
.
ปชน.จัดกว่า 20 ขุนพล อภิปรายวันแถลงนโยบายนายกฯ อุบรายชื่อ รมต.
.
ปชน. จัดขุนพลกว่า 20 คน อภิปรายวันแถลงนโยบายนายกฯ ครอบคลุมปัญหาเฉพาะหน้า-คุณสมบัติรัฐมนตรีขออุบรายชื่อก่อน มองหน้าตารัฐมนตรีไม่ต่างจากรัฐบาลชุดก่อน
.
เมื่อวันที่ 28 กันยายน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมอภิปรายการแถลงนโยบายรัฐบาลของ นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 29-30 กันยายนนี้ว่า เราจัดไว้คร่าวๆ ประมาณ 20 คน เพื่อให้ครอบคลุมทุกเรื่อง ทั้งนโยบายเร่งด่วนเฉพาะหน้า รวมถึงคุณสมบัติของรัฐมนตรีที่เรามองว่ามีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ทั้งที่มีคดีอยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.), กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
.
ซึ่งตัวเองรัฐมนตรีก็น่าจะทราบอยู่แล้วแต่ยังคงแสวงหาอำนาจเดินหน้าทำหน้าที่ฝ่ายบริหารต่อ เราจึงต้องป้องปรามไม่ให้รัฐมนตรีเหล่านี้ไปกำกับดูแลแทรกแซงหน่วยงานระดับกรมภายใต้กระทรวงของตัวเอง เพื่อไม่ให้เกิดความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการทุจริตคอรัปชั่น จึงต้องใช้การอภิปรายในการดักคอเพื่อไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้น
.
ส่วนมีรัฐมนตรีคนใดบ้างต้องขออุบไว้ก่อน แต่มีค่อนข้างเยอะเราไม่ได้เน้นใครเป็นพิเศษว่ากันไปตามประเด็น แต่ต้องยอมรับว่าหน้าตาของรัฐมนตรีก็ไม่ได้แตกต่างจากรัฐบาลชุดก่อนๆ สักเท่าไหร่ ทั้งนี้พรรคประชาชนได้เวลาอภิปรายค่อนข้างน้อย เพราะต้องแบ่งเวลากับพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีจำนวน ส.ส.ใกล้เคียงกัน
.
.
ชูวิทย์ จี้ตั้งกก.สอบสาเหตุถนนทรุด ถามใครรับผิดชอบ หรือต้องใช้ภาษีประชาชนซ่อม
https://www.matichon.co.th/social/news_5387099
.
ชูวิทย์ จี้ตั้งกก.สอบสาเหตุถนนทรุด ถามใครรับผิดชอบ หรือต้องใช้ภาษีประชาชนซ่อม
.
วันที่ 28 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงเหตุการณ์ ถนนทรุด หน้าวชิรพยาบาล ว่า
.
ถนนสามเสน ละคร กทม.
.
กทม. มหานครเมืองใหญ่ มีนักท่องเที่ยวเยี่ยมเยียนมากมายติดอันดับโลก
.
ช่วงนี้มีแต่สาธารณภัย ตั้งแต่ตึก สตง. ถล่ม ตามมาด้วยไม่กี่วันก่อน ถนนสามเสนพังทรุดเป็นหลุมใหญ่
.
ทุกคนออกมาวิเคราะห์หาสาเหตุ ช่วยกันแก้ไข
.
แต่ … ถนนสามเสนเป็นถนนสาธารณะ ขึ้นทะเบียนในความดูแลของสำนักการโยธา กทม.
.
ที่มันถล่มเสียหายหนักออกข่าวฉาวโฉ่ไปทั่วโลกเป็น “สาธารณภัย” เกิดจากฝีมือใครมิทราบ?
.
ธรรมชาติ หรือ ฝีมือมนุษย์?
.
การก่อสร้างอุโมงค์มีผลให้เกิดความเสียหายแบบนี้หรือไม่?
.
ตรงนั้นมีการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นเหตุทำให้ถนนพังหรือไม่?
.
กทม. ในฐานะเจ้าพนักงานตามกฎหมายควบคุมอาคาร ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ต้องบังคับใช้กฎหมายให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชน
.
ต้องพิสูจน์ทราบสาเหตุเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย เพราะที่เสียหายเป็นถนนสาธารณะของ กทม. เป็นทรัพย์สินของราชการ
.
แถมยังมีอาคารบ้านเรือน รถรา เสียหายอีก จำนวนมาก
.
การแก้ไขปัญหา ซ่อมถนน มีคนมีความรู้ด้านวิศวกรรมมากมายออกมาวิเคราะห์
.
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ท่านก็จบวิศวะ
.
นายกฯ ก็จบวิศวะ
.
แต่ที่เป็นปัญหา คือ มีใครรับผิดชอบงานนี้ไม่ทราบ?
.
เพราะถามเรื่องนี้กับนายกฯ หนู ท่านดันเงียบ เดินหนีนักข่าว
.
ผมในฐานะผู้เสียภาษีที่ดินให้ กทม. ปีละเกือบ 10 ล้านบาท จึงมีสิทธิจะถามว่า
.
กทม. เอาเงินงบประมาณจากไหนไปแก้ไขซ่อมแซม?
.
สรุปได้ความว่า ใครต้องรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายนี้?
.
การเร่งรีบดำเนินการซ่อมแซมให้คืนสภาพตามหลักวิศวกรรมโดยเร็วเป็นเรื่องที่ดี
.
แต่ความเสียหายทั้งปวงที่เกิดขึ้นกับถนน รวมถึง ท่อประปา เสาไฟฟ้า สิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้ตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนหรือเปล่าว่า
.
เหตุเกิดขึ้นด้วยความผิดพลาดของผู้รับเหมา ก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหรือไม่?
.
หากท่านผู้ว่าฯ จะเอาภาษีของคน กทม. ไปจ่ายแทนผู้รับเหมา มันดูไม่ยุติธรรม เพราะไม่ใช่จู่ๆ ถนนทรุดเองโดยไม่มีสาเหตุ
.
เวลาไฟไหม้ยังโทษกันว่า ไฟช็อตบ้านเรือนข้างเคียงเสียหายไม่มีใครรับผิด ไม่มีหลักเกณฑ์ใดๆ
.
จึงขอให้สอบสวน และให้ความเป็นธรรมกับคน กทม. ด้วยว่า “ค่าเสียหาย” ทั้งหมด ใครจะรับผิดชอบ?
.
กทม. จะเอาภาษีไปจ่ายแทนหรือไม่?
.
หากไม่ จะเอาเงินของใคร?
.
เอาเงินจากบริษัทรับเหมา หรือเอาเงินภาษีที่มาจากประชาชนคนกรุงเทพฯ ไปจ่าย?
.
ไม่ใช่แสดงละครแห่ไปเดินตรวจกัน แต่ไม่มีใครไล่เบี้ยหาคนรับผิดชอบ
.
ประเมินเงินค่าซ่อมต้องมีระดับพันล้านแบบนี้
.
ใครรับผิดชอบงานนี้ ช่วยบอกที
.
ขอตะโกนถามดังๆ แทนคน กทม.
.
https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/posts/pfbid02p9AecBMvfn7xHym52EnqMejXaXfTUSqRwxkFyfBDqESqhMFYuazXiD4qnTP6hZUvl
.
.
ร้านค้าชายแดนทยอยปิดหวั่นปะทะรอบ 2 บางคนใช้ยางรถยนต์เก่า กะละมังใส่ดินดัดแปลงเป็นบังเกอร์หลบภัย
.
ร้านค้าชายแดนทยอยปิดหวั่นปะทะรอบ 2 บางคนใช้ยางรถยนต์เก่า กะละมังใส่ดินดัดแปลงเป็นบังเกอร์หลบภัย
.
วันนี้ (28 ก.ย.68) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ร้านขายก๋วยเตี๋ยวและอาหารตามสั่ง ในหมู่บ้านติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ใน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เริ่มไม่มั่นใจในสถานการณ์ หลังทหารเขมรขนอาวุธหนัก เสริมกำลังประชิดตามแนวชายแดน และมีการยิงปืนยั่วยุต่อเนื่องในพื้นที่ จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี ทำให้สถานการณ์ตึงเครียด เกรงจะเกิดการสู้รบกันรอบสอง จึงได้ทยอยปิดร้านเพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย กลัวว่าหากสั่งของมาไว้ทำอาหารขาย แล้วเกิดการสู้รบกันขึ้นต้องอพยพออกจากพื้นที่ของที่สั่งมาไว้ก็จะเน่าเสียหายทำให้ขาดทุนซ้ำอีก เพราะตั้งแต่ที่มีการสู้รบกันรอบแรกเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค.68 การใช้ชีวิตและค้าขายก็ยังไม่เป็นปกติ
.
ขณะที่ร้านขายอาหารบางร้านที่ไม่ได้เปิดขายของเพราะกลัวการปะทะ ก็หาวัสดุอุปกรณ์ที่มี เช่น ยางรถยนต์เก่า ท่อนไม้ กะละมัง และถุงปุ๋ยบรรจุดิน ดัดแปลงทำเป็นบังเกอร์หลบภัยภายในร้าน หากเกิดเหตุการณ์สู้รบขึ้นก็จะได้เข้าไปหลบเพื่อความปลอดภัย ก่อนที่จะอพยพออกจากพื้นที่ เพราะหากวิ่งไปหลบที่หลุมหลบภัยส่วนกลางของหมู่บ้านก็อาจจะไม่ทัน
.
นายสมิง บอกว่า ครอบครัวมีอาชีพกรีดยางพาราและเปิดร้านขายอาหาร แต่หลังจากที่มีการสู้รบกันเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค.68 ก็ต้องปิดร้านเพราะเกรงว่าหากซื้อของมาลงทุนขาย แล้วเกิดการสู้รบกันขึ้นของที่ซื้อมาก็จะเน่าเสียขาดทุน จึงยังไม่กล้าเปิดขาย ส่วนยางพาราก่อนหน้านี้ก็กรีดได้บ้างแต่หลังจากที่เขมรยิงปืนยั่วยุเตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา ทหารก็ห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยงภัย จึงไม่สามารถเข้าไปกรีดยางได้ ก็ต้องออกไปหาปลาหรือรับจ้างอย่างอื่นแทนเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว จึงอยากให้ทหารหรือรัฐบาลเร่งดำเนินการให้จบโดยเร็ว เพื่อที่ชาวบ้านจะได้กลับไปทำมาหากินและใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนเดิม
JJNY : ปชน.จัดกว่า20ขุนพล อภิปรายนโยบาย│ชูวิทย์ถามใครรับผิดชอบ│ร้านค้าชายแดนทยอยปิดหวั่นปะทะรอบ2│เวียดนามรับมือ‘บัวลอย’
https://www.matichon.co.th/politics/news_5387079
.
.
.
ชูวิทย์ จี้ตั้งกก.สอบสาเหตุถนนทรุด ถามใครรับผิดชอบ หรือต้องใช้ภาษีประชาชนซ่อม
https://www.matichon.co.th/social/news_5387099
.
ชูวิทย์ จี้ตั้งกก.สอบสาเหตุถนนทรุด ถามใครรับผิดชอบ หรือต้องใช้ภาษีประชาชนซ่อม
.
วันที่ 28 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงเหตุการณ์ ถนนทรุด หน้าวชิรพยาบาล ว่า
.
ถนนสามเสน ละคร กทม.
.
กทม. มหานครเมืองใหญ่ มีนักท่องเที่ยวเยี่ยมเยียนมากมายติดอันดับโลก
.
ช่วงนี้มีแต่สาธารณภัย ตั้งแต่ตึก สตง. ถล่ม ตามมาด้วยไม่กี่วันก่อน ถนนสามเสนพังทรุดเป็นหลุมใหญ่
.
ทุกคนออกมาวิเคราะห์หาสาเหตุ ช่วยกันแก้ไข
.
แต่ … ถนนสามเสนเป็นถนนสาธารณะ ขึ้นทะเบียนในความดูแลของสำนักการโยธา กทม.
.
ที่มันถล่มเสียหายหนักออกข่าวฉาวโฉ่ไปทั่วโลกเป็น “สาธารณภัย” เกิดจากฝีมือใครมิทราบ?
.
ธรรมชาติ หรือ ฝีมือมนุษย์?
.
การก่อสร้างอุโมงค์มีผลให้เกิดความเสียหายแบบนี้หรือไม่?
.
ตรงนั้นมีการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นเหตุทำให้ถนนพังหรือไม่?
.
กทม. ในฐานะเจ้าพนักงานตามกฎหมายควบคุมอาคาร ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ต้องบังคับใช้กฎหมายให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชน
.
ต้องพิสูจน์ทราบสาเหตุเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย เพราะที่เสียหายเป็นถนนสาธารณะของ กทม. เป็นทรัพย์สินของราชการ
.
แถมยังมีอาคารบ้านเรือน รถรา เสียหายอีก จำนวนมาก
.
การแก้ไขปัญหา ซ่อมถนน มีคนมีความรู้ด้านวิศวกรรมมากมายออกมาวิเคราะห์
.
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ท่านก็จบวิศวะ
.
นายกฯ ก็จบวิศวะ
.
แต่ที่เป็นปัญหา คือ มีใครรับผิดชอบงานนี้ไม่ทราบ?
.
เพราะถามเรื่องนี้กับนายกฯ หนู ท่านดันเงียบ เดินหนีนักข่าว
.
ผมในฐานะผู้เสียภาษีที่ดินให้ กทม. ปีละเกือบ 10 ล้านบาท จึงมีสิทธิจะถามว่า
.
กทม. เอาเงินงบประมาณจากไหนไปแก้ไขซ่อมแซม?
.
สรุปได้ความว่า ใครต้องรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายนี้?
.
การเร่งรีบดำเนินการซ่อมแซมให้คืนสภาพตามหลักวิศวกรรมโดยเร็วเป็นเรื่องที่ดี
.
แต่ความเสียหายทั้งปวงที่เกิดขึ้นกับถนน รวมถึง ท่อประปา เสาไฟฟ้า สิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้ตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนหรือเปล่าว่า
.
เหตุเกิดขึ้นด้วยความผิดพลาดของผู้รับเหมา ก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหรือไม่?
.
หากท่านผู้ว่าฯ จะเอาภาษีของคน กทม. ไปจ่ายแทนผู้รับเหมา มันดูไม่ยุติธรรม เพราะไม่ใช่จู่ๆ ถนนทรุดเองโดยไม่มีสาเหตุ
.
เวลาไฟไหม้ยังโทษกันว่า ไฟช็อตบ้านเรือนข้างเคียงเสียหายไม่มีใครรับผิด ไม่มีหลักเกณฑ์ใดๆ
.
จึงขอให้สอบสวน และให้ความเป็นธรรมกับคน กทม. ด้วยว่า “ค่าเสียหาย” ทั้งหมด ใครจะรับผิดชอบ?
.
กทม. จะเอาภาษีไปจ่ายแทนหรือไม่?
.
หากไม่ จะเอาเงินของใคร?
.
เอาเงินจากบริษัทรับเหมา หรือเอาเงินภาษีที่มาจากประชาชนคนกรุงเทพฯ ไปจ่าย?
.
ไม่ใช่แสดงละครแห่ไปเดินตรวจกัน แต่ไม่มีใครไล่เบี้ยหาคนรับผิดชอบ
.
ประเมินเงินค่าซ่อมต้องมีระดับพันล้านแบบนี้
.
ใครรับผิดชอบงานนี้ ช่วยบอกที
.
ขอตะโกนถามดังๆ แทนคน กทม.
.
https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/posts/pfbid02p9AecBMvfn7xHym52EnqMejXaXfTUSqRwxkFyfBDqESqhMFYuazXiD4qnTP6hZUvl
.
.
.
วันนี้ (28 ก.ย.68) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ร้านขายก๋วยเตี๋ยวและอาหารตามสั่ง ในหมู่บ้านติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ใน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เริ่มไม่มั่นใจในสถานการณ์ หลังทหารเขมรขนอาวุธหนัก เสริมกำลังประชิดตามแนวชายแดน และมีการยิงปืนยั่วยุต่อเนื่องในพื้นที่ จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี ทำให้สถานการณ์ตึงเครียด เกรงจะเกิดการสู้รบกันรอบสอง จึงได้ทยอยปิดร้านเพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย กลัวว่าหากสั่งของมาไว้ทำอาหารขาย แล้วเกิดการสู้รบกันขึ้นต้องอพยพออกจากพื้นที่ของที่สั่งมาไว้ก็จะเน่าเสียหายทำให้ขาดทุนซ้ำอีก เพราะตั้งแต่ที่มีการสู้รบกันรอบแรกเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค.68 การใช้ชีวิตและค้าขายก็ยังไม่เป็นปกติ
.
ขณะที่ร้านขายอาหารบางร้านที่ไม่ได้เปิดขายของเพราะกลัวการปะทะ ก็หาวัสดุอุปกรณ์ที่มี เช่น ยางรถยนต์เก่า ท่อนไม้ กะละมัง และถุงปุ๋ยบรรจุดิน ดัดแปลงทำเป็นบังเกอร์หลบภัยภายในร้าน หากเกิดเหตุการณ์สู้รบขึ้นก็จะได้เข้าไปหลบเพื่อความปลอดภัย ก่อนที่จะอพยพออกจากพื้นที่ เพราะหากวิ่งไปหลบที่หลุมหลบภัยส่วนกลางของหมู่บ้านก็อาจจะไม่ทัน
.
นายสมิง บอกว่า ครอบครัวมีอาชีพกรีดยางพาราและเปิดร้านขายอาหาร แต่หลังจากที่มีการสู้รบกันเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค.68 ก็ต้องปิดร้านเพราะเกรงว่าหากซื้อของมาลงทุนขาย แล้วเกิดการสู้รบกันขึ้นของที่ซื้อมาก็จะเน่าเสียขาดทุน จึงยังไม่กล้าเปิดขาย ส่วนยางพาราก่อนหน้านี้ก็กรีดได้บ้างแต่หลังจากที่เขมรยิงปืนยั่วยุเตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา ทหารก็ห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยงภัย จึงไม่สามารถเข้าไปกรีดยางได้ ก็ต้องออกไปหาปลาหรือรับจ้างอย่างอื่นแทนเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว จึงอยากให้ทหารหรือรัฐบาลเร่งดำเนินการให้จบโดยเร็ว เพื่อที่ชาวบ้านจะได้กลับไปทำมาหากินและใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนเดิม