ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย คำนี้พูดไม่ผิดจริงๆ ผมขอเล่าเรื่องผมกึ่งสารภาพบาปละกัน เรื่องนี้ไม่มีเจตนากล่าวโทษผญ. บางคำอาจฟังดูตลกไม่บังคับใครเชื่อ แล้วแต่ตัวคุณ
ปัจจุบันผมอายุ35ปีแล้ว เคยมีชีวิตคู่มา3ครั้งที่กินอยู่แบบผัวเมียอ่ะนะ
เริ่มจากเมียคนแรกอายุน้อยกว่า2ปี ตอนนั้นผม22 คนนี้ไม่มีอะไรมากคบกัน3ปีมีแค่คำโกหก แอบคุยกับผช.จนเหนื่อยจะให้อภัย เนรคุณได้แม้กระทั้งครอบครัวตัวเองจบ ใครอยากรู้ก็ถามได้
คนที่2นี้สิหนังชีวิต คบกัน3ปี เขาอายุน้อยกว่า4ปี เป็นเพื่อนของน้องสาว(ญาติ)
ปีแรกที่เราคบกัน แรกๆแอบอยู่ด้วยกัน จนเก็บได้5หมื่นไปหมั้นกัน เป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสสังคมรง. ปีแรกก็รักกันดีปกติทุกอย่าง
แต่พอปีที่2นี้ เราเริ่มมีปัญหากัน ทุกครั้งที่เขากลับเยี่ยมบ้านเรามีเรื่องทะเลาะกันตลอด จนมีคำหนึงที่ผมรู้สึกเสียใจมาก เขาว่าแม่เขาบอกให้คบคนใหม่เถอะ ผมถึงกับอึ้งไม่คิดว่าเขาจะพูดแบบนี้ ซึ่งไม่แปลกหรอกเพราะครอบครัวเขาไม่ได้ต้อนรับผมอยู่แล้ว เพราะฐานะทางบ้านผมแย่กว่าเขา ทุกครั้งที่ผมคุยกับกับแม่ยายเขาแทบไม่มองหน้าผม ผมก็ได้แค่คิดในใจ ว่าไม่เป็นพอแต่งกันไปเขาคงจะยอมรับเราได้ แล้วเราก็ทะเลาะกันมาเรื่อยๆ
จนปีที่3 เราตกลงแยกกันอยู่ ปกติผมจะไปหาทุกวัน ส.ที่เขาไม่ได้เข้ากะดึก ก็ไปมาแบบนี้อยู่พักใหญ่ๆ จนช่วงหลังผมแอบรู้ว่าเขาคุยกับผช.อื่น ผมก็แอบสืบๆจนรู้ว่าใคร ฝ่ายชายก็มีลูกมีอยู่เมียแล้ว เขาก็รู้ดีผมได้แต่แอบคิดว่ามันคงจะไม่เลยเถิดไปมากกว่านี้ ผมก็บอกตรงๆว่าผมรู้เรื่องแล้ว แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น มีอยู่เสาร์นึงผมบอกจะไม่ไปหา แต่ไม่รู้ทำไมรางสังหรณ์บอกให้ไป ผมเลยไปโดยไปบอก พอผมเดินไปห้องเขาวงเหล้าอยู่ตรงนั้นมองหน้าผม ดูจากแววตาเขา ได้แต่บอกใจตัวเองว่าอย่าเป็นอย่างนั้นเลย ผมถึงห้องมีรองเท้าผช.อยู่เปิดกุญแจได้แต่ประตูลงกลอนไว้ ผมบอกจนเขายอมเปิด
ใช่เลยมีผช.อยู่ในห้องคนที่เขาแอบคุยกันนั้นแหละ เหมือนนั่งกินข้าวกันอยู่ ผมยืนคุมสติแปปนึงไม่ถามใคร ปล่อยผช.คนนั้นออกไป โอเคผมให้อภัย แต่ในใจเหรอคนที่เจอมาจะรู้ดี ผมพยามประคองชีวิตคู่ต่อไป จนก่อนถึงวันกำหนดแต่ง3เดือน ผมไปไถ่ทองของเขาให้หมด7000 ผมไม่คิดไร ผมแอบเช็คบัญชีมีการแอบบกดเงินออก ผมไม่คิดไร หวังแต่ว่าวันครั้งหน้าจะต้องดีขึ้น
พอเดือนสุดท้ายแม่ยายโทรไปหาแม่ผมบอกว่าสาวลูกเขาไม่แต่งแล้ว ผมเริ่มทำใจมาตั้งแต่แยกกันอยู่แล้ว โอเคตกลงเลิกกัน เขาคืนเงินเก็บส่วนของผมกลับมา5หมื่น เงินหมั้นก็ช่างเถอะ ผมเดินออกมาน้ำตาไหล ไม่ใช่น้ำตาของความเสียใจ แต่เป็นน้ำตาจากคำว่าเหนื่อย

เลย เลยโทรคุยกับแม่ผมถึงได้รู้ว่า วันที่แม่ยายโทรมาบอกพอคุยจบแล้ววางสาย มือถือดังขึ้นอีกแม่นึกว่าเขาโทรมาอีกเลยรับสาย แต่ไม่ใช่มือน่าจะไปกดโดนปุ่มโทรออก แม่เลยได้ยินแม่ยายคุยกัน ถึงรู้เขาดูถูกครอบครัวผมแค่ไหน เขาไม่ได้ต้องการผมตั้งแต่วันหมั้นแล้ว เขาเรียกสินสอดแพงเพราะรู้ผมจะไม่มีปัญญาหาให้
ครอบครัวเขาไม่ได้ต้องการผมตั้งแต่ทีแรกแล้ว พูดทำนองเหมือนผมจะไปเอาสมบัติเขา เพราะฐานะทางบ้านเขาดีกว่าผม แม่ได้แต่ฟังทั้งน้ำตา ไม่ยอมบอกผมไม่อยากให้เสียใจ ไม่อยากให้ผมมีปัญหากับเขา ตอนนั้นผมรู้สึกเกลียดตัวเองมาก ผมจะเจ็บแค่ไหนผมก็ทนได้ ผมไม่อยากเห็นครอบครัวผมต้องการ ผมกลับมาเยี่ยมบ้าน ก็พาผู้ใหญ่ไปถอนหมั้น ตลกร้ายจริงวันที่ผมต้องแต่งกับเป็นวันที่ผมกลับต้องมาถอนหมั้น ผิดที่ผมเองแหละ ผิดที่ดีไม่พอ ผิดที่ไม่รับความจริง ผมลองมองย้อนกลับไปตอนที่อยู่กัน ผมทำโรงงาน มีผล.มาตามติดหลายคน (ตอนหนุ่มๆผมหน้าดี ) ผมก็ปฏิเสธ เพราะผมไม่อยากให้คนที่รักต้องเสียใจ ไม่เคยยุ่งไม่เคยแอบคุยกับคนอื่น เพราะคำว่ารักเขา แต่ผลตอบแทนเหรอ หึ ช่างเถอะ แต่วันนั้นผมไม่เสียใจเลย แต่กลับรู้สึกโล่งใจมาก เหมือนปล่อยความกดดันทุกอย่างทิ้งไป(อันนี้ย่อมาแล้ว)
ผมกลับมาทำงานปกติ นิสัยส่วนตัวไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ซื้อผญ. ไม่ชอบพนัน เหล้าไม่กิน วันๆทำงานฆ่าเวลา ผ่านมา1อา. นับจากถอนหมั้นผมไปรู้จักกับผญ.คนนึงและคน2คน3คน4...ไปเรื่อย ก็โสดอ่ะจะนอนกับใครก็ได้ ใครชวนไปเที่ยวก็ไป ใครชวนไปเอาก็ไป ตอนนั้นหน้าตาดีไงใช้หากินได้ เป็นอยู่แบบนี้4ด. แล้วผมตั้งคติว่าต่อไปผมจะแคร์ความสึกตัวเองมากกว่าคนอื่น ไม่เก็บกดไว้แล้ว
จนรู้จักกับผญ.คนนึงทางโลกออนไลน์ ที่แรกก็คุยจีบกันปกติ น้องเขา22ผม29ละ พึ่งมาจากต่างจังหวัดได้อา.นึงอยู่กับญาติ ทำงานร้านขาย คสอ. แล้ววันนึงเขาไปเที่ยวผับกับเพื่อนทั้งทีตัวเองไม่เคยเข้าด้วย โทรไปผมรับคนที่ไม่เคยเจอกันเลยแทนที่จะโทรหาญาติ ตายๆ โอเคผมไปรับเมาผมแบกกลับมาห้องผม ล้างหน้าล้างให้ไปนอนที่นอนผม
ไม่ต้องห่วงผมจะไม่ลวนลามคนไม่มีสติ ปิดไฟนอน แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด น้องเขาเมาพยายามขึ้นปล้ำาผม อืมเขาแค่เมา พยายามบังคับให้เขานอนเหม็นเหล้าไม่มีอารมณ์ แต่ใครว่าเราจะบอกคนเมาได้ น้องก็ยังพยายามปลผม ผ่านไปเกือบช.ม.น้องก็ยังไม่นอน ถึงเราจะจีบกันแต่ผมไม่อยากทำอะไรคนเมาไม่มีสติ น้องไม่ยอมหยุดจนในสุดผมก็ยอม ตัดเข้าฉาก18+ เช้ามาผมไปส่งปากซอย ก่อนไปส่งก็ทำให้ไปอีกรอบนึง เราก็คุยกันมาเรื่อยๆ
แล้วน้องก็ย้ายทำงาน แต่ที่น่าตกใจคือโลที่ส่งมาให้คือซอยที่ผมอยู่ โรงงานนั้นอยู่สุดซอย หอผมอยู่ปากซอยห่างกัน100เมตร เขาจำห้องผมไม่ได้ เวลาทำงานเขาก็ต้องขับมอไซค์ผ่านหน้าห้องผมทุกวัน ก็เลยบอกเขาไป แล้วปัญหาคือ ถ้าผมบอกเลิก5โมงเขาก็จะแวะห้องผมตลอด หรือบางวันที่เห็นประตูปิดก็จะโทรถามผม
จริงๆผมอยู่ในห้องนั้นแหละแต่บอกทำโอ อยากอยู่คนเดียวเงียบๆ เพราะผมพักกับหลานชายอีกคน เวลาเขามาหลานผมก็ออกไปหาเพื่อน ก็เป็นแบบนี้ไปพักใหญ่ๆ จนพี่สาว(ญาติเขา)แยกห้องออกมาจากบ้านญาติอีกคน ห้องพักอยู่ท้ายซอยผมนั้นแหละ ที่นี้แหละน้องก็มาแทบทุกวันเลยจนผมรำคาญ ด้วยนิสัยเด็กๆของเขาด้วยผมยิ่งรำคาญมาก หลายครั้งที่ผมด่าว่าทำตัวน่ารำคาญ น้องเขาก็ได้แต่ทำหน้าเศร้า ลึกในใจผมก็รู้สึกผิดอยู่ แต่ผมจะแคร์ความรู้สึกตัวเองก่อน เพราะจะไม่ทนละ จนบ้างครั้งพี่สะใภ้ด่าผม เพราะผมด่าน้องเกินไป จนพักหลังๆผมพยายามจะไม่ด่า
วันนั้นผมนั่งดูดบุหรี่อยู่หน้าห้อง คนที่ผมคุยด้วยชวนผมออกไปเที่ยวที่แรกจะตอบตกลงละ แต่พอผมหันมามองน้องเขาในห้องแล้ว คิดยังไงไม่รู้เลยปฏิเสธไป คนนั้นผมก็ไม่เคยมีอะไรด้วยหรอกถ้าวันนั้นไปคงเรื่องยาว
จนวันผมถามน้องว่าจะลองคบกันไหม เขาก็ตกลง แต่ผมก็ดันรู้ว่าแฟนเก่าน้องติดต่อหาน้องก็ไม่ปิดบังหรอก เพราะเลิกกันเป็นปีแล้ว ผมบอกจะอภัยให้ได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องผช. ในเมื่อน้องไม่ปิดบังก็ถือว่าแล้วไป เพราะอยู่คนละจ.อยู่แล้ว
หลังจากนั้นผมก็ไปๆมาๆ ปากซอยท้ายซอย ถ้าแฟนพี่สาวเขามาเขาก็มานอนห้องผม ผ่านไป5เดือน หลานชายผมก็ย้ายห้องไปกับผญ.ก่อนหน้านั้นก็บอกหลานแล้วละว่าจะมีผญ.ย้ายมา แต่ให้หลานเก็บเงินค่าเช่าห้องก่อน พอน้องย้ายมาอยู่ด้วยกันได้2ด. พี่สาวน้องก็ไปอยู่กับแฟนเขา เรื่องเลยแดงว่าน้องมาอยู่กับผม แม่เขาเลยให้ไปหาที่ชล.เพราะแก่มาเที่ยวบ้านญาติ
ผมนั่งรถไปหาแม่ยาย ไปตกลงสินสอดเอง เพราะผมไม่อยากให้แม่มาแบกรับหรือรับรู้แล้ว ถ้าไม่รอดก็เจ็บแค่ผมคนเดียวพอ
ตลอดครึ่งปีแรกที่รู้จักกัน ผมไม่เคยรักน้องเขาเลย ถามว่าชอบไหม ชอบเพราะน้องตรงสเปคตัวเล็กหน้าตาน่ารัก แต่ความความรู้สึกผมไม่ได้บอกว่ารักเลย ทุกครั้งที่เขาร้องไห้ ก็จะชอบพูดว่าพี่ไม่รักเขาเลย ถ้าพี่ไม่รักก็ทิ้งเขาไปเถอะ ก็แอบเจ็บจี๊ดบ้างครั้ง แต่ผมก็ไม่สนใจ บางทีก็ปล่อยให้ร้องจนหลับไปเองก็มี อยากอยู่ก็อยู่อยากไปก็ไป ไม่ขอรั้งใครอีกแล้ว
บ้างทีไปดูเฟสน้อง ดูรูปเขาก็รู้สึกผิดในใจลึกๆว่าเราทำตัวแย่กับน้องเขาเกินไปไหม จนวันนึงใจอ่อนงั้นต่อไปจะพยายามพูดไม่ให้กระทบจิตใจเขามาก จนแต่งงานผมพึ่งรู้น้องมีประวัติเป็นซึมเศร้า ผมยิ่งรู้สึกมาก
ปลายปี19ก็ย้ายมาอยู่กับผม อยู่ไปอยู่มาผมหลง ในความไร้เดียงสา บื้อๆมึนๆของเขา ตกหลุมรักนั้นแหละ
เลยตัดสินใจเก็บเงินแต่งงานกัน
ปีที่1 ต้นปี20 แต่ยังแก้นิสัยปากเสียไม่ได้ ชอบทำให้เขาร้องไห้เป็นประจำ แถมมีโควิด รง.สั่งทำ3หยุด3 ผมถึงกับจุกตอนนั้น ผมก็รู้เขาก็เหนื่อย โรคปากเสียผมก็ลดลง พยายามจะไม่ปะทะให้มากที่สุด
กลางปี21เราได้เงินครบ1แสนตามที่ผมตกลงกับ แม่ยายแต่ช่วงนั้นโควิด เลยตกลงจะแต่งต้นปี22 เพิ่มให้อีก5หมื่น
ผมมาบ้านเมียครั้งแรกเพราะเตรียมงาน แต่ช่วงนั้นเขาจำกัดคนร่วมงาน เลยไม่ได้เชิญเยอะ แต่มีแว่วๆบางพูดว่า ผมมาแต่งแล้วดีจัง ลูกสาวคนเดียวไม่มีคนมาแย่งอะไร แต่งแล้วแม่ยายมีรถให้มีบ้านให้ด้วย(ที่ดินบ้านน่าจะราคาล้านต้นๆถ้าขาย) ผมไม่ได้สนใจหรอกเขาจะให้ไม่ให้ก็ช่าง คำพูดคนอื่นไม่มีผลกับผมหรอก ขอแค่คนที่พูดอย่าเป็นคนในครอบครัวผมก็ไม่คิดมากหรอก แต่ถ้าพูดคงไม่เจอหน้าผมอีก แต่เงินค่าดองแม่ยายก็ไปซื้อที่นาไว้ให้รวมๆที่นาที่แก่ซื้อไว้ให้ ถูกสุดก็ขายได้6แสน
พอแต่งเสร็จเราก็กลับมาทำงานกันปกติ ก็ใช้ชีวิตกันมา จนรู้สึกอีกที ผมก็หลงในความน่ารักของเขา ยอมรับแรกๆก็ดูเฉยๆ อืมน่ารักดี ไม่เคยสังเกตุเหมือนทุกวันนี้ เลยปล่อยท้อง แต่ปล่อยมา2ปีกว่าละยังเงียบอยู่เลย เปลเด็กที่แม่จะเอามาให้ก็ทิ้งไว้จนแมงสาบเอาไปกินละ🤣
อยู่กันมาก็ยังไม่เคยมีเรื่องมือที่3 และในด้านคือไม่ทำแน่นอน ในเมื่อเขาคือเมียเรา เขาก็คือคนเดียว วันข้างหน้าผมไม่รู้หรอกว่าจะเป็นยังไง แต่ในฐานะผัวคนนึง ผมก็จะรักเขาให้มากที่สุด
ปัจจุบันก็ยังปะทะกันประจำ แค่ก็ไม่ได้โกรธอะไร ผมไม่ถือสาอะไรอยู่แล้ว เขาแค่ชอบพูดตามธรรมชาติของผญ.
ทุกวันนี้บางทีผมก็ยังปากเสียบ่นรำคาญ อยากหนีไปให้ไกล แต่น้องไม่น่าบูดแล้วกลับหัวเราะแทน แล้วบอกพี่ต้องทนนะ รู้ไหม หึช่างเถอะ เขายิ้มผมก็ดีใจละ
ทุกวันนี้จะซื้อ40-50ยังขออนุญาตผม แต่ก่อนผมชอบด่าเขาเรื่องซื้อไม่บอก รู้สึกผิดเหมือน ทุกวันนี้เลยตามใจอะไรซื้อได้ก็ให้ซื้อ อะไรซื้อไม่ได้ก็อธิบายเอา มีทุกวันนี้ก็เพราะเขามีคนจัดสรรเรื่องเงิน ทั้งที่ในใจแต่ก่อนคิดว่าผมคงไม่มีปัญญาไปแต่งใคร แต่เขาก็ทำได้
วันข้างจะเป็นไงก็ช่างเถอะ รู้สึกพอใจแล้วที่มีเขาอยู่ข้างๆทุกวันนี้
ความเบ๊อะ มึนๆของเขานี้แหละน่ารัก
ถามผมทำไมสิงโตบางตัวมีขน บางตัวไม่มีขน อ่อตัวที่ไม่มีขนมันแว็ก5555
มีวันนึงไปตลาดเขาหิ้วถุงผลไม้ขึ้นรถมา ผมก็มองอ่อสงสัยเขากิน น้องก็กัดไปทีบอกว่า
พี่มันไม่สุก
ผมก็หือมันก็ปกตินิ
พี่มะไฟไม่สุก
เดี๋ยวๆที่เทอซื้อมามัน อินทผาลัม นะ
ตายๆ เมียกูแยกแยะไม่ออกละ
ดีที่เขาไม่ใช่คนขี้หึง ไม่เช็คมือถือ แรกๆมีนิดหน่อย
บางครั้งบอกผัวดูคนนั้นคนนี้ เซ็กซี่ไหม
บางที่ก็ถามไม่เบื่อเหรอ อยู่ด้วยกันแทบ24ช.ม. ตัวติดกันตลอด ตั้งแต่รู้จักกันจนวันนี้ มีแตช่วงแรกที่คบกันขอไปหาเพื่อนนับได้ไม่ถึง5ครั้ง ผมก็เป็นคนไม่ชอบออกไปไหนอยู่แล้วด้วย เลยแทบจะสิงร่างกันอยู่แล้ว
สิ่งเดียวที่หวังทุกวันนี้ ขอแค่ได้มองดูเขาอยู่ข้างนานๆก็พอ
นและมีความสุขที่ได้จูงมือกันเดินทุกวัน
เ
เรื่องของผมอาจฟังดูเลอะเทอะ ไร้สาระ และผมไม่บังคับให้เชื่อ ไม่มีผลอะไรกับผมอยู่แล้ว เพราะทุกวันนี้ผมพอใจในสิ่งที่เป็นแล้ว
งั้นจบแค่นี้ละกันเล่าอีก3วันก็ไม่พอ
ผมจะเป็นสามีที่ดีพอได้ไหม
ปัจจุบันผมอายุ35ปีแล้ว เคยมีชีวิตคู่มา3ครั้งที่กินอยู่แบบผัวเมียอ่ะนะ
เริ่มจากเมียคนแรกอายุน้อยกว่า2ปี ตอนนั้นผม22 คนนี้ไม่มีอะไรมากคบกัน3ปีมีแค่คำโกหก แอบคุยกับผช.จนเหนื่อยจะให้อภัย เนรคุณได้แม้กระทั้งครอบครัวตัวเองจบ ใครอยากรู้ก็ถามได้
คนที่2นี้สิหนังชีวิต คบกัน3ปี เขาอายุน้อยกว่า4ปี เป็นเพื่อนของน้องสาว(ญาติ)
ปีแรกที่เราคบกัน แรกๆแอบอยู่ด้วยกัน จนเก็บได้5หมื่นไปหมั้นกัน เป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสสังคมรง. ปีแรกก็รักกันดีปกติทุกอย่าง
แต่พอปีที่2นี้ เราเริ่มมีปัญหากัน ทุกครั้งที่เขากลับเยี่ยมบ้านเรามีเรื่องทะเลาะกันตลอด จนมีคำหนึงที่ผมรู้สึกเสียใจมาก เขาว่าแม่เขาบอกให้คบคนใหม่เถอะ ผมถึงกับอึ้งไม่คิดว่าเขาจะพูดแบบนี้ ซึ่งไม่แปลกหรอกเพราะครอบครัวเขาไม่ได้ต้อนรับผมอยู่แล้ว เพราะฐานะทางบ้านผมแย่กว่าเขา ทุกครั้งที่ผมคุยกับกับแม่ยายเขาแทบไม่มองหน้าผม ผมก็ได้แค่คิดในใจ ว่าไม่เป็นพอแต่งกันไปเขาคงจะยอมรับเราได้ แล้วเราก็ทะเลาะกันมาเรื่อยๆ
จนปีที่3 เราตกลงแยกกันอยู่ ปกติผมจะไปหาทุกวัน ส.ที่เขาไม่ได้เข้ากะดึก ก็ไปมาแบบนี้อยู่พักใหญ่ๆ จนช่วงหลังผมแอบรู้ว่าเขาคุยกับผช.อื่น ผมก็แอบสืบๆจนรู้ว่าใคร ฝ่ายชายก็มีลูกมีอยู่เมียแล้ว เขาก็รู้ดีผมได้แต่แอบคิดว่ามันคงจะไม่เลยเถิดไปมากกว่านี้ ผมก็บอกตรงๆว่าผมรู้เรื่องแล้ว แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น มีอยู่เสาร์นึงผมบอกจะไม่ไปหา แต่ไม่รู้ทำไมรางสังหรณ์บอกให้ไป ผมเลยไปโดยไปบอก พอผมเดินไปห้องเขาวงเหล้าอยู่ตรงนั้นมองหน้าผม ดูจากแววตาเขา ได้แต่บอกใจตัวเองว่าอย่าเป็นอย่างนั้นเลย ผมถึงห้องมีรองเท้าผช.อยู่เปิดกุญแจได้แต่ประตูลงกลอนไว้ ผมบอกจนเขายอมเปิด
ใช่เลยมีผช.อยู่ในห้องคนที่เขาแอบคุยกันนั้นแหละ เหมือนนั่งกินข้าวกันอยู่ ผมยืนคุมสติแปปนึงไม่ถามใคร ปล่อยผช.คนนั้นออกไป โอเคผมให้อภัย แต่ในใจเหรอคนที่เจอมาจะรู้ดี ผมพยามประคองชีวิตคู่ต่อไป จนก่อนถึงวันกำหนดแต่ง3เดือน ผมไปไถ่ทองของเขาให้หมด7000 ผมไม่คิดไร ผมแอบเช็คบัญชีมีการแอบบกดเงินออก ผมไม่คิดไร หวังแต่ว่าวันครั้งหน้าจะต้องดีขึ้น
พอเดือนสุดท้ายแม่ยายโทรไปหาแม่ผมบอกว่าสาวลูกเขาไม่แต่งแล้ว ผมเริ่มทำใจมาตั้งแต่แยกกันอยู่แล้ว โอเคตกลงเลิกกัน เขาคืนเงินเก็บส่วนของผมกลับมา5หมื่น เงินหมั้นก็ช่างเถอะ ผมเดินออกมาน้ำตาไหล ไม่ใช่น้ำตาของความเสียใจ แต่เป็นน้ำตาจากคำว่าเหนื่อย
ครอบครัวเขาไม่ได้ต้องการผมตั้งแต่ทีแรกแล้ว พูดทำนองเหมือนผมจะไปเอาสมบัติเขา เพราะฐานะทางบ้านเขาดีกว่าผม แม่ได้แต่ฟังทั้งน้ำตา ไม่ยอมบอกผมไม่อยากให้เสียใจ ไม่อยากให้ผมมีปัญหากับเขา ตอนนั้นผมรู้สึกเกลียดตัวเองมาก ผมจะเจ็บแค่ไหนผมก็ทนได้ ผมไม่อยากเห็นครอบครัวผมต้องการ ผมกลับมาเยี่ยมบ้าน ก็พาผู้ใหญ่ไปถอนหมั้น ตลกร้ายจริงวันที่ผมต้องแต่งกับเป็นวันที่ผมกลับต้องมาถอนหมั้น ผิดที่ผมเองแหละ ผิดที่ดีไม่พอ ผิดที่ไม่รับความจริง ผมลองมองย้อนกลับไปตอนที่อยู่กัน ผมทำโรงงาน มีผล.มาตามติดหลายคน (ตอนหนุ่มๆผมหน้าดี ) ผมก็ปฏิเสธ เพราะผมไม่อยากให้คนที่รักต้องเสียใจ ไม่เคยยุ่งไม่เคยแอบคุยกับคนอื่น เพราะคำว่ารักเขา แต่ผลตอบแทนเหรอ หึ ช่างเถอะ แต่วันนั้นผมไม่เสียใจเลย แต่กลับรู้สึกโล่งใจมาก เหมือนปล่อยความกดดันทุกอย่างทิ้งไป(อันนี้ย่อมาแล้ว)
ผมกลับมาทำงานปกติ นิสัยส่วนตัวไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ซื้อผญ. ไม่ชอบพนัน เหล้าไม่กิน วันๆทำงานฆ่าเวลา ผ่านมา1อา. นับจากถอนหมั้นผมไปรู้จักกับผญ.คนนึงและคน2คน3คน4...ไปเรื่อย ก็โสดอ่ะจะนอนกับใครก็ได้ ใครชวนไปเที่ยวก็ไป ใครชวนไปเอาก็ไป ตอนนั้นหน้าตาดีไงใช้หากินได้ เป็นอยู่แบบนี้4ด. แล้วผมตั้งคติว่าต่อไปผมจะแคร์ความสึกตัวเองมากกว่าคนอื่น ไม่เก็บกดไว้แล้ว
จนรู้จักกับผญ.คนนึงทางโลกออนไลน์ ที่แรกก็คุยจีบกันปกติ น้องเขา22ผม29ละ พึ่งมาจากต่างจังหวัดได้อา.นึงอยู่กับญาติ ทำงานร้านขาย คสอ. แล้ววันนึงเขาไปเที่ยวผับกับเพื่อนทั้งทีตัวเองไม่เคยเข้าด้วย โทรไปผมรับคนที่ไม่เคยเจอกันเลยแทนที่จะโทรหาญาติ ตายๆ โอเคผมไปรับเมาผมแบกกลับมาห้องผม ล้างหน้าล้างให้ไปนอนที่นอนผม
ไม่ต้องห่วงผมจะไม่ลวนลามคนไม่มีสติ ปิดไฟนอน แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด น้องเขาเมาพยายามขึ้นปล้ำาผม อืมเขาแค่เมา พยายามบังคับให้เขานอนเหม็นเหล้าไม่มีอารมณ์ แต่ใครว่าเราจะบอกคนเมาได้ น้องก็ยังพยายามปลผม ผ่านไปเกือบช.ม.น้องก็ยังไม่นอน ถึงเราจะจีบกันแต่ผมไม่อยากทำอะไรคนเมาไม่มีสติ น้องไม่ยอมหยุดจนในสุดผมก็ยอม ตัดเข้าฉาก18+ เช้ามาผมไปส่งปากซอย ก่อนไปส่งก็ทำให้ไปอีกรอบนึง เราก็คุยกันมาเรื่อยๆ
แล้วน้องก็ย้ายทำงาน แต่ที่น่าตกใจคือโลที่ส่งมาให้คือซอยที่ผมอยู่ โรงงานนั้นอยู่สุดซอย หอผมอยู่ปากซอยห่างกัน100เมตร เขาจำห้องผมไม่ได้ เวลาทำงานเขาก็ต้องขับมอไซค์ผ่านหน้าห้องผมทุกวัน ก็เลยบอกเขาไป แล้วปัญหาคือ ถ้าผมบอกเลิก5โมงเขาก็จะแวะห้องผมตลอด หรือบางวันที่เห็นประตูปิดก็จะโทรถามผม
จริงๆผมอยู่ในห้องนั้นแหละแต่บอกทำโอ อยากอยู่คนเดียวเงียบๆ เพราะผมพักกับหลานชายอีกคน เวลาเขามาหลานผมก็ออกไปหาเพื่อน ก็เป็นแบบนี้ไปพักใหญ่ๆ จนพี่สาว(ญาติเขา)แยกห้องออกมาจากบ้านญาติอีกคน ห้องพักอยู่ท้ายซอยผมนั้นแหละ ที่นี้แหละน้องก็มาแทบทุกวันเลยจนผมรำคาญ ด้วยนิสัยเด็กๆของเขาด้วยผมยิ่งรำคาญมาก หลายครั้งที่ผมด่าว่าทำตัวน่ารำคาญ น้องเขาก็ได้แต่ทำหน้าเศร้า ลึกในใจผมก็รู้สึกผิดอยู่ แต่ผมจะแคร์ความรู้สึกตัวเองก่อน เพราะจะไม่ทนละ จนบ้างครั้งพี่สะใภ้ด่าผม เพราะผมด่าน้องเกินไป จนพักหลังๆผมพยายามจะไม่ด่า
วันนั้นผมนั่งดูดบุหรี่อยู่หน้าห้อง คนที่ผมคุยด้วยชวนผมออกไปเที่ยวที่แรกจะตอบตกลงละ แต่พอผมหันมามองน้องเขาในห้องแล้ว คิดยังไงไม่รู้เลยปฏิเสธไป คนนั้นผมก็ไม่เคยมีอะไรด้วยหรอกถ้าวันนั้นไปคงเรื่องยาว
จนวันผมถามน้องว่าจะลองคบกันไหม เขาก็ตกลง แต่ผมก็ดันรู้ว่าแฟนเก่าน้องติดต่อหาน้องก็ไม่ปิดบังหรอก เพราะเลิกกันเป็นปีแล้ว ผมบอกจะอภัยให้ได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องผช. ในเมื่อน้องไม่ปิดบังก็ถือว่าแล้วไป เพราะอยู่คนละจ.อยู่แล้ว
หลังจากนั้นผมก็ไปๆมาๆ ปากซอยท้ายซอย ถ้าแฟนพี่สาวเขามาเขาก็มานอนห้องผม ผ่านไป5เดือน หลานชายผมก็ย้ายห้องไปกับผญ.ก่อนหน้านั้นก็บอกหลานแล้วละว่าจะมีผญ.ย้ายมา แต่ให้หลานเก็บเงินค่าเช่าห้องก่อน พอน้องย้ายมาอยู่ด้วยกันได้2ด. พี่สาวน้องก็ไปอยู่กับแฟนเขา เรื่องเลยแดงว่าน้องมาอยู่กับผม แม่เขาเลยให้ไปหาที่ชล.เพราะแก่มาเที่ยวบ้านญาติ
ผมนั่งรถไปหาแม่ยาย ไปตกลงสินสอดเอง เพราะผมไม่อยากให้แม่มาแบกรับหรือรับรู้แล้ว ถ้าไม่รอดก็เจ็บแค่ผมคนเดียวพอ
ตลอดครึ่งปีแรกที่รู้จักกัน ผมไม่เคยรักน้องเขาเลย ถามว่าชอบไหม ชอบเพราะน้องตรงสเปคตัวเล็กหน้าตาน่ารัก แต่ความความรู้สึกผมไม่ได้บอกว่ารักเลย ทุกครั้งที่เขาร้องไห้ ก็จะชอบพูดว่าพี่ไม่รักเขาเลย ถ้าพี่ไม่รักก็ทิ้งเขาไปเถอะ ก็แอบเจ็บจี๊ดบ้างครั้ง แต่ผมก็ไม่สนใจ บางทีก็ปล่อยให้ร้องจนหลับไปเองก็มี อยากอยู่ก็อยู่อยากไปก็ไป ไม่ขอรั้งใครอีกแล้ว
บ้างทีไปดูเฟสน้อง ดูรูปเขาก็รู้สึกผิดในใจลึกๆว่าเราทำตัวแย่กับน้องเขาเกินไปไหม จนวันนึงใจอ่อนงั้นต่อไปจะพยายามพูดไม่ให้กระทบจิตใจเขามาก จนแต่งงานผมพึ่งรู้น้องมีประวัติเป็นซึมเศร้า ผมยิ่งรู้สึกมาก
ปลายปี19ก็ย้ายมาอยู่กับผม อยู่ไปอยู่มาผมหลง ในความไร้เดียงสา บื้อๆมึนๆของเขา ตกหลุมรักนั้นแหละ
เลยตัดสินใจเก็บเงินแต่งงานกัน
ปีที่1 ต้นปี20 แต่ยังแก้นิสัยปากเสียไม่ได้ ชอบทำให้เขาร้องไห้เป็นประจำ แถมมีโควิด รง.สั่งทำ3หยุด3 ผมถึงกับจุกตอนนั้น ผมก็รู้เขาก็เหนื่อย โรคปากเสียผมก็ลดลง พยายามจะไม่ปะทะให้มากที่สุด
กลางปี21เราได้เงินครบ1แสนตามที่ผมตกลงกับ แม่ยายแต่ช่วงนั้นโควิด เลยตกลงจะแต่งต้นปี22 เพิ่มให้อีก5หมื่น
ผมมาบ้านเมียครั้งแรกเพราะเตรียมงาน แต่ช่วงนั้นเขาจำกัดคนร่วมงาน เลยไม่ได้เชิญเยอะ แต่มีแว่วๆบางพูดว่า ผมมาแต่งแล้วดีจัง ลูกสาวคนเดียวไม่มีคนมาแย่งอะไร แต่งแล้วแม่ยายมีรถให้มีบ้านให้ด้วย(ที่ดินบ้านน่าจะราคาล้านต้นๆถ้าขาย) ผมไม่ได้สนใจหรอกเขาจะให้ไม่ให้ก็ช่าง คำพูดคนอื่นไม่มีผลกับผมหรอก ขอแค่คนที่พูดอย่าเป็นคนในครอบครัวผมก็ไม่คิดมากหรอก แต่ถ้าพูดคงไม่เจอหน้าผมอีก แต่เงินค่าดองแม่ยายก็ไปซื้อที่นาไว้ให้รวมๆที่นาที่แก่ซื้อไว้ให้ ถูกสุดก็ขายได้6แสน
พอแต่งเสร็จเราก็กลับมาทำงานกันปกติ ก็ใช้ชีวิตกันมา จนรู้สึกอีกที ผมก็หลงในความน่ารักของเขา ยอมรับแรกๆก็ดูเฉยๆ อืมน่ารักดี ไม่เคยสังเกตุเหมือนทุกวันนี้ เลยปล่อยท้อง แต่ปล่อยมา2ปีกว่าละยังเงียบอยู่เลย เปลเด็กที่แม่จะเอามาให้ก็ทิ้งไว้จนแมงสาบเอาไปกินละ🤣
อยู่กันมาก็ยังไม่เคยมีเรื่องมือที่3 และในด้านคือไม่ทำแน่นอน ในเมื่อเขาคือเมียเรา เขาก็คือคนเดียว วันข้างหน้าผมไม่รู้หรอกว่าจะเป็นยังไง แต่ในฐานะผัวคนนึง ผมก็จะรักเขาให้มากที่สุด
ปัจจุบันก็ยังปะทะกันประจำ แค่ก็ไม่ได้โกรธอะไร ผมไม่ถือสาอะไรอยู่แล้ว เขาแค่ชอบพูดตามธรรมชาติของผญ.
ทุกวันนี้บางทีผมก็ยังปากเสียบ่นรำคาญ อยากหนีไปให้ไกล แต่น้องไม่น่าบูดแล้วกลับหัวเราะแทน แล้วบอกพี่ต้องทนนะ รู้ไหม หึช่างเถอะ เขายิ้มผมก็ดีใจละ
ทุกวันนี้จะซื้อ40-50ยังขออนุญาตผม แต่ก่อนผมชอบด่าเขาเรื่องซื้อไม่บอก รู้สึกผิดเหมือน ทุกวันนี้เลยตามใจอะไรซื้อได้ก็ให้ซื้อ อะไรซื้อไม่ได้ก็อธิบายเอา มีทุกวันนี้ก็เพราะเขามีคนจัดสรรเรื่องเงิน ทั้งที่ในใจแต่ก่อนคิดว่าผมคงไม่มีปัญญาไปแต่งใคร แต่เขาก็ทำได้
วันข้างจะเป็นไงก็ช่างเถอะ รู้สึกพอใจแล้วที่มีเขาอยู่ข้างๆทุกวันนี้
ความเบ๊อะ มึนๆของเขานี้แหละน่ารัก
ถามผมทำไมสิงโตบางตัวมีขน บางตัวไม่มีขน อ่อตัวที่ไม่มีขนมันแว็ก5555
มีวันนึงไปตลาดเขาหิ้วถุงผลไม้ขึ้นรถมา ผมก็มองอ่อสงสัยเขากิน น้องก็กัดไปทีบอกว่า
พี่มันไม่สุก
ผมก็หือมันก็ปกตินิ
พี่มะไฟไม่สุก
เดี๋ยวๆที่เทอซื้อมามัน อินทผาลัม นะ
ตายๆ เมียกูแยกแยะไม่ออกละ
ดีที่เขาไม่ใช่คนขี้หึง ไม่เช็คมือถือ แรกๆมีนิดหน่อย
บางครั้งบอกผัวดูคนนั้นคนนี้ เซ็กซี่ไหม
บางที่ก็ถามไม่เบื่อเหรอ อยู่ด้วยกันแทบ24ช.ม. ตัวติดกันตลอด ตั้งแต่รู้จักกันจนวันนี้ มีแตช่วงแรกที่คบกันขอไปหาเพื่อนนับได้ไม่ถึง5ครั้ง ผมก็เป็นคนไม่ชอบออกไปไหนอยู่แล้วด้วย เลยแทบจะสิงร่างกันอยู่แล้ว
สิ่งเดียวที่หวังทุกวันนี้ ขอแค่ได้มองดูเขาอยู่ข้างนานๆก็พอ
นและมีความสุขที่ได้จูงมือกันเดินทุกวัน
เ
เรื่องของผมอาจฟังดูเลอะเทอะ ไร้สาระ และผมไม่บังคับให้เชื่อ ไม่มีผลอะไรกับผมอยู่แล้ว เพราะทุกวันนี้ผมพอใจในสิ่งที่เป็นแล้ว
งั้นจบแค่นี้ละกันเล่าอีก3วันก็ไม่พอ