NuNa Silpa-archa
โพสต์นี้จะยาวนะคะ...
เกี่ยวกับเด็กหญิงข้าวต้มทั้งหมด…
1. เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่เห็นน้องแต่แรกเกิดบอกว่า ในช่วงแรกแม่และพี่เลี้ยงพยายามพาน้องเดิน แม่ใช้งวงดันก้น
พี่เลี้ยง 2 ตัวประกบพาไปได้ระยะหนึ่ง ก็คงไม่ไหว...
(แม่รักน้องนะคะ ดิฉันเห็นคลิปแม่กับน้องที่คนแชร์กันแล้ว น้ำตาไหล)
บาดแผลที่ผิวหนังน้อง ก็เกิดจากการพยายามพากันไปแบบนี้แหละค่ะ…
2. ทราบว่าโขลงนี้ช้างมีประมาณ 20 ตัว มีเด็กเล็กๆหลายตัวและสมบูรณ์ทุกตัว
3. ตามที่เคยบอกในโพสต์ก่อน คุณหมอคาดว่าสภาพข้อเท้าน้องที่งอด้วยเส้นเอ็นผิดปกติ
เกิดมาจากน้องตัวโตและอยู่ในท้องแม่นาน
4. โชคดีที่ส่วนอื่นๆของน้องปกติทุกอย่าง...
5. พี่เลี้ยงบอกว่า น้องกินเก่ง นอนดี ว่าง่าย ขี้อ้อน กลางคืนต้องมีคนคอยจับตัวและอยู่เป็นเพื่อนไม่งอแงเลย
แนวทางการรักษา…
6. เนื่องจากได้เห็นแล้วว่า..การใช้เครื่องอัลตราซาวด์บำบัดให้น้องวันละสองครั้ง
ใช้เครื่องปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าวันละครั้ง..
มีผลให้ขาน้องที่งอเหยียด ยืดขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
จึงจะทำเช่นนี้ต่อไป
และคอยประเมินผลไปเรื่อยๆ
7. โชคดีที่บึงฉวาก มีบุคลากรพร้อมอุปกรณ์พร้อม
เครื่องอัลตราซาวด์ใช้ 2 เครื่อง..
เครื่องหนึ่งดิฉันซื้อไว้ให้ที่ ม.เกษตร กำแพงแสน
อีกเครื่องหนึ่งดิฉันซื้อไว้ให้ที่กรมอุทยานฯ ส่วนกลาง
ทั้งสองเครื่องซื้อไว้ให้ก่อนระยะหนึ่งแล้ว..
8. นอกจากบุคลากรของบึงฉวากเองแล้ว ทางกรมฯ ส่วนกลางก็ส่งคนมาเพิ่มด้วย
9.หมอปาล์ม ได้สั่งแผ่นยาง EVA มาเพิ่มเพื่อปูให้เต็มพื้นที่ เนื่องจากเมื่อน้องพยายามเดิน ก็จะกินบริเวณมากขึ้น
10. และพรุ่งนี้หมอจะสั่งนั่งร้านมาต่อล้อเหมือนที่เคยทำให้น้องเดือน ทับลาน (น้องเดือนจากไปแล้ว) เพื่อฝึกการเดินของน้อง
11. วันที่น้องมาถึงบึงฉวากวันแรก มีการเจาะเลือด ปรากฏว่า ค่าตับและค่าไตสูง ค่าตับสูง เพราะช่วงแรกน้องได้กินอาหารไม่เพียงพอ
ส่วนค่าไตสูงอาจเพราะมีการสลายตัวของกล้ามเนื้อบางส่วนในช่วงที่พยายามเดินตามไปกับแม่
12. เจาะเลือดใหม่เมื่อวานนี้ค่าตับและค่าไตดีขึ้น
13. มูลของน้อง ช่วงแรกมีสีเขียวจัด หมอต้อมบอกว่าเป็นเพราะมีน้ำดีผสมมาเยอะ เนื่องจากน้องขาดอาหาร แต่ตอนนี้จางลงเรื่อยๆ
14. เมื่อวานนี้ คุณหมอได้ให้พลาสม่าน้องไป 10 ถุง ซึ่ง ทาง ม. เกษตร โดยคุณหมอแอ้มได้เคยปั่นไว้จากเลือดของแม่ช้างของวังช้างแลเพนียด อยุธยา
15. ตามที่ได้บอกในโพสต์ก่อน..ช่วงนี้อาหารของน้องจะเป็นนมผงอย่างดีอย่างเดียวเลย และให้น้ำเกลือไปด้วย
16. เบาะลม ไว้ให้น้องนอนเวลากลางคืน…
สรุป…
เรามีความหวังในการรักษาขาน้องให้น้องสามารถเดินได้...
ตอนนี้ ข้อขาที่เดิมงอเป็นมุมแหลม ก็ยืดเป็นมุมป้านแล้ว…
ขอขอบคุณ ท่านอธิบดีกรมอุทยานฯ คุณหมอทุกคน พี่เลี้ยงทุกคน เจ้าของปางที่ส่งนมมาให้น้องทุกคน ชาวบ้านที่พบน้อง…
และพลังใจจากพ่อๆ แม่ๆที่รักน้องข้าวต้มน้อยทั่วประเทศค่ะ…
เราจะก้าวเดินไปด้วยกัน…
จบรายงาน (ที่ยาวมาก) จากคนที่ อยากเป็นสัตวแพทย์…
หนูนา กาญจนา ศิลปอาชา : รายงานเกี่ยวกับเด็กหญิงข้าวต้ม ลูกช้างน่ารักขาหน้าพิการตั้งแต่เกิดที่ถูกคุณแม่ทอดทิ้ง