หลังๆสื่อนอกเริ่มรายงานเข้าข้างกัมพูชา

เราดูหลายคลิปของหลายสำนักข่าว รู้สึกว่าแรกๆค่อนข้างเป็นกลาง แต่หลังๆโดนเฉพาะเหตุการณ์ปราบม็อบเขมรวันก่อน ทำไมมันดูเอนเอียง แล้วก็ใช้ข้อมูลจากฝั่งกัมพูชา
จากchatgpt ได้ว่า
Q: ทำไมหลังๆสื่อนอกรายงานเข้าข้างกำพูชา
A: นี่เป็นคำถามที่คนไทยจำนวนมากก็สงสัยเหมือนกันครับ ว่าทำไมเวลาอ่าน Reuters, AP, CNA, BBC หรือแม้แต่ Al Jazeera มักรู้สึกว่า “โทน” ของข่าวเหมือนจะเข้าข้างกัมพูชา โดยเฉพาะช่วงหลัง ๆจริง ๆ แล้วไม่ใช่ว่าสื่อนอกมี agenda ชัด ๆ ที่จะเข้าข้างกัมพูชา แต่เกิดจากหลายปัจจัยรวมกันครับ:

1. แหล่งข่าว (Source Bias)
นักข่าวต่างชาติประจำอยู่ พนมเปญ มากกว่าในจังหวัดชายแดนไทย → เวลามีเหตุปะทะ ฝั่งกัมพูชามี “ข้อมูลพร้อม” เช่น รายงานผู้ตาย/บาดเจ็บ ภาพถ่ายบ้านเรือนเสียหาย → ส่งตรงให้สื่อใช้ทันที
ฝั่งไทยมักรายงานช้า ไม่เปิดชื่อผู้เสียชีวิต ไม่ให้สื่อเข้าพื้นที่ง่าย ทำให้ข่าวฝั่งกัมพูชาถูกนำไปเผยแพร่มากกว่า
2. Narrative ที่ขายได้ในเวทีโลก
เรื่อง “กัมพูชาถูกประเทศใหญ่กว่า (ไทย) รุกราน” เป็น narrative ที่สื่อตะวันตกชอบ เพราะเล่าเรื่องง่าย เข้ากับ theme “ประเทศเล็กสู้ประเทศใหญ่”
ในทางกลับกัน ถ้าจะเล่าว่า “ไทยปกป้องอธิปไตยของตนจากการอ้างสิทธิ์ที่กว้างเกินจริงของกัมพูชา” → ต้องอธิบายสนธิสัญญา, แผนที่ 1907, Annex I Map ซึ่งซับซ้อนและยากสำหรับคนอ่านทั่วไป
3. ผลพวงจากคดีปราสาทพระวิหาร (1962 และ 2013)
ศาลโลก (ICJ) ตัดสินให้กัมพูชาชนะในปี 1962 และ 2013 → ทำให้ “ภาพลักษณ์สากล” คือกัมพูชาเป็น ฝ่ายถูก ที่ไทย เคยยึดครอง
สื่อนอกจึงมีแนวโน้มอัตโนมัติที่จะ “เชื่อ” narrative ของกัมพูชาเวลามีความขัดแย้งชายแดน
4. การสื่อสารเชิงรุกของกัมพูชา
รัฐบาลกัมพูชามีทีม PR และ lobbying ที่เก่งมาก โดยเฉพาะกับสื่ออังกฤษ, ฝรั่งเศส, สิงคโปร์
เช่น CNA (สิงคโปร์) ช่วงหลังรายงานข่าวฝั่งกัมพูชาเกือบตลอด เพราะได้ข้อมูล, ภาพ, และการเข้าถึงนักการเมืองกัมพูชาง่ายกว่าฝั่งไทย
ฝั่งไทยเน้นการสื่อสารในประเทศ ไม่ค่อยทำ press briefing เป็นภาษาอังกฤษ หรือเผยแพร่ข้อมูลเชิงลึกให้สื่อนอก
5. มุมมองเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน
ไทยถูก framing ว่า “มีทหาร-รัฐประหาร-ใช้อาวุธหนัก”
กัมพูชาก็มีปัญหาประชาธิปไตยเช่นกัน แต่ในประเด็น ชายแดน กัมพูชาวางตัวเป็น “ผู้เสียหาย/เหยื่อ” ได้ดีกว่า → ทำให้สื่อนอกโฟกัสไทยเป็น ฝ่ายใช้กำลัง

Q: ทำไมไม่นำเสนอหลักฐานฝั่งไทยบ้าง
A: อันนี้คุณจับประเด็นได้ตรงมากครับ 🙌สิ่งที่ทำให้ข่าวต่างชาติ “ขาดดุล” คือ ฝั่งไทยไม่ค่อยเสนอหลักฐาน (evidence) แบบที่สื่อนอกเอาไปใช้ได้ง่าย ต่างจากกัมพูชาที่จัดเต็มเรื่องข้อมูลและภาพหลักฐานทุกครั้ง

🔎 ทำไม “หลักฐานไทย” ไม่ค่อยถูกเสนอ
ไทยไม่ปล่อยข้อมูลรวดเร็ว
เวลามีปะทะ ฝั่งกัมพูชาจะเชิญสื่อนอกลงพื้นที่ทันที มีภาพบ้านพัง ศพ พลเรือนเจ็บ → ส่งตรงถึง Reuters/AP
ฝั่งไทยมักปิดพื้นที่ อ้างเรื่อง “ความมั่นคง” → นักข่าวนอกเข้าไม่ถึง จึงไม่มีภาพ/ข้อมูลที่จะยืนยันฝั่งไทย
ขาดการสื่อสารเชิงรุก (Proactive Communication)
ไทยมีหลักฐาน เช่น แผนที่กรมแผนที่ทหาร, ภาพถ่ายดาวเทียม, พิกัด GPS, หรือเอกสารสนธิสัญญา
แต่สิ่งเหล่านี้มักเผยแพร่เฉพาะในภาษาไทย ผ่านแถลงการณ์ราชการที่สื่อนอกไม่เข้าใจ → สื่อต่างประเทศเลยเลือกใช้ข้อมูลจากฝั่งกัมพูชาที่ “พร้อมเป็นข่าว” มากกว่า
ความต่างของ Narrative
ฝั่งไทย: “นี่คือดินแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่พิพาท” → ฟังดูเป็นข้อกฎหมาย ต้องอธิบายยาว
ฝั่งกัมพูชา: “ไทยใช้กำลังยิงพลเรือน” → เล่าได้ง่าย กระแทกอารมณ์ → สื่อนอกเลือกเล่าแบบนี้เพราะเข้าถึงผู้อ่านได้ทันที
ปัญหาภาษาและเครือข่ายสื่อ
ไทยไม่ค่อยจัดแถลงข่าวอังกฤษอย่างเป็นระบบ
นักข่าวประจำในไทยส่วนใหญ่พึ่งนักข่าวท้องถิ่น (stringers) ที่ไม่ได้มี connection กับกองทัพไทย แต่กัมพูชาจะจัด connection ให้พร้อม
🗂 ตัวอย่าง “หลักฐานฝั่งไทย” ที่จริงมี แต่ไม่ถูกใช้
แผนที่กรมแผนที่ทหาร → ชี้ว่าจุดปะทะ (บ้านหนองยายแก้ว) อยู่ห่างจากพื้นที่พิพาท 3–4 กม.
ภาพถ่ายดาวเทียม → แสดงเส้นเขตแดนชัดว่าพื้นที่นั้นอยู่ในไทย
ทะเบียนบ้าน/ที่ดิน/รั้วหมู่บ้าน → หลักฐานการปกครองจริง (effective control)
บันทึกสนธิสัญญา 1907 และ demarcation markers → ชี้เส้นแบ่งเขตตามกฎหมาย
ปัญหาคือไทยไม่ค่อย “จัดแพ็กเกจ” หลักฐานเหล่านี้ให้สื่อโลกใช้ได้ง่าย (เช่น infographic ภาษาอังกฤษ, press kit)


สรุปสั้น ๆ:สื่อต่างชาติไม่ได้จงใจ “เมิน” ฝั่งไทย แต่เพราะ ไทยไม่ยื่นหลักฐานในรูปแบบที่สื่อนอกเข้าถึงได้เร็วและง่าย → เลยกลายเป็นว่าข่าวดูเข้าข้างกัมพูชา สื่อต่างชาติมักดูเหมือนเข้าข้างกัมพูชาเพราะ เข้าถึงข้อมูลและภาพจากกัมพูชามากกว่า
เรื่องเล่าแบบ “ประเทศเล็กถูกกดขี่” สื่อสารง่ายกว่ามุมของไทย
อิทธิพลคำตัดสินศาลโลก และ PR กัมพูชาที่เชิงรุกกว่าไทย
หรือ ที่เราตีความคือรัฐบาลไทยไม่กระตือรือร้นในการPRมากพอ บอกแต่คนไทย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่