สิ่งที่หลิงหลิงต้องเผชิญใน X : นี่คือการวิจารณ์ หรือการระบายความเกลียดชังที่เกินขอบเขต?

ตั้งแต่ปีที่แล้วจน​ตลอดปีที่ผ่านมา หลิงหลิงต้องเผชิญกับดราม่ามานับครั้งไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดจากเจ้าตัวเองหรือจากกลุ่มแฟนคลับก็ตาม ไล่เรียงตั้งแต่ข่าวลือเรื่องการออกเดท, ประเด็นเกี่ยวกับฉลากสินค้า, การล้อเลียน ไปจนถึงเรื่องที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องโดยตรง แต่กลับถูกโยงเข้ามาเพื่อสร้างประเด็น เช่น กรณีงานรำบวงสรวงของเฌอปราง ที่มีผู้สร้างข่าวลือว่าต้นสังกัดพยายามใช้เรื่องนี้เพื่อมากลบกระแสข่าวของหลิงหลิง

​แม้ในหลายครั้งจะมีการออกมาชี้แจง ขอโทษ และแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด แต่ดูเหมือนว่าความพยายามเหล่านั้นยังไม่สามารถหยุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบจากชาวเน็ตบางกลุ่มได้

อย่างประเด็นล่าสุดที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคือเรื่องการแสดงในละครเรื่อง "เพียงเธอ" ซึ่งเสียงวิจารณ์ดูจะรุนแรงเกินกว่าเหตุ แม้หลายฝ่ายจะรับทราบว่าองค์ประกอบหลักที่อาจส่งผลต่อการแสดงมาจากบทละครและมุมมองของผู้กำกับ แต่ท้ายที่สุดแล้ว หลิงหลิงกลับเป็นคนที่ต้องรับแรงกระแทกจากคำวิจารณ์เหล่านั้นแต่เพียงผู้เดียว ทั้งนี้การติชมเรื่องการแสดงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้และเป็นประโยชน์ต่อตัวนักแสดง แต่สิ่งที่ปรากฏส่วนใหญ่กลับไม่ใช่ความคิดเห็นที่สร้างสรรค์ หากแต่เป็นการส่งต่อความเกลียดชังเพื่อความสะใจ และบั่นทอนกำลังใจของเจ้าตัวซะมากกว่า

​ในฐานะผู้ที่ติดตามผลงาน รู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่เธอต้องกลายเป็นพื้นที่รองรับอารมณ์ของผู้คนบนโลกออนไลน์ การเป็นบุคคลสาธารณะไม่ได้หมายความว่าใครจะสามารถวิจารณ์หรือกล่าวหาอย่างไรก็ได้ ตอนนี้มันเหมือนข้ามเส้นแบ่งระหว่างการติเพื่อก่อไปสู่การคุกคามทางวาจาแล้วด้วยซ้ำ สิ่งที่น่าเศร้าคือ บางครั้งกลุ่มคนที่เรียกร้องความเห็นใจให้กับศิลปินที่ตัวเองรัก กลับเป็นกลุ่มเดียวกับที่ส่งต่อถ้อยคำรุนแรงให้แก่ศิลปินคนอื่น โดยมีความพยายามโยงเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกันให้เกิดเป็นประเด็นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการกล่าวหาว่ามีต้นสังกัดคอยให้ท้าย หรือการใช้ถ้อยคำที่กระทบไปถึงเชื้อชาติและสัญชาติ เช่น มีจีนเทาคอยสนับสนุน ไล่ให้กลับไปหากินที่ฮ่องกง เป็นต้น

คำพูดของหลิงหลิงที่เคยกล่าวไว้ในรายการของ NineEntertain เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนอย่าง “ขอให้สังคมให้อภัยหลิงบ้าง” หรือ “ความฝันคือการออกจากวงการ” ถึงแม้จะใช้น้ำเสียงติดเล่นจนดูไม่จริงจัง แต่กลับสะท้อนให้เห็นว่าเธอรับรู้ถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น จากคนที่เคยมีความฝันอยากจะเติบโตในเส้นทางนักแสดงไปสู่ระดับสากล แต่กลับต้องเผชิญกับแรงกดดันจนความฝันเปลี่ยนไป จึงกล่าวได้ว่าเรื่องราวทั้งหมดได้สร้างบาดแผลลึกให้กับทั้งตัวศิลปินและกลุ่มแฟนคลับที่คอยสนับสนุนอยู่

​หลายครั้งมีการกล่าวอ้างว่าสาเหตุที่หลิงหลิงถูกวิจารณ์อย่างหนักเป็นเพราะการกระทำของแฟนคลับ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ต้องยอมรับว่าในทุกกลุ่มแฟนคลับย่อมมีบุคคลที่หลากหลาย ความคิดและการแสดงออกย่อมแตกต่างกันไป การเหมารวมจึงอาจไม่ใช่การมองปัญหาที่รอบด้านนัก นอกจากนี้ยังเกิดการตั้งคำถามถึงมาตรฐานที่ไม่เท่าเทียมกันในการวิพากษ์วิจารณ์ เมื่อศิลปินคนอื่นที่เกี่ยวข้องกับประเด็นคล้ายคลึงกันกลับไม่ถูกพูดถึงในระดับเดียวกัน ปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมการวิจารณ์ที่บางครั้งไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุผล แต่ขึ้นอยู่กับอคติที่ชาวเน็ตมีต่อตัวบุคคลนั้น

​สุดท้ายนี้ จึงอยากส่งเสียงไปถึงต้นสังกัดอย่างช่อง 3 และผู้จัดการของหลิงหลิง แม้จะทราบดีว่าเจ้าตัวเป็นคนที่มีจิตใจดีและพร้อมจะปล่อยผ่านเรื่องราวต่าง ๆ แต่อยากให้พิจารณาดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่แสดงความคิดเห็นเกินขอบเขตอย่างจริงจังเสียที นอกเหนือจากการปกป้องศิลปินในสังกัดแล้ว ยังเป็นการเยียวยาจิตใจของแฟนคลับที่รู้สึกบอบช้ำจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี เพราะสถานการณ์ในตอนนี้มันหนักหนาเกินกว่าจะแบกรับ และการดำเนินการที่ชัดเจนจากต้นสังกัด อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้แฟนคลับยังคงอยากที่จะยืนหยัดและสนับสนุนศิลปินต่อไป 







แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่