ถ้าไม่ใช่เรื่องหน้าตาหรือนิสัย แล้วอะไรล่ะที่ทำให้เรารู้สึก ‘ตกหลุมรัก’?

ถ้าไม่ใช่เรื่องหน้าตาหรือนิสัย แล้วอะไรล่ะที่ทำให้เรารู้สึก ‘ตกหลุมรัก’?
.
เวลาเรารู้สึกชอบหรือถูกใจใครสักคน เราอาจจะชอบเพราะเขาตรงสเปก ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกหรือนิสัยใจคอ
.
แต่เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่เคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกชอบคนคนนี้ ทั้งที่ไม่มีอะไรตรงสเปกเลยสักอย่าง หรือบางครั้งพอเจอคนที่ตรงสเปก แต่เอาเข้าจริงเรากลับไม่ชอบเขาเสียอย่างนั้น
ถ้าไม่ใช่สเปก แล้วปัจจัยอะไรกันล่ะที่ทำให้ใครคนหนึ่งดึงดูดใจเราได้?
.
ก่อนอื่น เรามาพูดถึงแรงดึงดูดทางเพศกันก่อน ศูนย์ LGBTQ+ แห่งมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา แชเปิลฮิลล์ (University of North Carolina at Chapel Hill) ระบุว่า แรงดึงดูดทางเพศ คือแรงดึงดูดที่ทำให้ผู้คนปรารถนาการสัมผัสทางเพศ หรือแสดงความสนใจทางเพศต่อบุคคลอื่น
.
ทีนี้เรามาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อแรงดึงดูดนี้ โดยนักวิทยาศาสตร์แบ่งเป็น 2 ปัจจัยหลักๆ ได้แก่
.
ปัจจัยทางชีวภาพ เช่น
(1) อะดรีนาลีนและความตื่นเต้น: งานวิจัยคลาสสิกด้านจิตวิทยาเกี่ยวกับแรงดึงดูดคือ ‘The Love Bridge Study’ โดยนักจิตวิทยาให้ผู้ชาย 85 คนเดินข้ามสะพานแขวนกับสะพานปกติ แล้วให้ผู้สัมภาษณ์หญิงเข้ามาให้พวกเขาตอบแบบสอบถาม หลังจากนั้นเธอก็ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้
.
ผลวิจัยพบว่าผู้ชายที่เดินบนสะพานแขวนมีแนวโน้มที่จะโทรกลับมากกว่า และยังเขียนคำตอบในแบบสอบถามที่มีเนื้อหาหรือภาพเชิงชู้สาวมากกว่าด้วย
.
สิ่งนี้เรียกว่า การตีความความตื่นตัวผิดพลาด (Misattribution of Arousal) คือ พวกเขารู้สึกตื่นเต้นจากสถานการณ์ที่เสี่ยงและท้าทาย แล้วโยงความรู้สึกตื่นเต้นนั้นไปยังผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ทำให้เข้าใจไปว่าความรู้สึกตื่นเต้นนั้นเกิดจากการพบคนที่ถูกใจ
.
(2) กลิ่นธรรมชาติ: นอกจากอะดรีนาลีนแล้ว งานวิจัยยังพบว่า ‘กลิ่น’ ก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน เช่น มีการทดลองที่ให้ผู้หญิงดมเสื้อยืดที่ผู้ชายใส่มา แล้วเลือกเสื้อตัวที่รู้สึกดึงดูดมากที่สุด ปรากฏว่าผู้หญิงมักเลือกเสื้อของผู้ชายที่มียีนระบบภูมิคุ้มกันแตกต่างจากตนเอง เพราะยีนนี้มีผลต่อสารเคมีที่ร่างกายปล่อยออกมาซึ่งกลายเป็นกลิ่นตัวธรรมชาติที่แต่ละคนมีไม่เหมือนกัน และเชื่อกันว่ามีผลต่อแรงดึงดูดทางเพศ
.
ปัจจัยทางจิตวิทยา
(1) อารมณ์ (Mood): นักจิตวิทยาสังคมอธิบายว่า ‘อารมณ์’ มีผลต่อระดับแรงดึงดูดที่เรารู้สึกได้ เช่น หากคุณเพิ่งได้รับข่าวดีมา คุณมีแนวโน้มที่จะมองว่าคนที่พบเจอหลังจากนั้นดูดีหรือน่าสนใจกว่าปกติ ซึ่งอาจส่งผลต่อการเกิดแรงดึงดูดต่อบุคคลนั้น
.
(2) รูปแบบความผูกพัน (Attachment Style): ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมมนุษย์และความสัมพันธ์ กล่าวว่าเรามักถูกดึงดูดจากคนที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยหรือใกล้เคียงกับตัวเอง เช่น รูปแบบความผูกพันที่จะสะท้อนความเชื่อหรือความคาดหวังของเราในเรื่องการดูแล ความไว้วางใจ การถูกทอดทิ้ง การพึ่งพา การสนับสนุน ความใกล้ชิด และความเปราะบาง กล่าวคือ เราจะดึงดูดคนที่มีค่านิยม ความเชื่อใกล้เคียงกัน หรืออยู่ในช่วงวัยหรือจังหวะชีวิตที่ใกล้เคียงกันด้วย
.
(3) การเอาชนะใจ: มีการศึกษาหนึ่งค้นพบว่าคนเรามักชอบความรู้สึกที่ได้ทำให้ใครสักคน ‘เปลี่ยนใจ’ มาชอบตัวเอง มากกว่าที่อยู่ดีๆ ก็มาชอบเลย เมื่อพบว่าคนที่ชอบเราเริ่มจากการมีทัศนคติลบแล้วเปลี่ยนเป็นบวก เราจะรู้สึกดีและรู้สึกประสบความสำเร็จที่เอาชนะใจเขาได้
.
นอกจากสามปัจจัยที่กล่าวไปแล้ว ก็ยังมีปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ด้วย เช่น
(1) สถานที่ (Location): งานวิจัยพบว่าผู้หญิงจากประเทศที่พัฒนาแล้ว มีแนวโน้มที่จะชอบผู้ชายที่มีลักษณะอ่อนโยน หรือมีความเป็นผู้หญิงมากกว่า ในขณะที่ผู้หญิงจากประเทศกำลังพัฒนา มักชอบผู้ชายที่มีความเป็นผู้ชายชัดเจน สะท้อนว่ายิ่งคุณภาพชีวิตของประชากรในประเทศอยู่ในระดับต่ำ ความนิยมในความเป็นชายก็ยิ่งสูงขึ้น
.
(2) ความขาดแคลน (Scarcity): นักวิทยาศาสตร์ยกตัวอย่างปรากฏการณ์ ‘Closing Time Effect’ ที่อธิบายว่าคนในบาร์มักรู้สึกว่าคนในร้านดูมีเสน่ห์มากขึ้นเมื่อร้านใกล้จะปิด พูดง่ายๆ ก็คือ ยิ่งตัวเลือกเหลือน้อย คนเรายิ่งมีแนวโน้มที่จะเลือกสิ่งที่มีอยู่ในขณะนั้น
.
(3) ความสัมพันธ์ในครอบครัว (Familial Relationships): รสนิยมของคนเรายังได้รับอิทธิพลมาจากประสบการณ์ในอดีตและความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย เช่น หากคุณเติบโตมากับพ่อที่มีความเป็นชายชัดเจน และคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา คุณก็อาจมองว่าความเป็นชายแบบนั้นคือสิ่งที่น่าดึงดูด
.
สรุปคือ การที่เรารู้สึกถูกดึงดูดใจจากใครสักคนนั้นไม่ใช่แค่เรื่องรูปลักษณ์หรือนิสัยใจคอของเขาเท่านั้น แต่มันยังมีปัจจัยด้านอื่นที่เรามองไม่เห็นซ่อนอยู่ ซึ่งมีทั้งจากปัจจัยภายนอก เช่น สถานที่ สถานการณ์ และปัจจัยภายในที่มาจากประสบการณ์ในอดีตที่เราอาจไม่รู้ตัว
.
ไหน ใครเคยรู้สึกตกหลุมรักจากสถานการณ์เหล่านี้บ้าง ลองมาเล่าให้ฟังได้นะ
.
ที่มา : BrandThink
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่