชาติ


ด้วยมีคิวเจรจางาน มีเวลาเเตรียมตัว เพียง 1 เดือน เราเลือกฟอกสีฟันและอุดช่องฟันห่างก่อน
หลังจากเสร็จงานสำคัญ ก็น่าจะจัดฟันแบบใส ตามที่คุณหมอแนะนำ ซึ่งใช้เวลาเพียง 6 เดือน หรืออาจทำวีเนียร์
ซึ่งต้องใช้เวลาตัดสินใจ เพราะเกี่ยวข้องกับสุขภาพ วิธีการดูแล และการบริหารเวลาในระยะยาว
 
ประสพการณ์ที่ได้รับจาก Studio Smile Dental Clinic
1.     สภาพคลินิก  สะอาด สวยงาม เดินทางง่าย วัสดุอุปกรณ์ทันสมัย เพิ่มความผ่อนคลาย ช่วยลดความเจ็บปวด
และลดผลกระทบจากสารเคมีที่ใช้ฟอกฟัน
2.     พนักงาน ฝ่ายต้อนรับ ทันตแพทย์ผู้ช่วย รวมถึงช่างภาพ มีความเป็นมืออาชีพ ประสานงานกันได้ดี
ที่สำคัญ คือ ทุกคนมีใจรักพันธกิจด้านฟัน ทำให้แสดงออกถึงความใส่ใจ สะท้อนประสพการณ์และให้ทางเลือกต่างๆ
ที่ผู้รับบริการได้ประโยชน์  
3.     ทันตแพทย์ประจำคลีนิค
ด้านความเชี่ยวชาญ ระหว่างให้บริการ คุณหมอทำด้วยความมั่นใจและคำนึงถึงผลกระทบ
เช่น เรื่องฟันล่าง เราอยากได้ฟันบนหน้ายาวขึ้น แต่คุณหมอชี้ให้เห็นว่า
ฟันล่างที่เรียงตัวไม่ดีนักอาจส่งผลให้ฟันบนที่ตกแต่งแล้ว แตกหักได้จากการกระทบกัน

ด้านการสื่อสาร  ทันตแพทย์บางคนมักตำหนิ เช่น ไปกินอะไรมา เคี้ยวเยอะไปนะ
แต่เดี๋ยวนะ ในชีวิตเรา ไม่ได้มีแต่เรื่องฟันแบบทันตแพทย์ เราดูแลฟันวันละ 40 นาทีก็นับว่ามากแล้ว
ทันตแพทย์ไม่ควรตำหนิ เรื่องในอดีต แต่ควรแก้ไขปัญหาปัจจุบัน ตลอดจนชี้แนะวิธีดูแลสำหรับอนาคต
สำหรับคุณหมอประจำคลินิคนี้  ท่านมีทัศนะคติที่ไม่เป็นลบ ไม่ตั้งข้อสงสัยต่อผู้มีปัญหาเรื่องฟัน  
ทำให้การสนทนาเป็นแบบเปิดใจ เรียนรู้ศึกษาซึ่งกันแบบไม่ตั้งกำแพง ทันตแพทย์มีบทบาทช่วยแก้ปัญหาและให้ความปรารถนาดี
ผู้ที่มาทำฟัน ควรอธิบายที่มาของปัญหาให้คุทันตแพทย์ทำงานบนความรู้ด้านภูมิหลังที่เกี่ยวข้องกับฟันของคุณอย่างเพียงพอ
ไม่ใช่คาดหวังว่า หมอต้องสื่อสารได้ดี แต่การสื่อสารที่ดีของผู้รับบริการ น่าจะช่วยให้การแก้ปัญหามีประสิทธิภาพขึ้น

การฟอกสีฟันและการเติมเนื้อฟัน ใช้เวลา 2-3 ชม  ไม่ใช่กระบวนการที่สร้างความเจ็บปวด  
ผู้รับบริการนอนฟังเพลง และมีช่วงพักรอให้สารเคมีทำงานหลังทาสารเคมี
มีอุปกรณ์จัดระบบปาก และอุปกรณ์ส่งเสริมและควบคุมปฏิกริยาของสาร
เป็นการดูแลผ่านผู้เชี่ยวชาญ ที่สร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัย  

การลงทุนด้านบุคลิกภาพสำคัญ ไม่ต่างจากการลงทุนด้านการศึกษา
แทบจะกล่าวได้ว่า เป็นปริญญาใบหนึ่ง ประกอบด้วยวิชาดูแลพัฒนาร่างกาย วิชาจัดระบบร่างกาย และจิตวิทยาการสื่อสาร
เพื่อเสริมความโดดเด่นในสังคมการทำงาน เกิดส่วนผสมของตัวบุคคลที่ครบเครื่อง  
ทั้งความสามารถในวิชาชีพ คุณธรรม  และเสน่ห์ในการเข้าสังคม