เรื่องเล่าความอยากได้ เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้น ตติยานุจุลจอมเกล้า(สืบตระกูล) ของคนนามสกุลเดียวกันกับพ่อ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า (
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2 )
เนื่องด้วยฐานะ “ผู้ที่อยากได้”
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ (สืบตระกูล) เป็นข้าราชการระดับพันเอก กับผมซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา ไม่ได้รับราชการ การไม่ได้เป็นญาติพี่น้อง หรือติดต่อพูดคุยกันของผม รู้แค่ว่า พ่อกับแม่หย่ากัน (ด้วยที่ไม่ทราบรายละเอียดจดทะเบียนสมรสพ่อแม่ และหย่ากันตั้งแต่ผมอายุได้7-8ปี และไม่ทราบเรื่องการจดทะเบียนสมรสซ้อน ผมจึง
เป็นบุตรนอกสมรส ที่พ่อรับรองบุตร ในยุค 70 อาจเป็นเรื่องปกติ ที่ผมไม่ทราบในตอนนั้น เพราะตอนเด็กจำได้อยู่เรื่องที่ประทับใจ สมเด็จย่า ทรงรับสั่งให้พ่อมารับลูกๆ(ผมและพี่พี่)ไปเที่ยวที่ดอยตุง ซึ่งท่านทรงประทับอยู่)
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนที่พ่อของผม อายุได้ 90+ปี “ผู้ที่อยากได้”
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ให้พ่อของผมไปทำเอกสารยก
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ (สืบตระกูล)ให้“ผู้ที่อยากได้” โดยหารู้ไหมว่า การสืบตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์ นั้น ให้เฉพาะทายาทโดยสายเลือดของบุคคลนั้นเท่านั้น
[เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้านั้น สามารถสืบตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์ได้ โดยบุตรชายของผู้ได้รับพระราชทานนั้น จะได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้น
ตติยจุลจอมเกล้า สืบตระกูลเมื่อผู้ได้รับพระราชทานล่วงลับไปแล้ว และการสืบตระกูลจะสิ้นสุดลงเพียงชั้นนี้เท่านั้น
[2] หากไม่มีบุตรชาย หรือ บุตรชายไม่สามารถรับได้ ก็สามารถพระราชทานให้
ทายาทที่เป็นชายคนอื่นแทนได้ (หากผู้สืบตระกูลเป็นชั้น
หลานหรือเหลน ให้รับพระราชทาน ชั้น
ตติยานุจุลจอมเกล้าแทน) ] ***หลานซึ่งเป็นบุตรของ บุตรชายคนถัดไปนั้น ให้ได้แก่บุตรชาย คนใดคนหนึ่งที่สมควร
https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2484/A/1553.PDF
ความในมาตรา ๙ ข้อ๓. ในพระบัญญัติ เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า พุทธศักราช ๒๔๘๔ วันที่๑พฤศจิกายน๒๔๘๔ราชกิจจานุเบกษาเล่ม๕๘หน้า๑๕๖๒ ถึงหน้า๑๕๖๓ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี
ดังนั้น การเป็นลูกของพี่ชายพ่อ หรือ เป็นลูกของน้องชายพ่อ เป็นหลาน แต่ไม่มีสิทธิได้รับ เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้น ตติยา
นุจุลจอมเกล้า สืบตระกูล “ผู้ที่อยากได้” จึงไม่ทำเรื่องขอพระราชทานฯ
ผมในฐานะผู้ที่เป็นลูกโดยสายเลือดและพ่อรับรองบุตร ก็สามารถที่จะทำเรื่องขอพระราชทานได้ แต่ไม่ได้ รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้น
ตติยจุลจอมเกล้า สืบตระกูล
นี้สิที่เรียกว่า “บุญมี แต่กรรม(มา)บัง”
ปล.ความแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ความอิจฉาริษยา ความอยากได้ของของคนอื่นไปครอบครอง มีเกือบทุกวงตระกูล
เพราะฉะนั้นเราต้องรักคนในครอบครัว พ่อแม่พี่น้องของเราใหม่มาก เพราะไม่มีใครรักเรามากไปก่อนคนในครอบครัวแล้วครับ // คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะใช้ชีวิตได้
เรื่องเล่าระบายความในใจ ที่นามสกุลเดียวกันแต่ไม่ได้มีจิตใจที่รักกันเหมือนญาติกัน การให้เกียรติเขาฝ่ายเดียวไม่ดี
เรื่องเล่าความอยากได้ เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้น ตติยานุจุลจอมเกล้า(สืบตระกูล) ของคนนามสกุลเดียวกันกับพ่อ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ( https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2 )
เนื่องด้วยฐานะ “ผู้ที่อยากได้” เครื่องราชอิสริยาภรณ์ (สืบตระกูล) เป็นข้าราชการระดับพันเอก กับผมซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา ไม่ได้รับราชการ การไม่ได้เป็นญาติพี่น้อง หรือติดต่อพูดคุยกันของผม รู้แค่ว่า พ่อกับแม่หย่ากัน (ด้วยที่ไม่ทราบรายละเอียดจดทะเบียนสมรสพ่อแม่ และหย่ากันตั้งแต่ผมอายุได้7-8ปี และไม่ทราบเรื่องการจดทะเบียนสมรสซ้อน ผมจึงเป็นบุตรนอกสมรส ที่พ่อรับรองบุตร ในยุค 70 อาจเป็นเรื่องปกติ ที่ผมไม่ทราบในตอนนั้น เพราะตอนเด็กจำได้อยู่เรื่องที่ประทับใจ สมเด็จย่า ทรงรับสั่งให้พ่อมารับลูกๆ(ผมและพี่พี่)ไปเที่ยวที่ดอยตุง ซึ่งท่านทรงประทับอยู่)
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนที่พ่อของผม อายุได้ 90+ปี “ผู้ที่อยากได้” เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ให้พ่อของผมไปทำเอกสารยก เครื่องราชอิสริยาภรณ์ (สืบตระกูล)ให้“ผู้ที่อยากได้” โดยหารู้ไหมว่า การสืบตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์ นั้น ให้เฉพาะทายาทโดยสายเลือดของบุคคลนั้นเท่านั้น
[เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้านั้น สามารถสืบตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์ได้ โดยบุตรชายของผู้ได้รับพระราชทานนั้น จะได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้น ตติยจุลจอมเกล้า สืบตระกูลเมื่อผู้ได้รับพระราชทานล่วงลับไปแล้ว และการสืบตระกูลจะสิ้นสุดลงเพียงชั้นนี้เท่านั้น[2] หากไม่มีบุตรชาย หรือ บุตรชายไม่สามารถรับได้ ก็สามารถพระราชทานให้ทายาทที่เป็นชายคนอื่นแทนได้ (หากผู้สืบตระกูลเป็นชั้นหลานหรือเหลน ให้รับพระราชทาน ชั้น ตติยานุจุลจอมเกล้าแทน) ] ***หลานซึ่งเป็นบุตรของ บุตรชายคนถัดไปนั้น ให้ได้แก่บุตรชาย คนใดคนหนึ่งที่สมควร
https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2484/A/1553.PDF
ความในมาตรา ๙ ข้อ๓. ในพระบัญญัติ เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า พุทธศักราช ๒๔๘๔ วันที่๑พฤศจิกายน๒๔๘๔ราชกิจจานุเบกษาเล่ม๕๘หน้า๑๕๖๒ ถึงหน้า๑๕๖๓ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี
ดังนั้น การเป็นลูกของพี่ชายพ่อ หรือ เป็นลูกของน้องชายพ่อ เป็นหลาน แต่ไม่มีสิทธิได้รับ เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้น ตติยานุจุลจอมเกล้า สืบตระกูล “ผู้ที่อยากได้” จึงไม่ทำเรื่องขอพระราชทานฯ
ผมในฐานะผู้ที่เป็นลูกโดยสายเลือดและพ่อรับรองบุตร ก็สามารถที่จะทำเรื่องขอพระราชทานได้ แต่ไม่ได้ รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นตติยจุลจอมเกล้า สืบตระกูล นี้สิที่เรียกว่า “บุญมี แต่กรรม(มา)บัง”
ปล.ความแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ความอิจฉาริษยา ความอยากได้ของของคนอื่นไปครอบครอง มีเกือบทุกวงตระกูล เพราะฉะนั้นเราต้องรักคนในครอบครัว พ่อแม่พี่น้องของเราใหม่มาก เพราะไม่มีใครรักเรามากไปก่อนคนในครอบครัวแล้วครับ // คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะใช้ชีวิตได้
เรื่องเล่าระบายความในใจ ที่นามสกุลเดียวกันแต่ไม่ได้มีจิตใจที่รักกันเหมือนญาติกัน การให้เกียรติเขาฝ่ายเดียวไม่ดี