สวัสดีครับ
ผมโดนอายัดบัญชีทุกบัญชีที่มี เนื่องจากมีผู้เสียหายไปแจ้งความว่า ถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน เป็นจำนวน 5,000 บาท ซึ่งบัญชีที่ผู้เสียหาโอนเงินไป ดันเป็นชื่อผม ทั้งๆที่มันไม่ใช่บัญชีผม นั่นแปลว่าผมเองก็เป็นผู้เสียหายที่ถูกมิจฉาชีพเอาข้อมูลส่วนตัวไปเปิดบัญชีแล้วนำไปหลอกคนอื่นอีกที
ความวุ่นวายของเรื่องนี้คือ ความเสียหายมันดันไม่เยอะมาก แค่ 5,000 บาท ซึ่งแน่นอนผู้เสียหายเค้าก็อยากได้คืน แต่ผมเองก็ไม่รู้จะต้องยอมจ่ายให้ผู้เสียหายทำไม เพราะผมก็ไม่ได้เอาเงินไปและตัวเองก็ถือว่าเป็นผู้เสียหายเช่นกัน แต่ทีนี้พอเจรจาไม่ลงตัว แปลว่า ก็ต้องปล่อยไปตามขั้นตอนกฎหมาย ผมก็ต้องยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองไป ปัญหาคือ ผมอยู่กรุงเทพฯ ผู้เสียหายอยู่จังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน ถ้าต้องเดินทางไปให้ปากคำกับตำรวจท่องที่ หรือต้องไปศาล ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การกินอยู่ ที่พัก หรือค่าทนาย เกิน 5,000 บาทแน่นอน
เลยอยากขอความคิดเห็นทุกคนหน่อยครับว่า เป็นคุณ จะตัดสินใจจัดการปัญหานี้ยังไง
1. ยอมโอนเงินให้เค้าไป 5,000 ทำบันทึกข้อตกลงและให้เขาถอนแจ้งความ แต่มันก็จะกลายเป็นเหมือนเรายอมรับว่าเราเป็นมิจฉาชีพมั้ย?
2. ไม่โอนเงิน ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งเรามั่นใจมากๆว่าเราบริสุทธิ์จริง ไม่ใช่มิจฉาชีพ แต่จะเสียค่าใช้จ่ายเกิน 5,000 และเสียเวลาด้วย
เดินทางไหนดีนะครับ
ปล1. บัญชีที่ผู้เสียหายโอนไปเป็น วอลเลทของค่ายส้มครับ เปิดบัญชีได้โดยไม่ต้องยืนยันเบอร์โทร แค่มีข้อมูลส่วนตัวหรือบัตรประชาชนก็เปิดบัญชีวอลเลทได้แล้ว
ปล.2 ถ้าใครเคยส่งต่อรูปบัตรประชาชนเข้าโลกออนไลน์ หรือเคยทำบัตรหาย อันตรายมากครับ
ถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลส่วนตัวไปเปิดบัญชี แล้วนำบัญชีนั้นไปหลอกผู้เสียหาย จนเราเองโดนอายัดบัญชีทั้งหมด
ผมโดนอายัดบัญชีทุกบัญชีที่มี เนื่องจากมีผู้เสียหายไปแจ้งความว่า ถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน เป็นจำนวน 5,000 บาท ซึ่งบัญชีที่ผู้เสียหาโอนเงินไป ดันเป็นชื่อผม ทั้งๆที่มันไม่ใช่บัญชีผม นั่นแปลว่าผมเองก็เป็นผู้เสียหายที่ถูกมิจฉาชีพเอาข้อมูลส่วนตัวไปเปิดบัญชีแล้วนำไปหลอกคนอื่นอีกที
ความวุ่นวายของเรื่องนี้คือ ความเสียหายมันดันไม่เยอะมาก แค่ 5,000 บาท ซึ่งแน่นอนผู้เสียหายเค้าก็อยากได้คืน แต่ผมเองก็ไม่รู้จะต้องยอมจ่ายให้ผู้เสียหายทำไม เพราะผมก็ไม่ได้เอาเงินไปและตัวเองก็ถือว่าเป็นผู้เสียหายเช่นกัน แต่ทีนี้พอเจรจาไม่ลงตัว แปลว่า ก็ต้องปล่อยไปตามขั้นตอนกฎหมาย ผมก็ต้องยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองไป ปัญหาคือ ผมอยู่กรุงเทพฯ ผู้เสียหายอยู่จังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน ถ้าต้องเดินทางไปให้ปากคำกับตำรวจท่องที่ หรือต้องไปศาล ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การกินอยู่ ที่พัก หรือค่าทนาย เกิน 5,000 บาทแน่นอน
เลยอยากขอความคิดเห็นทุกคนหน่อยครับว่า เป็นคุณ จะตัดสินใจจัดการปัญหานี้ยังไง
1. ยอมโอนเงินให้เค้าไป 5,000 ทำบันทึกข้อตกลงและให้เขาถอนแจ้งความ แต่มันก็จะกลายเป็นเหมือนเรายอมรับว่าเราเป็นมิจฉาชีพมั้ย?
2. ไม่โอนเงิน ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งเรามั่นใจมากๆว่าเราบริสุทธิ์จริง ไม่ใช่มิจฉาชีพ แต่จะเสียค่าใช้จ่ายเกิน 5,000 และเสียเวลาด้วย
เดินทางไหนดีนะครับ
ปล1. บัญชีที่ผู้เสียหายโอนไปเป็น วอลเลทของค่ายส้มครับ เปิดบัญชีได้โดยไม่ต้องยืนยันเบอร์โทร แค่มีข้อมูลส่วนตัวหรือบัตรประชาชนก็เปิดบัญชีวอลเลทได้แล้ว
ปล.2 ถ้าใครเคยส่งต่อรูปบัตรประชาชนเข้าโลกออนไลน์ หรือเคยทำบัตรหาย อันตรายมากครับ