ชีวประวัติหลวงปู่ชอบ ฐานสโม

ชีวประวัติหลวงปู่ชอบ ฐานสโม
ตอนที่ ๑๓๐ ยานี่บ่มีขายในโลก

   วันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๓๗ หลวงปู่ชอบท่านบอก “โบ้ย..เฮาเจ็บแข่ว (ไอ้หนูเราปวดฟัน)” ถามท่านว่าปวดฟันซี่ไหน ท่านบอกซี่ล่างด้านขวา ท่านบอกเราปวดมาสามสี่วันตอนนี้ใกล้จะหลุดแล้ว หลวงปู่ชอบท่านเอาลิ้นดุนฟันของท่านออกมาให้ดู ฟันท่านซี่ขวาข้างด้านล่างล้มออกมานอกริมฝีปากเหลืออีกนิดเดียวก็จะหลุดแล้ว

   ท่านบอก “อยากได้บ่โบ้ย อยากได้กะดึงเอาโลด” บอกท่านข้าน้อยบ่กล้าดึงออกกลัวเป็นบาปกรรม ถ้าครูบาอาจารย์จะเมตตามอบ ทันตธาตุ ให้ก็ให้หลุดออกมาเอง จะเป็นมงคลกว่า ท่านว่า “มีแต่คนอยากได้แข่วเฮาเด้ ถ่าท่านสิเอาเฮาไห่โอกาสดึงเอาโลด" ตนเองยืนยันกับท่านเหมือนเดิมจะไม่ดึงฟันครูบาอาจารย์ออก ปล่อยให้หลุดเองตามธรรมชาติจะดีกว่า

   พระเณรพอรู้ว่าหลวงปู่ชอบฟันโยกก็พากันมารอเอาฟันของท่าน หลวงปู่ชอบไล่พระเณรที่ไม่เกี่ยวข้องกับการอุปัฏฐากดูแลท่านออกไป “สิมาเฝ้าอีหยังเฮาบ่แม่นคนป่วย บ่แม่นแม่มานกําลังสิออกลูก (ไม่ใช่ผู้หญิงที่ใกล้จะคลอดลูก)”

   วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๓๗ ตอนเช้าหลวงปู่ชอบท่านบอก “โบ้ย...เอายามาใส่แข่ว ไห่เฮาแน่ (ไอ้หนูเอายามาใส่ฟันให้เราด้วย)” หลวงปู่ชอบท่านชี้มือไปที่กล่องกระดาษทิชชู่ข้างที่นอนของท่าน เห็นถุงพลาสติกเล็ก ๆ ขนาดเท่าสองนิ้ว ข้างในเป็นผงสีดําคล้ายผงถ่านดินปืน หยิบขึ้นมาดูถามท่านว่าใช่ยาอันนี้หรือเปล่า ท่านบอก “อันนั่นล่ะยาใส่แข่ว (อันนั้นล่ะยาใส่ฟัน )” คิดในใจยานี้มันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ใครเอามาวางไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถามพระเณรที่นอนเฝ้าหลวงปู่ชอบด้วยกันก็ไม่มีใครรู้ที่มาของยานี้

   ท่านบอกให้เอายาผงดํานี้ใส่รอบ ๆ ฟันของท่าน ขณะป้ายยาฟันของท่านก็โยกคลอนเหมือนจะหลุดออกมากับมือ จนต้องป้ายยาใส่ฟันของท่านอย่างระวัง หลังป้ายยาผงดํานี้แล้วหลวงปู่ชอบท่านนั่งอมยานี้ไว้ในปากประมาณห้านาทีจึงบ้วนออกมา หลังบ้วนยาฉันน้ำแล้วท่านบอก “เฮาเซาเจ็บแข่วแล้วโบ๊ย แข่วเฮาดีคือเก่าแล้ว” ตอนนั้นคิดว่าหลวงปู่ชอบท่านพูดหยอกเฉย ๆ ตนเองว่ายาอี่หยังคือสิมาดีแท้ ใส่ปุ๊บเซาปั๊บว่านี่แหม๋ ท่านบอก “ยาทิพย์แข่ว” ฟังชื่อยาครั้งแรกตนเองเข้าใจว่าเป็นยาที่ลูกศิษย์ของท่านทางเวียงจันทร์นํามาถวาย เพราะเมื่อวานมีลูกศิษย์หลวงปู่ชอบจากเวียงจันทร์มากราบท่าน

   ตนเองอยากพิสูจน์จึงขอโอกาสให้หลวงปู่ชอบท่านอ้าปากให้ดู ลองเอามือแตะ ๆโยกฟันของท่านดู ปรากฏว่าฟันของท่านที่โยกคลอนจนเกือบจะหลุดอยู่แล้วกลับแน่นปึกเหมือนเดิม โยกฟันท่านดูอยู่หลายครั้งหลวงปู่ชอบท่านกัดนิ้วมือของเราเป็นการหยอก ท่านว่า “มาโลดบาดนี่ จี่หนังควายพ่อแก่มันกะฉันได่”

   ตนเองรู้สึกประหลาดใจ “ยาทิพย์แข่ว” ทําไมมันดีจัง ขนาดฟันหลวงปู่ชอบเกือบจะหลุดอยู่แล้วกลับมาแน่นปึกดังเดิมแค่ชั่วเวลาไม่กี่นาที ถามท่านว่ายานี้มีขายที่ไหน จะได้ไปซื้อมาไว้เผื่อครูบาอาจารย์ปวดฟัน หรือคนอื่นปวดฟันจะได้เอาให้เขาใช้ ท่านบอก “ยานี่บ่มีขายในโลก ร้านใด๋กะบ่มีขาย ยานี่มีพ่อออก (โยมผู้ชาย) เอามาถวายเฮามื่อคืนนี่” ถามท่านโยมเขาเอายามาถวายตอนไหน ท่านบอก “พ่อออกเขาเอายามาถวายตอนพวกท่านนอนหลับ พวกนี่บ่ฮู้ขี้หมาตาตดอีหยังเลย คาแต่หลับแต่นอนโกนซอดๆ
ถ่าเขาเป็นเสือป่านนี้พวกท่านถูกคาบคอไปกินแล้ว”

   ถามหลวงปู่ชอบถึงพ่อออกผู้ที่เอา “ยาทิพย์แข่ว” มาถวาย เขาไม่ใช่คนธรรมดาใช่ไหม การไปการมาของเขาพระเณรที่เฝ้าอุปัฏฐากไม่มีใครเห็นเขาซักคนเลย ที่สําคัญห้องพักก็ล็อคเอาไว้ คนข้างนอกไม่สามารถเข้ามาได้ถ้าไม่มีกุญแจเปิด

   ท่านบอก “พ่อออกผู้นี้เป็นราชาเทวดาอยู่ดาวดึงส์ เขาฮู้ว่าเฮาปวดแข่วหลาย เขาเลยทําบุญเอายามาถวายเฮา เขาเอายามาถวายตอนสองยามกว่า เขามาตอนเวลาพวกหมานอนตายหงายท้องป่างหง่าง” ว่าจบท่านก็หัวเราะชอบใจเมื่อได้ว่าให้พวกเรา ที่นอนเฝ้าเป็นหมานอนตายหงายท้องปางหง่าง คําว่าครูบาอาจารย์ถูกของท่าน พวกเราที่เฝ้าพากันนอนหลับปานตายไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับท่านเมื่อตอนสองยามเลย

   ท่านว่า “เทวดาเขาจะเอายาไส่ไห่ เฮาบอกเขาเอายานี่ไว่ให่พระเณรเห็นก่อน ไห่พระเณรได้เห็นปาฏิหาริย์ในพระศาสนา” ครูบาอาจารย์ท่านทําแบบนี้เพื่อให้ลูกศิษย์อย่างพวกเราเป็นพยานในความรู้ของท่าน อย่างเรื่อง “ยาทิพย์แข่ว” เทวดานํามาถวายองค์ท่านนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่พวกเราได้สัมผัสรับรู้

   จากนั้นท่านเล่าเรื่องกรรมของ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม สหายธรรมของท่านให้ฟัง ท่านบอกหลวงปู่ตื้อถูกอมนุษย์รบกวนขณะทําความเพียร อมนุษย์ผีตนนี้จําแลงเป็นงูใหญ่มาขู่ฟ่ออ้าปากทําท่าเหมือนจะฉกท่าน หลวงปู่ตื้อทราบว่างูตัวนี้ไม่ใช่งูจริงเป็นงูผีแปลงจําแลงมาข่มขู่เพื่อให้ท่านกลัว หลวงปู่ตื้อท่านเอาเทียนมัดใส่ไม้เท้าจุดไฟทิ่มเข้าปากงูผีแปลงตัวนี้ จนงูผีแปลงตัวนี้มันหนีลงจากดอยเพราะกลัวในอํานาจของท่าน

   ตอนท่านพักอยู่วัดป่าอาจารย์ตื้อแม่แตง มีวันหนึ่งขณะฉันมีเศษอาหารเข้าไปติดในซอกฟันของท่าน หลวงปู่ตื้อท่านเอาไม้จิ้มฟันแคะยังไงเศษอาหารก็ไม่หลุดออก ท่านเลยเอาไม้จิ้มฟันดันเข้าไปจนลึกสุดซอกสุดฟัน ไม้จิ้มฟันนั้นเกิดหักแทงเหงือกเลือดไหลออกมา หลวงปู่ตื้อท่านเจ็บเหงือกปวดฟันอยู่หลายวัน ฉันอาหารไม่ค่อยได้ พอฉันอาหารเข้าไปแล้วเศษอาหารจะเข้าไปติดซอกฟันของท่าน เวลาแคะเอาเศษอาหารออกก็จะเจ็บมีเลือดไหลออกมาด้วย ท่านพิจารณาถึงกรรมที่ทําให้ตนเองต้องมาเจ็บเหงือกเจ็บฟันอย่างนี้ ท่านทราบว่ากรรมนี้ของท่านเกิดจากกรรมท่านเพ่งจิตเอาไฟทิ่มปากอนุษย์จําแลงเป็นงูมาขู่ท่านที่บ้านแม่ขุนคอง อําเภอเชียงดาว

   พอทราบที่มาของกรรมแล้วท่านก็ปลงในธรรมยอมรับกรรมของตนเอง ใครจะเอายารักษาฟันมาให้ท่านก็ไม่ฉัน หลวงปู่ตื้อท่านปวดเหงือกปวดฟันอยู่ร่วมเดือนจนฟันของท่านหลุดออกมา หลวงปู่ชอบว่า “เฒ่าตื้อฮ้องขึ้นอยู่กุฏิ กูใช้กรรมให้แล้วเด้อ กูเบิ่ดกรรมกับแล้วเด้อ ท่านหลวงแผ่นดินเย็นได้ยินเสียงฮ้องเฒ่าตื้อ นึกว่าเพิ่นเป็นอีหยังกะเลยไปเบิ่ง
ท่านหลวงว่าอาจารย์เป็นอีหยังคือฮ้องดังคักแท้ เฒ่าตื้อว่าเฮาเบิ่ดกรรมเจ็บแข่วแล้วหลวงเอ้ย แข่วเฮาหลุดแล้ว กรรมเบิ่ดแล้ว”

   (หลวงแผ่นดินเย็น เป็นฉายาที่หลวงปู่ชอบท่านตั้งให้ หลวงปู่หลวง กตปุญโญ วัดสุวรรณคีรีบรรพต อําเภอเมือง จังหวัดลําปาง)

   เรียนถามหลวงปู่ชอบว่า กรรมอะไรของครูบาอาจารย์ถึงได้มาปวดฟันในครั้งนี้ ท่านบอก “กรรมปัจจุบัน ตอนเป็นบ่าวเฮาตีปากเขาแตกแข่วโยก (ปากแตกฟันโยก) กรรมนี่เลยส่งผลไห่เจ้าของเจ็บแจ่วอยู่หลายมื่อ กรรมบ่ว่าน้อยใหญ่พอตามทันแล้วมันแสดงไห่เห็นเบิ่ด เฮ็ดกรรมไว่แล้วบ่มีใผ๋หนีพ้น บ่ได่ไซ่ซาตินีกะได่ไซ่ซาติหน่า”..

***จากหนังสือ.. หลวงปู่ชอบ ฐานสโม พระอรหันต์​ผู้ทรง​ฤทธิ์​แห่ง​ยุค

**ลิขสิทธิ์.. วัดท่าแขก อ.เชียงคาน จ.เลย

**เรียบเรียงโดย.. พระวีระศักดิ์​ ธีรภัทโท
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่