พลังดาราของลีโอจะพา One Battle After Another เปิดตัวเกิน 25 ล้านได้หรือไม่ Gabby’s Dollhouse กวาด 15-20 ล้าน

สุดสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายนนี้มีหนังใหม่เปิดตัวถึง 3 เรื่อง หลากหลายแนวกันไป ทั้ง Action-Thriller สายรางวัล, Hybrid Animation จากการ์ตูนเด็กเรื่องดังใน Netflix และภาคที่ 2 ของหนังเชือดฆ่าไม่เลือก
 
 
 
One Battle After Another (WB)
Warner Bros. จะปิดปี 2025 ของตัวเองอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนด้วยภาพยนตร์เรื่องใหม่จากฝีมือการกำกับของ Paul Thomas Anderson นำแสดงโดยเบอร์ใหญ่ของ Hollywood อย่าง Leonardo DiCaprio ที่ใช้ทุนสร้างอย่างต่ำ 130 ล้านเหรียญ ทาง WB ที่สร้างสถติตเปิดตัวหนังด้วยรายได้เกิน 40 ล้านเหรียญติดต่อกันมา 7 เรื่องอาจจะต้องหยุดสถิติของตัวเองไว้เพียงเท่านั้น เพราะแม้ One Battle After Another ที่ได้ PTA และ LDC มาฟิวชั่นกันจะเป็นที่ชื่นชอบมากๆในหมู่นักวิจารณ์โดยทำคะแนน Tomatometer ได้สุงถึง 98% จาก 186 รีวิวและ Metascore = 95 จาก 51 รีวิว รวมทั้งเป็นตัวเต็งที่จะเข้าชิงรางวัล Oscars หลายสาขา กลับยังทำยอดจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าในหมู่ผู้ชมทั่วไปไม่ได้สูงมากนัก คาดกันว่า OBAA จะรายได้รอบพรีวิวประมาณ 3-4 ล้านเหรียญ และทำรายได้เปิดตัวในช่วง 23-28 ล้านเหรียญ แต่จากคะแนนวิจารณ์ที่สูงมากๆก็มีโอกาสที่จะเกิดพลัง WoM ผลักดันให้หนังเปิดตัวมากกว่า 30 ล้านได้เช่นกัน
 
OBAA เป็นภาพยนตร์แนว Action-Thriller ระดับมหากาพย์ เรื่องราวของ Bob Ferguson (รับบทโดย LDC) อดีตนักปฏิวัติที่ชีวิตตกต่ำและใช้ชีวิตอยู่แบบหวาดระแวงนอกระบบสังคมกับ Willa (รับบทโดย Chase Infiniti) ลูกสาวผู้มีจิตใจเข้มแข็ง ซึ่งเป็นลูกที่เขาเลี้ยงดูมาด้วยตัวเอง ชีวิตอันสงบสุขของพวกเขาต้องสั่นคลอนเมื่อ Steven J. Lockjaw (รับบทโดย Sean Penn) ศัตรูตัวฉกาจที่หายหน้าไปนานถึง 16 ปี ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง และ Willa ก็หายตัวไป อดีตนักรบหัวรุนแรงอย่าง Bob จึงต้องออกตามหาลูกสาวอย่างบ้าคลั่ง โดยทั้งพ่อและลูกต่างต้องต่อสู้กับผลที่ตามมาจากการกระทำในอดีตของเขา ซึ่งนำไปสู่การรวมตัวของกลุ่มอดีตนักปฏิวัติอีกครั้งเพื่อช่วยเหลือลูกสาวของเพื่อนร่วมทีม
 
 
 
Gabby’s Dollhouse: The Movie (Universal)
ปังแน่ๆเมื่อ DreamWorks Animation ตัดสินใจสร้าง Hybrid Animation จากการ์ตูนเด็กยอดฮิตของตัวเองใน Netflix โดย Gabby’s Dollhouse: The Movie กำกับโดย Ryan Crego และได้ Kristen Wiig มารับบทตัวร้ายหลักของเรื่องซึ่งเป็นเรื่องราวของ Gabby ที่เดินทางไปเที่ยวกับ Grandma Gigi ด้วยรถ "Kitty Wagon" สู่เมืองแฟนตาซีที่มีชื่อว่า Cat Francisco แต่ระหว่างการเดินทาง “บ้านตุ๊กตา” ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของแก๊บบี้และเป็นที่อยู่ของเพื่อนแมวสุดน่ารักของเธอที่เรียกว่า Gabby Cats กลับกลิ้งหลุดออกไปจากรถ และตกลงไปอยู่ในมือของ Vera คุณป้าที่หมกมุ่นอยู่กับแมวและเป็นนักสะสมผู้แปลกประหลาด เมื่อบ้านตุ๊กตาถูกขโมยไป Gabby จึงต้องออกผจญภัยในโลกแห่งความเป็นจริงเพื่อตามหาบ้านตุ๊กตาของเธอ, รวมกลุ่มเพื่อนๆ Gabby Cats ให้กลับมาอยู่ด้วยกันและปกป้องบ้านตุ๊กตาก่อนที่จะสายเกินไป
 
โดย Gabby’s Dollhouse ฉบับภาพยนตร์ได้คะแนนวิจารณ์ล่าสุดคือ Tomatometer 73% จาก 11 รีวิว คาดว่าด้วยพลังของแฟนๆจะทำให้หนังทำรายได้รอบพรีวิววันพฤหัสราว 1-2 ล้าน และรายได้เปิดตัวประมาณ 15-20 ล้านเหรียญ
 
 
 
Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba - Infinity Castle (Crunchyroll / Sony)
เดินหน้าสู่สุดสัปดาห์ที่ 3 แล้วสำหรับดาบพิฆาตอสูรภาคปราสาทไร้ขอบเขตตอนที่ 1 ที่สร้างสถิติต่างๆไปแล้วมากมายในอเมริกาเหนือ ยังเหลือสถิติสุดท้ายที่ Demon Slayer ภาคนี้กำลังไล่กวดอยู่ก็คือภาพยนตร์ต่างประเทศทำเงินสูงที่สุดตลอดกาล 128.5 ล้านเหรียญซึ่ง Crouching Tiger, Hidden Dragon เคยทำเอาไว้เมื่อเกือบ 30 ปีมาแล้ว คาดว่าสุดสัปดาห์นี้ดาบพิฆาตจะทำเงินไปอีกราว 7-9 ล้าน รายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 117-120 ล้านเหรียญ
 
 
 
The Conjuring: Last Rites (WB)
หลอนกันต่อกับสุดสัปดาห์ที่ 4 ของ The Conjuring: Last Rites ที่กลายเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงที่สุดในจักรวาลคนเรียกผีไปเรียบร้อยแล้วทั้งในประเทศและทั่วโลก โดยคาดว่าในสุดสัปดาห์นี้จะทำเงินไปอีกประมาณ 6-8 ล้าน รายได้รวมขึ้นไปที่ 160-163 ล้านเหรียญ ทำให้กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำกำไรสูงที่สุดอันดับที่ 4 ของปีนี้ ณ เวลาปัจจุบัน เป็นรองเพียง Lilo & Stitch, A Minecraft Movie และ Jurassic World Rebirth เท่านั้น ปาดหน้าหนังใหญ่เรื่องอื่นๆอีกหลายเรื่องได้อย่างสบายๆ
 
 
 
The Strangers – Chapter 2 (Lionsgate)
ภาพยนตร์ลำดับที่ 2 จากไตรภาค The Strangers ที่สร้างโดย Renny Harlin ซึ่งภาคแรกทำเงินทั่วโลกไป 48.2 ล้านจากทุนสร้างเพียง 8.5 ล้าน และทำรายได้เปิดตัวเฉพาะในอเมริกาเหนือไปถึง 11.8 ล้านเหรียญ ปัญหาก็คือเสียงด่าจากภาคแรกที่ผู้ชมทั่วๆไปถามว่สร้างหนังซ้ำๆซากๆออกมาทำไม ทำให้ The Strangers – Chapter 2 กลายเป็นหนังที่ไม่มีใครขอให้สร้างแต่ค่ายหนังจะยัดเยียดมาให้ผู้ชมดู บวกกับคะแนนวิจารณ์ที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินได้ Tomatometer 14% จาก 21 รีวิว และ Metacritic = 27 จาก 7 รีวิว ทำให้คาดว่าหนังจะทำรายได้รอบพรีวิววันพฤหัสราว 0.5 ล้าน และทำรายได้เปิดตัวประมาณ 4-7 ล้านเหรียญเท่านั้น ต่ำกว่าภาคแรกเกือบครึ่ง แม้รายได้จะตกต่ำแต่จากการที่มีทุนสร้างต่ำเพียง 9 ล้านเหรียญ ก็รับประกันได้ว่าจะมี Chapter 3 ตามออกมาช่วงต้นปี 2026 ตามแผนงานที่วางไว้อย่างแน่นอน
 
อำมหิตฆ่าไม่เลือกภาค 2 นำเสนอเรื่องราวของ Maya ที่ยังไม่จบลง หลังจากที่เธอรอดชีวิตจากการถูกกลุ่มฆาตกรสวมหน้ากากที่รู้จักกันในชื่อ The Strangers บุกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมในบ้านพักกลางป่า หลังจากนั้น Maya ตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลในเมือง Venus รัฐ Oregon พร้อมกับข่าวร้ายที่ว่าคู่หมั้นของเธอเสียชีวิตจากเหตุการณ์สยองขวัญครั้งนั้น แต่โรงพยาบาลไม่ได้เป็นที่ปลอดภัย เพราะพวก Strangers ซึ่งประกอบด้วย Dollface, Man in the Mask และ Pin-Up Girl ได้รู้ว่า Maya ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาจึงกลับมาเพื่อเก็บงานที่ทำค้างไว้ และกำจัดพยานเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ Maya ต้องเผชิญหน้ากับความหวาดกลัวครั้งใหม่ เมื่อเธอต้องวิ่งหนีการตามล่าของกลุ่มฆาตกรผ่านทางเดินของโรงพยาบาลและผืนป่าโดยรอบ ท่ามกลางเมืองที่ดูเหมือนจะมีความลับดำมืดซ่อนอยู่โดยไม่สามารถไว้ใจใครได้เลย
 
 
 
The Long Walk (Lionsgate)
ภาพยนตร์แนว Dystopian ที่เป็นความหวังเล็กๆของ Lionsgate แต่ดูเหมือนว่าจะสร้างกระแสได้น้อยน้อยกว่าที่คาด แม้ว่าจะถูกใจนักวิจารณ์แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่สิ่งที่ผู้ชมทั่วไปชื่นชอบเท่าไหร่นัก ในสุดสัปดาห์ที่ 2 นี้คาดว่าเกมเดินมรณะจะทำเงินประมาณ 4-5 ล้าน รายได้รวมที่ราว 29-30 ล้านเหรียญ
 
 
 
Him (Universal)
ล้มเหลวขั้นสุดแบบเต็มๆเป็นเรื่องแรกของ Monkeypaw Productions สำหรับ Him ภาพยนตร?แนวกีฬา-สยองขวัญที่ไม่เป็นที่ถูกใจของทั้งนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วไป นี่น่าจะทำให้ Jordan Peele ต้องทบทวนแนวทางของหนังตัวเองเสียใหม่แม้ว่าจะไม่ได้กำกับ Him เองก็ตามที คาดว่าสุดสัปดาห์ที่ 2 นี้ Him จะทำรายได้ราว 3-4 ล้าน และรายได้รวมที่ประมาณ 20-22 ล้านเหรียญ
 
 
 
Downton Abbey: The Grand Finale (Universal)
สุดสัปดาห์ที่ 3 แล้วของบทสรุปสำหรับ Downton Abbey ซึ่งโดยรวมหนังก็ยังยืนระยะได้เป็นที่น่าพอใจ โดยคาดว่า The Grand Finale จะทำเงินไปอีก 3-4 ล้านเหรียญ รายได้รวมราว 38-40 ล้านเหรียญ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่