เปิดเวทีมหกรรมวัฒนธรรมเส้นทางสายไหมตุนหวง ครั้งที่ 8 ย้ำวัฒนธรรมคือ “สะพานเชื่อม” ไทย–จีน ครบรอบ 50 ปีการทูต


ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมเปิดเวทีมหกรรมวัฒนธรรมเส้นทางสายไหมตุนหวง ครั้งที่ 8 ย้ำวัฒนธรรมคือ “สะพานเชื่อม” ไทย–จีน
ครบรอบ 50 ปีการทูต ประกาศพลังการทูตวัฒนธรรมสร้างสันติภาพบนเวทีโลก


ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ตัวแทนประเทศไทยในฐานะ “ประเทศเกียรติยศ” ร่วมกล่าวในพิธีเปิดมหกรรมวัฒนธรรมนานาชาติเส้นทางสายไหม (ตุนหวง) ครั้งที่ 8 ณ มณฑลกานซู่ สาธารณรัฐประชาชนจีน เน้นย้ำมิตรภาพไทย–จีนที่เปรียบเสมือน “ครอบครัวเดียวกัน” พร้อมประกาศบทบาทไทยในฐานะผู้นำ Soft Power ใช้วัฒนธรรมเป็นสะพานเชื่อมความเข้าใจและสันติภาพของโลก
 
เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ศูนย์ประชุมและนิทรรศการนานาชาติตุนหวง มณฑลกานซู่ สาธารณรัฐประชาชนจีน นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ตนในฐานะหัวหน้าคณะตัวแทนรัฐบาลไทย ได้ร่วมกล่าวถ้อยแถลงในพิธีเปิดงานมหกรรมวัฒนธรรมเส้นทางสายไหมนานาชาติ (ตุนหวง) ครั้งที่ 8 โดยประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็น “ประเทศเกียรติยศ” ของงาน
 
ทั้งนี้ พิธีเปิดงานดังกล่าว นาง Tie Ning รองประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นผู้แทนรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน นาย Hu Changsheng เลขาธิการคณะกรรมการสามัญพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานคณะกรรมการสภาประชาชนมณฑลกานซู่ และผู้แทนระดับสูงของประเทศต่างๆ อาทิ นาย Qu Xing รองเลขาธิการใหญ่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ นาย Joseph T. Isaac ประธานสภาผู้แทนราษฎรเครือรัฐโดมินิกา
 
นาง Tie Ning ได้กล่าวถึงข้อริเริ่มอารยธรรมโลก (Global Civilization Initiative) ที่เน้น ๑) การขยายกรอบความร่วมมือทางวัฒนธรรมแบบหลายระดับและหลายแพลตฟอร์ม ๒) การเปิดกว้างและครอบคลุม โดยเสริมสร้างสายสัมพันธ์ประชาชนในสาขาการศึกษา วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม กีฬา การท่องเที่ยว สาธารณสุข โบราณคดีและศิลปะ โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนเยาวชน ๓) คุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรม ร่วมมือด้านการอนุรักษ์ การสงวนรักษา และการใช้ประโยชน์อย่างมีความรับผิดชอบ สอดคล้องกับอนุสัญญาระดับสากล ๔) สร้างสรรค์นวัตกรรมการแลกเปลี่ยน ดำเนินโครงการปีวัฒนธรรม เทศกาลศิลปะ สัปดาห์แลกเปลี่ยน และขยายเครือข่ายพันธมิตร เพื่อจัดสรร “สินค้าบริการสาธารณะด้านวัฒนธรรม” ที่มีคุณภาพสูง ๕) สร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วน ส่งเสริมอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและสร้างสรรค์ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการค้าวัฒนธรรมนานาชาติ เพื่อความรุ่งเรืองร่วมกัน
 









ปลัด วธ. ได้กล่าวแสดงความยินดีต่อการจัดงาน พร้อมขอบคุณรัฐบาลจีนและมณฑลกานซู่ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และเน้นย้ำว่า การได้รับเชิญในครั้งนี้มีความหมายพิเศษ เพราะตรงกับ วาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน ที่สะท้อนสายสัมพันธ์แน่นแฟ้น ทั้งในระดับรัฐบาล วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของประชาชน
 
ปลัด วธ กล่าวเน้นย้ำว่า ตุนหวงคือสัญลักษณ์แห่งเส้นทางสายไหม ที่หล่อหลอมอารยธรรมโลก และมีความผูกพันลึกซึ้งกับไทย โดยมรดกทางพระพุทธศาสนาตามเส้นทางนี้ได้หล่อหลอมวัฒนธรรมไทยอย่างยาวนาน ภาพจิตรกรรมฝาผนังถ้ำโม่เกาในตุนหวง มีความคล้ายคลึงกับวัดโบราณในสุโขทัยและอยุธยา สะท้อนความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์อันใกล้ชิด
 
ปลัด วธ. ได้กล่าวถึง สายสัมพันธ์ไทย–จีนในฐานะ “ครอบครัวเดียวกัน” ที่ปรากฏในวิถีชีวิต เช่นเทศกาล อาหาร ประเพณี และชุมชน พร้อมทั้งตอกย้ำว่า วัฒนธรรมไทยก็ได้เดินทางสู่จีน ผ่านศิลปิน พระสงฆ์ นักท่องเที่ยว นักวิชาการและการแลกเปลี่ยนต่าง ๆ ภายใต้วิสัยทัศน์โครงการ Belt and Road ของทางรัฐบาลจีน ความร่วมมือด้านวัฒนธรรม การศึกษา และการท่องเที่ยว ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในฐานะประเทศเกียรติยศ ไทยได้นำเสนอการแสดงโขน โนรา อาหารไทย มวยไทย และนิทรรศการทางวัฒนธรรม เพื่อถ่ายทอดความงดงามของมรดกภูมิปัญญาไทยและความอบอุ่นของคนไทย โดยปลัด วธ. เน้นว่า “วัฒนธรรมคือสะพานเชื่อม เป็นพลังสร้างความเข้าใจ ความเอื้ออาทร และสันติภาพ” พร้อมยืนยันบทบาทไทยในฐานะผู้นำด้าน การทูตวัฒนธรรม (Cultural Diplomacy) บนเวทีโลก
 
พร้อมกันนี้ ปลัด วธ. ยังได้เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานไปเยี่ยมชมคูหาประเทศไทยที่นำมาจัดแสดงในงาน และขอเชิญชวนให้เดินทางไปเยี่ยมเยือนและท่องเที่ยวประเทศไทย
 
ท้ายที่สุด ปลัด วธ. ได้อวยพรให้งานประสบความสำเร็จ และเชื่อมั่นว่า จิตวิญญาณแห่งเส้นทางสายไหม จะเป็นแรงบันดาลใจให้นานาประเทศก้าวไปข้างหน้าร่วมกัน สู่สันติภาพ ความรุ่งเรือง และความกลมเกลียวของมวลมนุษยชาติ








พาพันเคลิ้มพาพันขยันพาพันรักสัตว์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่