จุดเริ่มต้นมาจากความคิดถึงบรรยากาศญี่ปุ่น เรทโทรๆ แสงไฟนีออนของโตเกียวตอนกลางคืน พร้อมกับเสียงดนตรีแนว synth-pop 80 แบบ plastic love, oh no, etc...) ซึ่ง "101ตื้อรักนายกระจอก" ก็เป็นละครเก่าญี่ปุ่นไม่กี่เรื่อง ที่ผมเจอในเน็ตฟลิก ความคาดหวังแรกแค่มีบรรยากาศตามที่เขียนด้านบนก็เพียงพอแล้ว บทไม่ต้องซึ้งกินใจอะไรเพราะบทมันตามยุคสมัย แต่หลังจากดูไปก็มีอะไรให้แอบขัดใจหลายๆจุด(เคยได้ยินไหมครับ ไม่คาดหวังแต่ยังผิดหวัง ฮา) จนอดมาตั้งคำถามแซวๆไม่ได้
ไม่ว่ามันจะเป็นค่านิยมสมัยนั้นจริงๆ หรือแค่เป็นสไตล์การเขียนบทที่ไม่จำเป็น realistic อะไรมากก็ไม่แน่ใจ เนื้อหามีสปอยนะครับ... ในเรื่องพยายามชูเรื่อง การรักใครสักคนด้วยทั้งหมดของหัวใจ แม้ว่าตัวเองจะไม่มีอะไรดี หน้าตาไม่ดี เงินไม่มี การงานก็ไม่ดี แต่ถ้าเรารักใครสักคนอย่างที่สุดของหัวใจ นั้นมันมีค่าพอที่สมควรจะได้ความรักกลับมา ถึงเขาคนนั้นจะอยู่สูงสักแค่ไหนก็มีโอกาส แถมนำเสนอในรูปแบบที่สุดโต้ง เช่น
- นางเอกบอกว่าแต่งงานด้วยไม่ได้เพราะเธอทำใจไม่ได้ ถ้าคนที่รักต้องจากไปเหมือนคู่หมั้นเก่า เลยวิ่งออกไปขวางหน้ารถบรรทุก จนรถมาเบรคใกล้น้ำมาก แล้วพระเอกตระโกนทั้งน้ำตาว่า "เห็นมั้ยครับ ผมจะไม่ตายหรอก ผมจะทำให้คุณมีความสุข" พร้อมเพลง ost say yes ระดับตำนาน
....คือ ไม่ยอมตาย = พี่โชคดีที่รถมันหยุดทันต่างหากละ ถ้าผมเป็นนางเอกคงเอามือกุมหัว แล้วคิดในใจว่า "คนที่บอกว่าจะอยู่กับฉันไปจนตาย พึ่งเอาตัวเองขวางรถบรรทุก แล้วจะให้ฉันเชื่อจริงๆหรอ -""- "
- นางเอกรำคานที่พระเอกตามตื้อ ก็เลยบอกประชดเอาเงินโบนัสทั้งปีไปแทงม้า แล้วจะยอมแต่งงานด้วย แล้วพระเอกทำจริง สุดท้ายแทงไม่ถูก นางเอกสงสาร พระเอกคิดว่านางเอกมีใจ ก็กลับมาจีบใหม่ วนอยู่แค่นี้จริงๆครึ่งแรก
ต้องบอกว่า ละครเรื่องนี้พยายามจะ romanticize การกระทำของพระเอกว่าทุ่มเทจนเหมือนคนโง่ ประเด็นคือ ถ้าละครนำเสนอในโทนตลก ติ๊งต๊องก็จะอีกเรื่อง แต่คุณนึกออกไหมว่า ทุกๆเวลาพระเอกทำอะไรบ้าๆแบบนี้ แล้วเพลง sound track ขึ้น มันมีคำถามในหัวผมว่า "ผกก อยากให้ตูรู้สึกซึ้งกับการกระทำนี้หรอฟระ" เหมือนโดนยัดเยียดนิดๆว่า เอ็งต้องซึ้งไปกับการกระทำของพระเอกนะ ซึ่งทำไม่ลงจริงๆ มองในมุมนางเอก คนที่ยอมขายบ้านขายรถ ทิ้งอนาคตตัวเอง เพื่อที่จะได้ใจเรา อยากเอาคนแบบนี้เป็นพ่อของลูกจริงๆหรอ?? แล้วตัวละครในเรื่องขอแต่งงานกันเป็นว่าเล่นยังกับขอเป็นแฟน อย่างฟูอิจิ ที่พึ่งเจอนางเอกนับครั้งได้ก็ขอแต่งงานแล้ว(อันนี้ไม่รู้ว่าสมัยนั้นเขาทำแบบนี้กันจริงๆหรอ ฮา)
เนื้อเรื่องมันเกือบจะเข้าร่องเข้ารอยตรงที่ พระเอกโดนเทการหมั้น เลยตั้งใจอ่านหนังสือสอบเนติเพื่อจะเป็นคนที่คู่ควรกับนางเอก ซึ่งก็ดูสมเหตุสมผลดี แต่ดันกลายเป็นว่าพระเอกสอบไม่ติด นางเอกที่รู้ตัวว่ารักพระเอก เพียงเพราะรู้ว่า พระเอกคือคนที่รักนางเอกที่สุด แล้วในอนาคตก็จะยังคงรักอยู่ (เรารักใครซักคนกลับ เพียงเพราะว่าคนคนนั้นรักเรามากๆๆได้จริงหรอ??) ที่ฮากว่านั้นคือ นางเอกมาง้อขอพระเอกแต่งงาน แล้วพระเอกพูดประมาณว่า "จะแต่งกับผมจริงหรอครับ ผมทั้งไม่ฟล่อ เงินก็ไม่มี งานก็ไม่ดี แถมยังสอบไม่ติดตอนอายุ 40 อีกต่างหาก" ถ้าผมเป็นนางเอกผมเดินกลับแล้วนะ(ฮา) แต่สุดท้ายก็จบ แบบอ้าวจบแล้วหรอ.....แบบ อ้าว เฮ้ย พี่ลืมไรไปป่าว
ในความที่บทมันขัดใจ แต่ก็ยังมีหลายๆเส้นเรื่องที่น่าติดตามให้ดูจนจบ ทั้งเรื่องบรรยากาศญี่ปุ่นเรทโทร กับเส้นเรื่องความรักของตัวละครรองๆ อย่าง จุนเป(น้องชายพระเอก) จิเอะ(น้องนางเอก) เรียวโกะ(สาวแผนกต้อนรับในบริษัทพระเอก ที่ถอดแบบมาจากผู้หญิงในสมัยนิยม อ่อนหวาน เรียบร้อย) นาโอโตะ(เพื่อนนักไวโอลินหนุ่มของนางเอก) ซึ่งทั้ง 4 คนนี้จะมีความสัมพันธ์แบบใยแมงมุม แต่จนแล้วจนรอด เน็ตฟลิกขึ้นว่าเหลืออีก 1 ตอนจะจบ แต่ความสัมพันธ์ยังไม่คืบหน้า ตัดไปมาแบบงงๆ
- จิเอะ จุนเป ถ้าคนที่ดูซี่รี่มาประมาณนึงก็จะพอเดาได้ว่าสองคนนี้ต้องได้คู่กัน เป็นแนวๆคู่กัด ที่พยายามให้พี่ของตัวเองได้รักกัน ความสนุกคือการได้เห็นทั้งคู่ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์ไปจนได้รู้ใจตัวเอง แต่จนจบเรื่องก็ไม่ได้เห็นบทสรุปของคู่นี้
- เรียวโกะ นาโอโตะ อันนี้งงสุด แบบมาได้ไงว้า เหมือนพยายามจะหาคู่ให้ตัวละครครบทุกตัว เอาจริงๆเรียวโกะแทบไม่ได้มีซีนกับนาโอโตะเท่าไหร่ เจอครั้งแรกที่งานฉลองก่อนหมั้นของพระเอก รอบสองเจอที่บริษัท แค่2ครั้งก็ตกหลุมรักแล้ว??? แล้วรักแบบจริงจัง ซึ่งนาโอโตะก็ไม่ได้มีท่าทีจะชอบกลับ จนสุดท้ายต้องไปทำงานที่เยอรมัน เคียวโกะตามมาลา แล้วอยู่ดีๆนาโอโตะก็เหมือนจะมีใจซะงั้น??
พอลองมาคิดดูดีๆเเล้ว จุดที่ไม่สมเหตุสมผลเต็มไปหมด ทั้งการกระทำ คำพูดของตัวละคร ที่ดูไม่น่าเชื่อว่าจะรู้สึกแบบนั้นจริงๆ พยายามมองเป็นกลางว่าเป็นเรื่องของวัฒนธรรม ยุคสมัย แต่ก็ยังมองข้ามได้ยาก การพัฒนาตัวละครก็เหมือนวนลูป ไหนจะเรื่องการเกลี่ยบทกับตัวละคร ที่ปูมาตั้งนานจะไม่เล่าให้มันครบๆตลอดรอดฝั่งหน่อยหรอ(คู่จิเอะ) แต่ก็นะ คงเรียกว่าเป็นซีรีย์ที่ห่วยได้ไม่เต็มปาก เพราะในช่วงเวลานั้นเรื่องนี้ก็ดังจริงๆ สรุปคือถ้าเป็นคนที่ไม่ได้คิดอะไร ดูเอาบันเทิงเรื่องนี้ตอบโจทย์มากๆ แต่ถ้าดูแบบใส่ตรรกระ อาจจะเอ๊ะหลายๆจุดแบบผม
อาจจะมีคนสงสัยว่าบ่นขนาดนี้ทำไมยังตามดูจนจบ อย่างแรกคือมันเติมเต็ม ความรู้สึก"โหยหา"ความเป็นญี่ปุ่น80ของผม นักแสดงเล่นมีเสน่ห์(โดยเฉพาะเรียวโกะ ผมชอบมากเป็นพิเศษ เสียดายว่าตัวเองเกิดช้าไป) แต่แค่ดูตัวละครที่เราชื่นชอบออกมาโลดเเล่นก็มีความสุขแล้ว แอบเสียดายตอนจบที่ดูห้วนๆไปหน่อย เหมือนโดนตัดจบอย่างไงอย่างงั้น
101ตื้อรักนายกระจอก(1999) | เมื่อผมอยากดูซีรีย์น้ำเน่าญี่ปุ่นเก่าๆ
ไม่ว่ามันจะเป็นค่านิยมสมัยนั้นจริงๆ หรือแค่เป็นสไตล์การเขียนบทที่ไม่จำเป็น realistic อะไรมากก็ไม่แน่ใจ เนื้อหามีสปอยนะครับ... ในเรื่องพยายามชูเรื่อง การรักใครสักคนด้วยทั้งหมดของหัวใจ แม้ว่าตัวเองจะไม่มีอะไรดี หน้าตาไม่ดี เงินไม่มี การงานก็ไม่ดี แต่ถ้าเรารักใครสักคนอย่างที่สุดของหัวใจ นั้นมันมีค่าพอที่สมควรจะได้ความรักกลับมา ถึงเขาคนนั้นจะอยู่สูงสักแค่ไหนก็มีโอกาส แถมนำเสนอในรูปแบบที่สุดโต้ง เช่น
- นางเอกบอกว่าแต่งงานด้วยไม่ได้เพราะเธอทำใจไม่ได้ ถ้าคนที่รักต้องจากไปเหมือนคู่หมั้นเก่า เลยวิ่งออกไปขวางหน้ารถบรรทุก จนรถมาเบรคใกล้น้ำมาก แล้วพระเอกตระโกนทั้งน้ำตาว่า "เห็นมั้ยครับ ผมจะไม่ตายหรอก ผมจะทำให้คุณมีความสุข" พร้อมเพลง ost say yes ระดับตำนาน
....คือ ไม่ยอมตาย = พี่โชคดีที่รถมันหยุดทันต่างหากละ ถ้าผมเป็นนางเอกคงเอามือกุมหัว แล้วคิดในใจว่า "คนที่บอกว่าจะอยู่กับฉันไปจนตาย พึ่งเอาตัวเองขวางรถบรรทุก แล้วจะให้ฉันเชื่อจริงๆหรอ -""- "
- นางเอกรำคานที่พระเอกตามตื้อ ก็เลยบอกประชดเอาเงินโบนัสทั้งปีไปแทงม้า แล้วจะยอมแต่งงานด้วย แล้วพระเอกทำจริง สุดท้ายแทงไม่ถูก นางเอกสงสาร พระเอกคิดว่านางเอกมีใจ ก็กลับมาจีบใหม่ วนอยู่แค่นี้จริงๆครึ่งแรก
ต้องบอกว่า ละครเรื่องนี้พยายามจะ romanticize การกระทำของพระเอกว่าทุ่มเทจนเหมือนคนโง่ ประเด็นคือ ถ้าละครนำเสนอในโทนตลก ติ๊งต๊องก็จะอีกเรื่อง แต่คุณนึกออกไหมว่า ทุกๆเวลาพระเอกทำอะไรบ้าๆแบบนี้ แล้วเพลง sound track ขึ้น มันมีคำถามในหัวผมว่า "ผกก อยากให้ตูรู้สึกซึ้งกับการกระทำนี้หรอฟระ" เหมือนโดนยัดเยียดนิดๆว่า เอ็งต้องซึ้งไปกับการกระทำของพระเอกนะ ซึ่งทำไม่ลงจริงๆ มองในมุมนางเอก คนที่ยอมขายบ้านขายรถ ทิ้งอนาคตตัวเอง เพื่อที่จะได้ใจเรา อยากเอาคนแบบนี้เป็นพ่อของลูกจริงๆหรอ?? แล้วตัวละครในเรื่องขอแต่งงานกันเป็นว่าเล่นยังกับขอเป็นแฟน อย่างฟูอิจิ ที่พึ่งเจอนางเอกนับครั้งได้ก็ขอแต่งงานแล้ว(อันนี้ไม่รู้ว่าสมัยนั้นเขาทำแบบนี้กันจริงๆหรอ ฮา)
เนื้อเรื่องมันเกือบจะเข้าร่องเข้ารอยตรงที่ พระเอกโดนเทการหมั้น เลยตั้งใจอ่านหนังสือสอบเนติเพื่อจะเป็นคนที่คู่ควรกับนางเอก ซึ่งก็ดูสมเหตุสมผลดี แต่ดันกลายเป็นว่าพระเอกสอบไม่ติด นางเอกที่รู้ตัวว่ารักพระเอก เพียงเพราะรู้ว่า พระเอกคือคนที่รักนางเอกที่สุด แล้วในอนาคตก็จะยังคงรักอยู่ (เรารักใครซักคนกลับ เพียงเพราะว่าคนคนนั้นรักเรามากๆๆได้จริงหรอ??) ที่ฮากว่านั้นคือ นางเอกมาง้อขอพระเอกแต่งงาน แล้วพระเอกพูดประมาณว่า "จะแต่งกับผมจริงหรอครับ ผมทั้งไม่ฟล่อ เงินก็ไม่มี งานก็ไม่ดี แถมยังสอบไม่ติดตอนอายุ 40 อีกต่างหาก" ถ้าผมเป็นนางเอกผมเดินกลับแล้วนะ(ฮา) แต่สุดท้ายก็จบ แบบอ้าวจบแล้วหรอ.....แบบ อ้าว เฮ้ย พี่ลืมไรไปป่าว
ในความที่บทมันขัดใจ แต่ก็ยังมีหลายๆเส้นเรื่องที่น่าติดตามให้ดูจนจบ ทั้งเรื่องบรรยากาศญี่ปุ่นเรทโทร กับเส้นเรื่องความรักของตัวละครรองๆ อย่าง จุนเป(น้องชายพระเอก) จิเอะ(น้องนางเอก) เรียวโกะ(สาวแผนกต้อนรับในบริษัทพระเอก ที่ถอดแบบมาจากผู้หญิงในสมัยนิยม อ่อนหวาน เรียบร้อย) นาโอโตะ(เพื่อนนักไวโอลินหนุ่มของนางเอก) ซึ่งทั้ง 4 คนนี้จะมีความสัมพันธ์แบบใยแมงมุม แต่จนแล้วจนรอด เน็ตฟลิกขึ้นว่าเหลืออีก 1 ตอนจะจบ แต่ความสัมพันธ์ยังไม่คืบหน้า ตัดไปมาแบบงงๆ
- จิเอะ จุนเป ถ้าคนที่ดูซี่รี่มาประมาณนึงก็จะพอเดาได้ว่าสองคนนี้ต้องได้คู่กัน เป็นแนวๆคู่กัด ที่พยายามให้พี่ของตัวเองได้รักกัน ความสนุกคือการได้เห็นทั้งคู่ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์ไปจนได้รู้ใจตัวเอง แต่จนจบเรื่องก็ไม่ได้เห็นบทสรุปของคู่นี้
- เรียวโกะ นาโอโตะ อันนี้งงสุด แบบมาได้ไงว้า เหมือนพยายามจะหาคู่ให้ตัวละครครบทุกตัว เอาจริงๆเรียวโกะแทบไม่ได้มีซีนกับนาโอโตะเท่าไหร่ เจอครั้งแรกที่งานฉลองก่อนหมั้นของพระเอก รอบสองเจอที่บริษัท แค่2ครั้งก็ตกหลุมรักแล้ว??? แล้วรักแบบจริงจัง ซึ่งนาโอโตะก็ไม่ได้มีท่าทีจะชอบกลับ จนสุดท้ายต้องไปทำงานที่เยอรมัน เคียวโกะตามมาลา แล้วอยู่ดีๆนาโอโตะก็เหมือนจะมีใจซะงั้น??
พอลองมาคิดดูดีๆเเล้ว จุดที่ไม่สมเหตุสมผลเต็มไปหมด ทั้งการกระทำ คำพูดของตัวละคร ที่ดูไม่น่าเชื่อว่าจะรู้สึกแบบนั้นจริงๆ พยายามมองเป็นกลางว่าเป็นเรื่องของวัฒนธรรม ยุคสมัย แต่ก็ยังมองข้ามได้ยาก การพัฒนาตัวละครก็เหมือนวนลูป ไหนจะเรื่องการเกลี่ยบทกับตัวละคร ที่ปูมาตั้งนานจะไม่เล่าให้มันครบๆตลอดรอดฝั่งหน่อยหรอ(คู่จิเอะ) แต่ก็นะ คงเรียกว่าเป็นซีรีย์ที่ห่วยได้ไม่เต็มปาก เพราะในช่วงเวลานั้นเรื่องนี้ก็ดังจริงๆ สรุปคือถ้าเป็นคนที่ไม่ได้คิดอะไร ดูเอาบันเทิงเรื่องนี้ตอบโจทย์มากๆ แต่ถ้าดูแบบใส่ตรรกระ อาจจะเอ๊ะหลายๆจุดแบบผม
อาจจะมีคนสงสัยว่าบ่นขนาดนี้ทำไมยังตามดูจนจบ อย่างแรกคือมันเติมเต็ม ความรู้สึก"โหยหา"ความเป็นญี่ปุ่น80ของผม นักแสดงเล่นมีเสน่ห์(โดยเฉพาะเรียวโกะ ผมชอบมากเป็นพิเศษ เสียดายว่าตัวเองเกิดช้าไป) แต่แค่ดูตัวละครที่เราชื่นชอบออกมาโลดเเล่นก็มีความสุขแล้ว แอบเสียดายตอนจบที่ดูห้วนๆไปหน่อย เหมือนโดนตัดจบอย่างไงอย่างงั้น