มิตรภาพของทุกศาสนาเพื่อประชาสามัคคี

สุขวิชโนมิกส์—มิตรภาพของทุกศาสนาเพื่อประชาสามัคคี ชีวิตนี้เพื่อพรรคประชาธิปัตย์ และ ประเทศไทย
พันโทหญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล - ผู้พันปราง

ผลงานด้านวัฒนธรรมและกิจการศาสนาอิสลาม ในฐานะผู้ช่วยของบิดา คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ รองนายกรัฐมนตรีในหลายรัฐบาล 

และ ด้วยความสำนึกในองค์ความรู้ ในการถือศีลอดของพี่น้องชาวมุสลิม ผู้นับถือศาสนาอิสลามในการถือ ศีลอด ส่งผลให้ข้าพเจ้าสามารถอดข้าว อดน้ำ ได้อย่างมีเทคนิค จนกระทั่งเอาชีวิตรอดมาได้  ในเหตุการณ์ ซึ่ง นายก้องเกียรติ ก้องแดนไพร ผู้ช่วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขับรถชนต้นไม้ ณ. จังหวัดบุรีรัมย์ https://www.thairath.co.th/tags/ก้องเกียรติ ก้องแดนไพร #อุบัติเหตุครั้งนั้นข้าพเจ้าเหลือเพียงกระดูกคอซึ่งไม่หักค่ะ 

# ข้าพเจ้าจึงยืนหยัดมาตลอดว่า จะส่งเสริมกิจกรรมด้านวัฒนธรรมและกิจการศาสนาอิสลามเพื่อพี่น้องชาวมุสลิมค่ะ

1. ปรัชญาสุขวิช: แนวทางสันติวิธี
2. มิตรภาพของทุกศาสนา เพื่อประชาสามัคคี ชีวิตเพื่อพรรคประชาธิปัตย์ และ ประเทศไทย
3. พิทักษ์คุ้มครองประชาชนจากการใช้อำนาจโดยมิชอบของข้าราชการต่อประชาชน
4. สนับสนุนและส่งเสริมกิจการฮัจญ์ในฐานะอะมีรุ้ลอัจย์
5. สนับสนุนการศึกษาตามโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาไทย-ตุรกี
6. แก้ไขระเบียบการถ่ายรูปทำบัตรประจำตัวประชาชนสำหรับสตรีไทยมุสลิม
7. ผลักดันข้อกำหนดอัตราจ้างเพิ่ม ตามมาตรฐานกำหนดกำลังคนภาครัฐ โดยบรรจุวิทยากรอิสลามศึกษาให้บรรจุเป็นลูกจ้างประจำ 797 อัตรา
8. ขอขยายอัตราค่าตอบแทนวิทยากรอิสลามศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา มัธยมศึกษา รวมทั้งระดับเทศบาล จากชั่วโมงละ 80 บาท เป็น 150 บาท
9. ผลักดันให้มีมติคณะรัฐมนตรี ยกเว้นค่าธรรมเนียมและค่าโอนภาษี ในการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ศาสนสถานที่ดินวากัฟมัสยิด
10. ผลักดันงบประมาณอุดหนุนโรงเรียนตาดีกา
11. ผลักดันให้มีสถานที่รองรับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ที่สนามบินทาดใหญ่ ภูเก็ตและอาคารที่พัก ฮุจญาดหาดใหญ่
12. ผลักดันให้มีสถานที่ละหมาด ที่สถานีรถไฟ ท่าอากาศยาน รัฐสภา กระทรวงศึกษาใน
โรงเรียน โรงพยาบาล และสถานที่ราชการอื่นๆ
13. สนับสนุนการก่อสร้างอาคาร ห้องเรียนในโรงเรียนตาศึก และโรงเรียนปอเนาะ
14. เร่งรัดในการผลักดันงบประมาณให้มีการก่อสร้างศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลาม
15. ผลักดันค่าตอบแทนแก่ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด อิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น ทุกมัสยิด
16. ผลักดันให้มีการสนับสนุนงบประมาณในเรื่องเปิดศูนย์จริยธรรมในทุกมัสยิด
17. ผลักดันให้ข้าราชการสตรีมุสลิมสามารถถ่ายรูปคลุมฮิญาบทำบัตรข้าราชการได้
18. แก้ไขระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน นักศึกษาให้สามารถคลุมฮิญาบได้ในโรงเรียนทุกระดับ
19. ผลักดันในเรื่องการจัดตั้งธนาคารอิสลามในประเทศไทย โดยเสนอร่าง พ.ร.บ.ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยเข้าสู่สภาฯ
20. ผลักดันในเรื่องการรับรองอาหารฮาลาลให้เป็นมาตรฐาน และศูนย์ผลิตอาหารฮาลาล เพื่อการส่งออก
21. ผลักดันในเรื่องแนวทางการดำเนินงานจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรอิสลามศึกษาในเขตการศึกษาต่างๆ นอกเหนือจากเขตการศึกษาที่กำหนด (เดิมกำหนดเฉพาะ 5 จังหวัดภาคใต้)
22. ผลักดันให้กระทรวงสาธารณสุขให้ยอมรับนักศึกษาที่จบสาขาแพทย์ในประเทศมุสลิม สามารถประกอบวิชาชีพได้สำเร็จ
23. สนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทยมุสลิมศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์ตามโครงการทุน IDB และมูลนิธิ วกพ.
24. สนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม
25. ผลักดันพระราชบัญญัติการใช้กฎหมายอิสลามในเขตจังหวัดที่มีคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด
26. แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในเรื่องของสุสาน
27. ผลักดัน พ.ร.บ. บริหารกิจการศาสนาอิสลาม
28. ผลักดันให้กรมการขนส่งทางบก อนุญาตให้มุสลิม คลุมฮิญาบทำใบขับขี่รถยนต์ได้
29. ผลักดันให้กระทรวงคมนาคม ทำป้ายบอกมัสยิดในระยะ 300 เมตร ทั่วประเทศ
30. ช่วยเหลือนักเรียนไทยที่เดือดร้อนเนื่องจากภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ ในประเทศอียิปต์
31. ผลักดันการขออนุญาตจัดตั้งวิทยาลัยอิสลามยะลา
32. ผลักดันให้อุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง แก่มัสยิด
33. สนับสนุนการบูรณะศาสนสถานและกิจกรรมทางศาสนา

33.1 ตั้งแต่ปี 2536-2540 ได้จัดสรรงบประมาณให้แก่มัสยิด 637 มัสยิดเป็นเงิน 10,635,250 บาท
33.2 ปี 2536-2540 ช่วยเหลือทางด้านอาหาร โรงเรียนตาตีกา จำนวน 482 โรง เป็นเงิน 51.384.221 บาท และจัดสรรโต๊ะ เก้าอี้ จำนวน 23.355 ชุด เป็นเงิน 14,571,000 บาท
บิดาของข้าพเจ้า คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในหลายรัฐบาล

เคยได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องชาวมุสลิมที่มีนบุรี คลองสามว่า หนองจอก ลาดกระบัง ส่งผลให้ได้เป็นผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร คนเดียวซึ่งสนับสนุน รัฐบาลต้มยำกุ้ง ปี 2540 และได้ตอบแทนคนไทย ด้วยการอภิวัฒน์การศึกษาสำเร็จ

และ ภายหลังสิทธิ์นี้ถูกเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ2540 มาตรา 43 และ 80  เนื่องจากเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2540 คนไทยอายุ 3-17 ทุกคนซึ่งมีจำนวน 16.68 ล้านคนได้รับบริการการศึกษา จากกระทรวงศึกษาธิการ 

นับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ในประวัติศาสตร์การจัดบริการการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ สามารถจัดบริการการศึกษาให้คนไทยอายุ 3-17 ปีทุกคน
โดยรับเด็กอายุ 3-17 ปีจากครอบครัวยากจนเพิ่มดังนี้

3-5 ปี 7 แสนคน
6-11 ปี 6.5 แสนคน
12-14 ปี 1ล้านคน
15-17 ปี 2ล้านคน

นอกจากนี้ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ได้พยายามผลักดันหลายโครงการ เพื่อชาวมุสลิมของกระทรวงศึกษาธิการ เช่น เพิ่มค่าตอบแทนให้วิทยากรอิสลามศึกษา ผลักดันค่าตอบแทนแก่ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด อิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น ทุกมัสยิด 

แก้ไขระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน นักศึกษา ให้สามารถคลุมฮิญาบในโรงเรียนทุกระดับ และยังได้ผลักนโครงการวางท่อประปา 400 กม. จากบางกะปิไปยังหนองจอก ในช่วงเวลา 11 เดือนที่ได้เป็นรัฐบาล 

น่าเสียดายที่ประเทศไทยเปลี่ยนเป็นระบบประชานิยม คนไทยซึ่งมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก หรือ คนชายขอบกรุงเทพมหานครจึงต้อง เสียค่าใช้จ่ายในการต่อท่อประปา 5 เมตร เข้าบ้านตนเอง

เมื่อรัฐบาลไม่ดูแลประชาชนทุกหมู่เหล่าให้เท่าเทียม ประเทศชาติจึงไม่สงบค่ะ ดังนั้นพรรคการเมืองต้องทำเพื่อผู้ด้อยโอกาสในสังคม และคนยากจน อย่างเท่าเทียม

นอกจากนี้กระทรวงศึกษาธิการยังเป็นกระทรวงแรกที่มีสถานที่ละหมาดซึ่งได้อนุมัติในสมัยที่บิดาข้าพเจ้าเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

สำหรับข้าพเจ้า นอกจากจะสานต่อโครงการของบิดา เพื่อพี่น้องชาวมุสลิม เช่น การจัดสรร งบประมาณประจำปีของประเทศซึ่งเคยจัดสรรไว้ 1% ของจำนวนงบประมาณประจำปี 

เป็นงบประมาณเพื่อการสนับสนุนการศึกษา และจริยธรรม
สำหรับงบประมาณเพื่อการสนับสนุนการศึกษาและจริยธรรมนี้ จะนำมาซึ่งการทำนุบำรุงศาสนาอิสลามปีละ 1,000 ล้านบาท และนำเงินจำนวน 1,000 ล้านบาทนี้มาแบ่งปันให้ทุกมัสยิดทั่วประเทศ โดยคิดเฉลี่ยจากจำนวนสัปปุรุษของแต่ละมัสยิด ซึ่งงบประมาณที่แต่ละมัสยิดจะได้รับนี้จะแบ่งให้โรงเรียนสอนศาสนาประจำมัสยิด เพื่อใช้จ่ายเป็นค่าบำรุงโรงเรียน ค่าจ้างครูสอนศาสนาเป็นการประจำ

การผลักดันให้มีการบรรจุครูเพื่อให้เด็กเลือกเรียนอิสลามศึกษาได้ตามอัธยาศัยสำหรับเด็กนักเรียนชาวมุสลิมในโรงเรียนที่มีมุสลิมเกินกึ่งหนึ่ง ถ้าไม่เกินให้ไปเรียนร่วมกับโรงเรียนอื่นได้ในเฉพาะวิชาอิสลามศึกษา 

เพื่อให้ครูสอนศาสนาได้รับเงินเดือนและเกียรติคุณจากรัฐบาล โดยการบรรจุตามวุฒิและโครงการเกษตรเพื่อชีวิต โดยให้วิทยาลัยเกษตรกรรมและเทคโนโลยีที่อยู่ในพื้นที่ชาวมุสลิม ให้เปิดสอนการผลิตอาหารฮาลาลเพื่อส่งออก จะได้ทำการค้าในลักษณะการค้าต่างตอบแทนกับประเทศผู้คำน้ำมันในตะวันออกกลางซึ่งเป็นชาวมุสลิม เป็นต้น

ที่สำคัญที่สุด ดิฉันจะเสนอญัตติให้ออกกฎหมายเพื่อให้วันตรุษอิสลาม เป็นวันหยุดราชการเพิ่มอีก 1 วัน

นโยบายดังกล่าวมานี้จะเป็นจริงได้ ถ้าหากสมาชิกพรรคชาวมุสลิมให้ความไว้วางใจเลือกข้าพเจ้าเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ค่ะ

ขอสันติสุขจงมีแด่สุจริตชนทุกท่าน
พันโทหญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล —ผู้พันปราง
Candidate หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 
18 ตุลาคม 2568
www.prang.org