Q:ทำไมต้องดูจิต
Aเพื่อให้เกิดปัญญา ในสติปัฐฐาน
1.ตัวรู้คือ ตัวจิต ที่เห็นตัวอารมณ์
อารมณ์:คืออาการขันธ์5 เข่น รูปนั่ง รูปขยับเคลื่อนไหว อารมณ์จึงคือ อาการนั่ง ขยับ เคลื่อนไหว อันเป็นตัวถูกรู้
2.ดูจิต:คือ มีจิตไปรู้อารมณ์ แล้วจิตเห็นอะไรบ้าง ขณะไปรู้อารมณ์นั้น
เห็นอาการนั่ง อาการขยับเคลื่อนไหว ไม่ใช่เห็นด้วยตา แต่เป็นการเห็นด้วยใจ เห็นด้วยความรู้สึก
ในขณะเห็น จึงเกิดความรู้สึกตัวว่า รูปกาย กำลัง ขยับเคลื่อนไหว กำลังนั่ง การรู้สึกตัวนั้นจึงเป็นวิญญาน ไปกระทบจิต( กายวิญญาน) ว่ารู้สึกสะเทือนที่รูป
กาย และส่งผลไปเกิดที่จิต เช่น รู้สึกกายเคลื่อนไหวแล้วรู้สึกสบายตัว รู้สึกสบายตัว จึงเป็นมโนวิญญาน กระทบจิตด้วย(จิตมีเวทนา)
เป็นเหตุจากรูปทำให้เกิด เวทนา
ดังนั้น หากไม่มีตัวรู้ที่แยกออกมาต่างหากจะไม่เห็นกระบวนการนี้ จะเห็นแต่กายของเรา กำลังขยับเคลื่อนไหว (อุปทาน) จะไม่เห็นกระบวนการภายใน ที่ว่า
“รูปเป็นเหตุแห่งอุปทาน”
ดูจิตเป็น จะเห็นตัวรู้ เห็นเหตุแห่งอุปทาน
Aเพื่อให้เกิดปัญญา ในสติปัฐฐาน
1.ตัวรู้คือ ตัวจิต ที่เห็นตัวอารมณ์
อารมณ์:คืออาการขันธ์5 เข่น รูปนั่ง รูปขยับเคลื่อนไหว อารมณ์จึงคือ อาการนั่ง ขยับ เคลื่อนไหว อันเป็นตัวถูกรู้
2.ดูจิต:คือ มีจิตไปรู้อารมณ์ แล้วจิตเห็นอะไรบ้าง ขณะไปรู้อารมณ์นั้น
เห็นอาการนั่ง อาการขยับเคลื่อนไหว ไม่ใช่เห็นด้วยตา แต่เป็นการเห็นด้วยใจ เห็นด้วยความรู้สึก
ในขณะเห็น จึงเกิดความรู้สึกตัวว่า รูปกาย กำลัง ขยับเคลื่อนไหว กำลังนั่ง การรู้สึกตัวนั้นจึงเป็นวิญญาน ไปกระทบจิต( กายวิญญาน) ว่ารู้สึกสะเทือนที่รูป
กาย และส่งผลไปเกิดที่จิต เช่น รู้สึกกายเคลื่อนไหวแล้วรู้สึกสบายตัว รู้สึกสบายตัว จึงเป็นมโนวิญญาน กระทบจิตด้วย(จิตมีเวทนา)
เป็นเหตุจากรูปทำให้เกิด เวทนา
ดังนั้น หากไม่มีตัวรู้ที่แยกออกมาต่างหากจะไม่เห็นกระบวนการนี้ จะเห็นแต่กายของเรา กำลังขยับเคลื่อนไหว (อุปทาน) จะไม่เห็นกระบวนการภายใน ที่ว่า
“รูปเป็นเหตุแห่งอุปทาน”