กีต้าร์โปร่งไฟฟ้าเป็นเครื่องดนตรีอะคูสติกที่ต่อเข้าระบบขยายเสียงได้ทันที เหมาะกับทั้งซ้อมและเล่นสด ในกลุ่มกีต้าร์ขนาดกะทัดรัด กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Taylor GS Mini-e โดดเด่นด้วยเสียงที่บาลานซ์ เล่นง่าย และจูนเสียงได้รวดเร็ว เหมาะกับผู้เริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพที่ต้องการกีต้าร์พกพาสะดวก
โครงสร้างและวัสดุที่ใช้ของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Taylor GS Mini-e
บอดี้ทรง Grand Symphony Mini มีขนาดกะทัดรัด แต่ยังให้มิติของเสียงครบถ้วน ไม้หน้าใช้ Solid Sitka spruce ขึ้นชื่อว่าเสียงใส ตอบสนองเร็ว เหมาะทั้งการตีคอร์ดและเล่นแบบฟิงเกอร์สไตล์ ส่วนด้านข้างและด้านหลังเป็นไม้ sapele แบบลามิเนต ให้โทนกลางอุ่น กระชับ และช่วยควบคุมเสียงทุ้มไม่ให้บวมง่าย ภายในเสริมโครงค้ำไม้ (bracing) รุ่น GS Mini with Relief Rout เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและให้ไม้สั่นสะเทือนได้เป็นธรรมชาติ ผิวเคลือบแบบด้าน (แมตต์) ลดแสงสะท้อน ให้สัมผัสเป็นธรรมชาติ และดูแลรักษาได้ง่าย
คอและฟิงเกอร์บอร์ดของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Taylor GS Mini-e
คอทำจากไม้มะฮอกกานี (Neo‑tropical mahogany) แข็งแรงและให้น้ำหนักสมดุล จับถนัดมือ ทรงคอตระกูล GS Mini ออกแบบให้จับถนัดมือ วางนิ้วกดคอร์ดบนคอกีต้าร์ได้ง่ายตั้งแต่ครั้งแรกที่ลองเล่น ฟิงเกอร์บอร์ดทำจากไม้ Ebony มีความโค้งรัศมี 15 นิ้ว ช่วยให้สไลด์ ดันสาย และไล่โน้ตได้ลื่นไหล ความกว้างนัท 1.687 นิ้ว จัดระยะสายกำลังพอดี เล่นแบบฟิงเกอร์สไตล์ได้สะดวก เพราะสายแต่ละเส้นมีระยะห่างไม่เบียดกัน สะพานสายและนัทใช้วัสดุ Micarta และ Nubone ช่วยส่งผ่านการสั่นจากสายสู่ตัวกีต้าร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Taylor GS Mini-e
ติดตั้งระบบ ES‑B ที่มีปรีแอมป์และจูนเนอร์ในตัว ปรับ EQ ได้ 3 ย่าน ใช้งานง่าย เสียงที่ได้ใส ชัด และยังคงสมดุลเมื่อต่อเข้าตู้แอมป์หรือระบบเสียง (PA) จูนเนอร์ในตัวช่วยตั้งสายแบบเงียบ ๆ บนเวที ช่วยให้ตั้งสายได้ตรง ลดโอกาสเสียงเพี้ยนขณะเล่น แบตเตอรี่ใช้งานได้นานและเปลี่ยนสะดวก
ดีไซน์พิเศษแบบ Victorian Burst
เวอร์ชัน Special Edition นี้มาพร้อมการไล่เฉดสีแบบ Victorian Burst ให้ลุคหรูและสะดุดตาเมื่ออยู่บนเวที ลายไม้ผสานกับเฉดสีช่วยขับให้รูปทรงตัวกีต้าร์โดดเด่นและดูสง่างาม เหมาะทั้งการเล่นสดและการถ่ายวิดีโอที่ต้องการภาพสวยดูเป็นมืออาชีพ งานประกอบเรียบร้อย แข็งแรง ตามมาตรฐานของ Taylor
ความเหมาะสมในการใช้งาน
ขนาดกะทัดรัดและสเกล 23.5 นิ้ว ทำให้แรงตึงสายไม่สูง เล่นได้นานไม่เมื่อยมือ มือใหม่ปรับตัวได้เร็ว ส่วนมืออาชีพจะชอบความนิ่งของโทนเสียง เมื่อติดไมค์หรือเชื่อมต่อแอมป์ก็ปรับโทนได้ง่าย ใช้งานได้ตั้งแต่ซ้อม เดินทาง เล่นคาเฟ่ จนถึงงานอัดเดโม มาพร้อมกระเป๋า Taylor Structured Gig Bag ช่วยปกป้องกีต้าร์ระหว่างพกพา
ขนาดและการพกพาของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Taylor GS Mini-e
รุ่นนี้เน้นความคล่องตัวเป็นหลัก สเกล 23.5 นิ้วทำให้แรงตึงสายต่ำกว่ากีต้าร์ขนาดเต็ม เล่นง่ายและใช้คาโปได้สะดวก เหมาะกับผู้ที่มือเล็ก ผู้หญิง หรือผู้ที่ต้องพกกีต้าร์ขึ้นรถไฟ ขึ้นเครื่องบิน หรือเล่นตามคาเฟ่บ่อย ๆ ขนาดบอดี้ที่กระชับช่วยควบคุมเสียงทุ้มไม่ให้ล้น และยังเก็บรายละเอียดเสียงกลางและเสียงแหลมได้ดีเมื่อติดไมค์ใกล้ ๆ หรือเชื่อมต่อแอมป์ในห้องขนาดเล็ก
ความกว้างนัท 1.687 นิ้ว ช่วยให้จับคอร์ดและเปลี่ยนรูปแบบคอร์ดได้คล่อง ฟิงเกอร์บอร์ดโค้งรัศมี 15 นิ้วให้สัมผัสเป็นธรรมชาติทั้งจังหวะและการโซโล่ กระเป๋า Taylor Structured Gig Bag มีความหนา คงรูป และมีช่องเก็บอุปกรณ์ ช่วยให้การเดินทางในเมืองหรือทริปต่างจังหวัดสะดวกขึ้น (หากขึ้นเครื่อง แนะนำตรวจเงื่อนไขของสายการบินล่วงหน้า)
การตั้งค่าเสียง ES‑B สำหรับเวทีและการอัด
เริ่มจากตั้งค่า EQ ทั้งสามย่านให้เป็นกลางก่อน แล้วฟังสภาพห้องและเสียงของคุณ
- หากห้องหรือเวทีก้อง หรือได้ยินเสียงทุ้มล้นเกินไป ให้ลดย่านต่ำ (Low) ลงเล็กน้อย
- หากเสียงกลางขุ่น หรือมีเสียงหอน (ฟีดแบ็ก) แถวช่วงเสียงพูด ให้ลดย่านกลาง (Mid) เล็กน้อย
- หากอยากให้เสียงชัดใสขึ้นเวลาตีคอร์ด ให้เพิ่มย่านสูง (High) เล็กน้อย
จูนเนอร์ในตัวช่วยตั้งสายได้เงียบ ๆ ระหว่างพักเพลง ตั้งสายให้ตรงเพื่อลดโอกาสเสียงเพี้ยน เมื่อต่อเข้าระบบเสียง (PA) แนะนำใช้กล่อง DI คุณภาพดีเพื่อแปลงสัญญาณและลดสัญญาณจี่/ฮัม จัดวางลำโพงมอนิเตอร์ไม่ให้หันตรงเข้าซาวด์โฮล เพื่อเลี่ยงเสียงหอน หากต้องเล่นดังในพื้นที่เล็ก ใช้ที่ปิดซาวด์โฮลช่วยป้องกันฟีดแบ็กได้มากขึ้น
การดูแลรักษาไม้และฮาร์ดแวร์
ควบคุมความชื้นให้คงที่ประมาณ 45–55% เก็บกีต้าร์ไว้ในกระเป๋าทุกครั้งหลังเล่น และเช็ดสายกับฟิงเกอร์บอร์ดด้วยผ้านุ่มให้แห้งสะอาด เปลี่ยนสายตามการใช้งาน โดยทั่วไปทุก 1–3 เดือน ขนาดสายที่เหมาะกับกีต้าร์ที่มีความยาวสเกลสั้นประมาณ 23.5 นิ้ว คือ .012–.053 หากได้ยินเสียงสายกระทบเฟร็ต ตรวจความสูงของสาย (แอ็คชัน) และปรับก้านคอ (ทรัสร็อด) อย่างระมัดระวัง หากไม่มั่นใจควรให้ช่างผู้ชำนาญเป็นผู้ตั้งให้ ผิวเคลือบแบบด้าน (แมตต์) ควรหลีกเลี่ยงน้ำยาที่มีซิลิโคน และเลือกใช้น้ำยาดูแลไม้เฉพาะทางจะปลอดภัยกว่า
โทนเสียงและสไตล์การเล่น
ไม้หน้า Sitka spruce ตอบสนองไวต่อการเล่น และควบคุมระดับดัง-เบาได้กว้าง เล่นได้ทั้งการตีคอร์ดแรง ๆ และแบบฟิงเกอร์สไตล์ ส่วนไม้ด้านหลังและด้านข้าง sapele เติมโทนกลางให้อุ่น กระชับ ทำให้คอร์ดชัดทุกตัวโน้ต การบันทึกเสียงทำได้ง่ายเพราะย่านทุ้มไม่ล้น ดีไซน์ Victorian Burst ช่วยให้ภาพลักษณ์บนเวทีและในวิดีโอเด่นสะดุดตา ผู้ชมจึงจดจำตัวตนของผู้เล่นได้ง่ายขึ้น
รายละเอียดสเปกสำคัญ
-
ทรงบอดี้ (Body type): Grand Symphony Mini — ขนาดกะทัดรัด เล่นสบาย
-
ไม้หน้า (Top wood): Solid Sitka Spruce — โทนใส ตอบสนองไว
-
ไม้หลัง/ข้าง (Back & sides): Layered Sapele — โทนกลางอุ่น กระชับ
-
โครงค้ำภายใน (Bracing): GS Mini with Relief Rout — ช่วยให้ไม้สั่นเป็นธรรมชาติและแข็งแรง
-
ผิวเคลือบ (Finish): แบบด้าน (Matte) เฉด Sunset Fade Top
-
ไม้คอ (Neck wood): Neo‑tropical Mahogany
-
ฟิงเกอร์บอร์ด/สะพานสาย (Fingerboard/Bridge): West African Ebony (รัศมี 15 นิ้ว)
-
ความยาวสเกล / จำนวนเฟร็ต: 23.5 นิ้ว / 20 เฟร็ต
-
นัท/แซดเดิล (Nut/Saddle): Nubone / Micarta “Wave”
-
อิเล็กทรอนิกส์ (Electronics): ES‑B พร้อม EQ 3 แบนด์ และจูนเนอร์ในตัว
-
จำนวนสาย / มือถนัด: 6 สาย / มือขวา (Right‑Handed)
-
กระเป๋า (Case): Taylor Structured Gig Bag
-
ประเทศผู้ผลิต (Country of origin): Mexico
จุดเด่นที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
- ขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย แต่เสียงยังเต็มอิ่มและสมดุล
- ไม้หน้า Solid Sitka Spruce ตอบสนองไว เล่นได้ทั้งตีคอร์ดและแบบฟิงเกอร์สไตล์
- ระบบ ES‑B ใช้งานง่าย มีจูนเนอร์ในตัว และปรับย่านเสียงได้กว้าง
- ดีไซน์ Victorian Burst สวยสะดุดตา เหมาะทั้งการเล่นสดและการถ่ายวิดีโอ
- งานประกอบเนี้ยบตามมาตรฐาน Taylor มาพร้อมกระเป๋าที่ปกป้องได้ดี
อุปกรณ์เสริมที่แนะนำ
- กล่อง DI ที่มีสวิตช์ ground lift เพื่อลดสัญญาณจี่และฮัมเมื่อต่อระบบ PA
- ที่ปิดซาวด์โฮล ช่วยลดโอกาสเกิดฟีดแบ็กเมื่อเล่นดังหรือยืนใกล้ลำโพงมอนิเตอร์
- อุปกรณ์ควบคุมความชื้นในเคส รักษาความชื้นของไม้ให้อยู่ช่วง 45–55%
- ชุดเปลี่ยนสาย (ตัวหมุนและคีมตัด) ช่วยประหยัดเวลาในการดูแล
- สายสะพายกว้างประมาณ 2 นิ้ว ลดแรงกดที่ไหล่เมื่อต้องยืนเล่นนาน ๆ
- ผ้าไมโครไฟเบอร์และน้ำยาดูแลไม้ที่เหมาะกับผิวแบบแมตต์ เพื่อทำความสะอาดอย่างปลอดภัย
สรุป
รุ่น Special Edition นี้เหมาะกับคนที่ต้องการกีต้าร์ขนาดพกพา แต่ยังคงคุณภาพเสียงระดับมืออาชีพ วัสดุและงานประกอบช่วยให้โทนเสียงชัดเจนและสมดุล และเล่นสบาย ระบบ ES‑B ทำให้ต่อใช้งานบนเวทีได้ทันที ส่วนลุค Victorian Burst ช่วยให้โดดเด่นไม่เหมือนใคร เหมาะทั้งมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นด้วยเครื่องดนตรีคุณภาพ และมืออาชีพที่อยากมีกีต้าร์ตัวเล็กไว้พกไปทุกที่
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒
สั่งซื้อได้ที่นี่
👉 Lazada >
ดูรายละเอียดสินค้าใน Lazada
👉 Shopee >
ดูรายละเอียดสินค้าใน Shopee
🎸✨ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Taylor GS Mini-e Special Edition Victorian Burst 🎶🔥
กีต้าร์โปร่งไฟฟ้าเป็นเครื่องดนตรีอะคูสติกที่ต่อเข้าระบบขยายเสียงได้ทันที เหมาะกับทั้งซ้อมและเล่นสด ในกลุ่มกีต้าร์ขนาดกะทัดรัด กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Taylor GS Mini-e โดดเด่นด้วยเสียงที่บาลานซ์ เล่นง่าย และจูนเสียงได้รวดเร็ว เหมาะกับผู้เริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพที่ต้องการกีต้าร์พกพาสะดวก
โครงสร้างและวัสดุที่ใช้ของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Taylor GS Mini-e
บอดี้ทรง Grand Symphony Mini มีขนาดกะทัดรัด แต่ยังให้มิติของเสียงครบถ้วน ไม้หน้าใช้ Solid Sitka spruce ขึ้นชื่อว่าเสียงใส ตอบสนองเร็ว เหมาะทั้งการตีคอร์ดและเล่นแบบฟิงเกอร์สไตล์ ส่วนด้านข้างและด้านหลังเป็นไม้ sapele แบบลามิเนต ให้โทนกลางอุ่น กระชับ และช่วยควบคุมเสียงทุ้มไม่ให้บวมง่าย ภายในเสริมโครงค้ำไม้ (bracing) รุ่น GS Mini with Relief Rout เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและให้ไม้สั่นสะเทือนได้เป็นธรรมชาติ ผิวเคลือบแบบด้าน (แมตต์) ลดแสงสะท้อน ให้สัมผัสเป็นธรรมชาติ และดูแลรักษาได้ง่าย
คอและฟิงเกอร์บอร์ดของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Taylor GS Mini-e
คอทำจากไม้มะฮอกกานี (Neo‑tropical mahogany) แข็งแรงและให้น้ำหนักสมดุล จับถนัดมือ ทรงคอตระกูล GS Mini ออกแบบให้จับถนัดมือ วางนิ้วกดคอร์ดบนคอกีต้าร์ได้ง่ายตั้งแต่ครั้งแรกที่ลองเล่น ฟิงเกอร์บอร์ดทำจากไม้ Ebony มีความโค้งรัศมี 15 นิ้ว ช่วยให้สไลด์ ดันสาย และไล่โน้ตได้ลื่นไหล ความกว้างนัท 1.687 นิ้ว จัดระยะสายกำลังพอดี เล่นแบบฟิงเกอร์สไตล์ได้สะดวก เพราะสายแต่ละเส้นมีระยะห่างไม่เบียดกัน สะพานสายและนัทใช้วัสดุ Micarta และ Nubone ช่วยส่งผ่านการสั่นจากสายสู่ตัวกีต้าร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Taylor GS Mini-e
ติดตั้งระบบ ES‑B ที่มีปรีแอมป์และจูนเนอร์ในตัว ปรับ EQ ได้ 3 ย่าน ใช้งานง่าย เสียงที่ได้ใส ชัด และยังคงสมดุลเมื่อต่อเข้าตู้แอมป์หรือระบบเสียง (PA) จูนเนอร์ในตัวช่วยตั้งสายแบบเงียบ ๆ บนเวที ช่วยให้ตั้งสายได้ตรง ลดโอกาสเสียงเพี้ยนขณะเล่น แบตเตอรี่ใช้งานได้นานและเปลี่ยนสะดวก
ดีไซน์พิเศษแบบ Victorian Burst
เวอร์ชัน Special Edition นี้มาพร้อมการไล่เฉดสีแบบ Victorian Burst ให้ลุคหรูและสะดุดตาเมื่ออยู่บนเวที ลายไม้ผสานกับเฉดสีช่วยขับให้รูปทรงตัวกีต้าร์โดดเด่นและดูสง่างาม เหมาะทั้งการเล่นสดและการถ่ายวิดีโอที่ต้องการภาพสวยดูเป็นมืออาชีพ งานประกอบเรียบร้อย แข็งแรง ตามมาตรฐานของ Taylor
ความเหมาะสมในการใช้งาน
ขนาดกะทัดรัดและสเกล 23.5 นิ้ว ทำให้แรงตึงสายไม่สูง เล่นได้นานไม่เมื่อยมือ มือใหม่ปรับตัวได้เร็ว ส่วนมืออาชีพจะชอบความนิ่งของโทนเสียง เมื่อติดไมค์หรือเชื่อมต่อแอมป์ก็ปรับโทนได้ง่าย ใช้งานได้ตั้งแต่ซ้อม เดินทาง เล่นคาเฟ่ จนถึงงานอัดเดโม มาพร้อมกระเป๋า Taylor Structured Gig Bag ช่วยปกป้องกีต้าร์ระหว่างพกพา
ขนาดและการพกพาของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Taylor GS Mini-e
รุ่นนี้เน้นความคล่องตัวเป็นหลัก สเกล 23.5 นิ้วทำให้แรงตึงสายต่ำกว่ากีต้าร์ขนาดเต็ม เล่นง่ายและใช้คาโปได้สะดวก เหมาะกับผู้ที่มือเล็ก ผู้หญิง หรือผู้ที่ต้องพกกีต้าร์ขึ้นรถไฟ ขึ้นเครื่องบิน หรือเล่นตามคาเฟ่บ่อย ๆ ขนาดบอดี้ที่กระชับช่วยควบคุมเสียงทุ้มไม่ให้ล้น และยังเก็บรายละเอียดเสียงกลางและเสียงแหลมได้ดีเมื่อติดไมค์ใกล้ ๆ หรือเชื่อมต่อแอมป์ในห้องขนาดเล็ก
ความกว้างนัท 1.687 นิ้ว ช่วยให้จับคอร์ดและเปลี่ยนรูปแบบคอร์ดได้คล่อง ฟิงเกอร์บอร์ดโค้งรัศมี 15 นิ้วให้สัมผัสเป็นธรรมชาติทั้งจังหวะและการโซโล่ กระเป๋า Taylor Structured Gig Bag มีความหนา คงรูป และมีช่องเก็บอุปกรณ์ ช่วยให้การเดินทางในเมืองหรือทริปต่างจังหวัดสะดวกขึ้น (หากขึ้นเครื่อง แนะนำตรวจเงื่อนไขของสายการบินล่วงหน้า)
การตั้งค่าเสียง ES‑B สำหรับเวทีและการอัด
เริ่มจากตั้งค่า EQ ทั้งสามย่านให้เป็นกลางก่อน แล้วฟังสภาพห้องและเสียงของคุณ
- หากห้องหรือเวทีก้อง หรือได้ยินเสียงทุ้มล้นเกินไป ให้ลดย่านต่ำ (Low) ลงเล็กน้อย
- หากเสียงกลางขุ่น หรือมีเสียงหอน (ฟีดแบ็ก) แถวช่วงเสียงพูด ให้ลดย่านกลาง (Mid) เล็กน้อย
- หากอยากให้เสียงชัดใสขึ้นเวลาตีคอร์ด ให้เพิ่มย่านสูง (High) เล็กน้อย
จูนเนอร์ในตัวช่วยตั้งสายได้เงียบ ๆ ระหว่างพักเพลง ตั้งสายให้ตรงเพื่อลดโอกาสเสียงเพี้ยน เมื่อต่อเข้าระบบเสียง (PA) แนะนำใช้กล่อง DI คุณภาพดีเพื่อแปลงสัญญาณและลดสัญญาณจี่/ฮัม จัดวางลำโพงมอนิเตอร์ไม่ให้หันตรงเข้าซาวด์โฮล เพื่อเลี่ยงเสียงหอน หากต้องเล่นดังในพื้นที่เล็ก ใช้ที่ปิดซาวด์โฮลช่วยป้องกันฟีดแบ็กได้มากขึ้น
การดูแลรักษาไม้และฮาร์ดแวร์
ควบคุมความชื้นให้คงที่ประมาณ 45–55% เก็บกีต้าร์ไว้ในกระเป๋าทุกครั้งหลังเล่น และเช็ดสายกับฟิงเกอร์บอร์ดด้วยผ้านุ่มให้แห้งสะอาด เปลี่ยนสายตามการใช้งาน โดยทั่วไปทุก 1–3 เดือน ขนาดสายที่เหมาะกับกีต้าร์ที่มีความยาวสเกลสั้นประมาณ 23.5 นิ้ว คือ .012–.053 หากได้ยินเสียงสายกระทบเฟร็ต ตรวจความสูงของสาย (แอ็คชัน) และปรับก้านคอ (ทรัสร็อด) อย่างระมัดระวัง หากไม่มั่นใจควรให้ช่างผู้ชำนาญเป็นผู้ตั้งให้ ผิวเคลือบแบบด้าน (แมตต์) ควรหลีกเลี่ยงน้ำยาที่มีซิลิโคน และเลือกใช้น้ำยาดูแลไม้เฉพาะทางจะปลอดภัยกว่า
โทนเสียงและสไตล์การเล่น
ไม้หน้า Sitka spruce ตอบสนองไวต่อการเล่น และควบคุมระดับดัง-เบาได้กว้าง เล่นได้ทั้งการตีคอร์ดแรง ๆ และแบบฟิงเกอร์สไตล์ ส่วนไม้ด้านหลังและด้านข้าง sapele เติมโทนกลางให้อุ่น กระชับ ทำให้คอร์ดชัดทุกตัวโน้ต การบันทึกเสียงทำได้ง่ายเพราะย่านทุ้มไม่ล้น ดีไซน์ Victorian Burst ช่วยให้ภาพลักษณ์บนเวทีและในวิดีโอเด่นสะดุดตา ผู้ชมจึงจดจำตัวตนของผู้เล่นได้ง่ายขึ้น
รายละเอียดสเปกสำคัญ
- ทรงบอดี้ (Body type): Grand Symphony Mini — ขนาดกะทัดรัด เล่นสบาย
- ไม้หน้า (Top wood): Solid Sitka Spruce — โทนใส ตอบสนองไว
- ไม้หลัง/ข้าง (Back & sides): Layered Sapele — โทนกลางอุ่น กระชับ
- โครงค้ำภายใน (Bracing): GS Mini with Relief Rout — ช่วยให้ไม้สั่นเป็นธรรมชาติและแข็งแรง
- ผิวเคลือบ (Finish): แบบด้าน (Matte) เฉด Sunset Fade Top
- ไม้คอ (Neck wood): Neo‑tropical Mahogany
- ฟิงเกอร์บอร์ด/สะพานสาย (Fingerboard/Bridge): West African Ebony (รัศมี 15 นิ้ว)
- ความยาวสเกล / จำนวนเฟร็ต: 23.5 นิ้ว / 20 เฟร็ต
- นัท/แซดเดิล (Nut/Saddle): Nubone / Micarta “Wave”
- อิเล็กทรอนิกส์ (Electronics): ES‑B พร้อม EQ 3 แบนด์ และจูนเนอร์ในตัว
- จำนวนสาย / มือถนัด: 6 สาย / มือขวา (Right‑Handed)
- กระเป๋า (Case): Taylor Structured Gig Bag
- ประเทศผู้ผลิต (Country of origin): Mexico
จุดเด่นที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
- ขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย แต่เสียงยังเต็มอิ่มและสมดุล
- ไม้หน้า Solid Sitka Spruce ตอบสนองไว เล่นได้ทั้งตีคอร์ดและแบบฟิงเกอร์สไตล์
- ระบบ ES‑B ใช้งานง่าย มีจูนเนอร์ในตัว และปรับย่านเสียงได้กว้าง
- ดีไซน์ Victorian Burst สวยสะดุดตา เหมาะทั้งการเล่นสดและการถ่ายวิดีโอ
- งานประกอบเนี้ยบตามมาตรฐาน Taylor มาพร้อมกระเป๋าที่ปกป้องได้ดี
อุปกรณ์เสริมที่แนะนำ
- กล่อง DI ที่มีสวิตช์ ground lift เพื่อลดสัญญาณจี่และฮัมเมื่อต่อระบบ PA
- ที่ปิดซาวด์โฮล ช่วยลดโอกาสเกิดฟีดแบ็กเมื่อเล่นดังหรือยืนใกล้ลำโพงมอนิเตอร์
- อุปกรณ์ควบคุมความชื้นในเคส รักษาความชื้นของไม้ให้อยู่ช่วง 45–55%
- ชุดเปลี่ยนสาย (ตัวหมุนและคีมตัด) ช่วยประหยัดเวลาในการดูแล
- สายสะพายกว้างประมาณ 2 นิ้ว ลดแรงกดที่ไหล่เมื่อต้องยืนเล่นนาน ๆ
- ผ้าไมโครไฟเบอร์และน้ำยาดูแลไม้ที่เหมาะกับผิวแบบแมตต์ เพื่อทำความสะอาดอย่างปลอดภัย
สรุป
รุ่น Special Edition นี้เหมาะกับคนที่ต้องการกีต้าร์ขนาดพกพา แต่ยังคงคุณภาพเสียงระดับมืออาชีพ วัสดุและงานประกอบช่วยให้โทนเสียงชัดเจนและสมดุล และเล่นสบาย ระบบ ES‑B ทำให้ต่อใช้งานบนเวทีได้ทันที ส่วนลุค Victorian Burst ช่วยให้โดดเด่นไม่เหมือนใคร เหมาะทั้งมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นด้วยเครื่องดนตรีคุณภาพ และมืออาชีพที่อยากมีกีต้าร์ตัวเล็กไว้พกไปทุกที่
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
👉 Lazada > ดูรายละเอียดสินค้าใน Lazada
👉 Shopee > ดูรายละเอียดสินค้าใน Shopee