เพราะใจคนยากแท้หยั่งถึง เรื่องเล่าของเบลเยี่ยมหมาวัดสู่หมาบ้าน

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เขียนขึ้นมาเพื่อระบายความรู้สึกของเราเองค่ะ อาจไม่มีสาระอะไร
วันนี้เป็นวันที่2 ที่น้องหมาของเราได้จากไป น้องหมาของเราชื่อเบลเยี่ยมนะคะ หรือเรียกสั้นๆว่าเบล เมื่อปี พ.ศ.2564 เราทำงานเป็นพนักงานราชการเฉพาะกิจที่หน่วยงาน หน่วยงานนึงและได้ออกไปทำงานนอกสถานที่บ้างในบางครั้ง วันนั้นเราได้ออกไปทำงานที่ต่างอำเภอซึ่ง เราก็ดันไปถูกชะตากับน้องหมาที่วัด ซึ่งก็คือเบลในปัจจุบัน ตอนนั้นตัวไม่อ้วนไม่ผอมสีขาวมีลายด่างสีน้ำตาลตาสีฟ้า หน้าตาหน้าเอ็นดูเราเลยบอกพี่ๆที่ไปด้วยกันว่า พี่คะหนูชอบน้องหมาตัวนั้นหนูเอากลับได้มั้ย พี่เขาบอกว่าได้และพาเราไปหาหลวงพ่อที่เป็นผู้ดูแลน้องหมาหลายตัวที่นั้น หลวงพ่ออนุญาตให้พาน้องกลับมาเลี้ยงแต่ว่าไม่มีอะไรใส่น้องกลับเลยได้บูชากล่องโฟมที่วัดมา50บาทเพื่อใส่น้องกลับ ตอนนั้นคิดแค่ว่าจะบอกแม่ยังไงดีเพราะแม่ไม่ให้เลี้ยง ก่อนหน้านี้เคยเลี้ยงมาก่อนทั้งหมาและแมวแต่หลังจากที่น้องๆจากไปก็ไม่เคยได้เลี้ยงอะไรอีกเลยนอกจากปลา พอพาน้องกลับมาถึงบ้านเรารีบพาน้องเบลไปอาบน้ำ หาเห็บและหมัดออกให้หมดเพราะเอาแอบแม่ไว้ในห้องนอน หลังจากนั้นแม่ก็มาเจอน้องเบลที่เดินไปเดินมาในบ้านแม่ก็บอกว่าไม่เลี้ยง แต่จนในที่สุดแม่ทุกคนที่บอกว่าไม่เลี้ยง ก็จะรักเหมือนลูก แม่เอาข้าวเอาน้ำหาเสื้อพาให้เบลทุกอย่าง เราก็ที่หน้าที่พาออกไปเล่น วิ่งเล่นเดินเล่นตามประสาหมาเด็ก เบลมีนิสัยเลยคาบรองเท้า ซึ่งครั้งแรกๆรวมถึงช่วงแรก เวลาที่เราออกไปเดินเล่นบ้านญาติข้างๆบ้านเบลก็จะตามมาเพื่อคาบรองเท้าเราไปไว้ที่บ้าน ซึ่งเราก็ไม่รู้เหตุผลของเบล ผ่านไปเข้าปีที่ 2 พ.ศ.2565-2567 เบลเริ่มโตเป็นสาว เราลืมบอกว่าน้องเป้นตัวเมียนะ เราขังน้องไว้ไม่ให้ไปไหนไกล กลัวท้องไม่มีพ่อและเลี้ยงไม่ไหว ไปไหนต้องจูงพาไปข้างนอกบ้านต้องเฝ้าตลอดแต่เวลาที่เบลทำธุระส่วนตัวเบลจะแอบไม่ให้เราเห็น ด้วยความที่เบลเป็นหมาที่เรียกชื่อเมื่อไหร่ก็จะหันหน้าและเดินเข้าไปทักทาย(ถ้าสนิท) และไม่เคยทำท่าทางดุใส่ใครมีเห่าบ้างเวลามีคนแปลกหน้ามาที่บ้าน แต่ถ้าคนแปลกหน้าไม่ได้แวะบ้านเราเบลก็จะไม่เห่า บอกให้นั่งก็ หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาผสมพันธุ์ เบลโตขึ้นแต่ไม่ไปเที่ยวไหนไกลนอกจากเดินไปปากซอย แม่เลยให้เลี้ยงนอกบ้าน เพราะบ้านหลังเล็กไม่มีรั้วไม่มีห้องแยก เบลเลยออกมาใช้ชีวิตนอกตัวบ้าน ทุกวันที่เรากลับจากที่ทำงานเบลจะวิ่งมารับเราตลอดไม่เคยไม่มีวันไหนที่ไม่มารับผ่านไป เข้าปี พ.ศ.2568 ลุงเราเสียชีวิต ปลายเดือนมกราคม 2568 บ้านลุงไกลจากบ้านเราคนละซอย พ่อ แม่ พี่ รวมถึงเราก็ไปที่งานศพเพราะจัดที่บ้านของลุง เบลก็ตามพี่สาวและหลายสาวเราไปที่งาน บ้านของลุงตอนนั้นเราก็กังวนไ่อยากให้เบลออกมาแบบนี้ สำหรับคนอาจจะไปไกลแต่สำหรับน้องหมาเราคิดว่ามันไกล เราแก้ปัญหานี้โดยการเรียกกลับบ้านทุกครั้ง เบลก็กลับบ้าน หลังจากเสร็จงานศพของลุง เบลเริ่มออกตามพี่สาวเราไปทุกครั้งเหมือนชอบที่ได้ออกไปเที่ยว หลังจากนั้นช่วงเดือนสิงหาคม 2568 เบลก็ได้สร้างความเดือดร้อยให้บ้านอื่นๆ โดยการไปคาบรองเท้าของชาวบ้านมาวัน สองวันละข้างมาไว้ที่บ้าน แต่ไม่ได้กัดเหมือนคาดมาเล่นซึ่งชาวบ้านที่โดนคาบรองเท้ามา ก็จะมาเอารองเท้าที่บ้านเราตอนเช้า มีอยู่วันนึงแม่ได้ยินใครไม่รู้ซึ่งเป็นชาวบ้านระแวงนั้นพูดว่าจะเอายาให้กิน ให้ตาย เราก็เริ่มกังวนและปรึกษาแม่ว่าจะทำยังไงดี คนอื่นๆบอกให้เอาตะกร้อใส่ให้เบล แม่เราก็บอกว่ามันไม่เคยใส่อาจจะกัดขาดด้วยความที่เราก็ขังเบลไว้ไม่ได้แล้ว เราเลยบอกแม่ว่าให้บอกชาวบ้านว่าถ้ามันคาดอีกแล้วหาไม่เจอหรืออะไรก็แล้วแต่เรายินดีซื้อคู่ใหม่ให้ ผ่านไป เปลคาบรองเท้ามาอีกสองสามครั้งหรืออาจมากกว่านั้น จนมาถึงวีนที่ 18 กันยายน 2568 เวลา 05.50 กว่าได้ยินเสียงแม่ พูดว่า เปิดประตูบ้านทำไม มีอะไร แม่ก็ไปดูและแม่ก็เรียกเรา บอกว่าหมา โดนยาแล้ว เรารีบลุกออกจากที่นอน มาดู เห็นเบลยืนตัวสั่นกระวนกระวาย สายตาของมันร้องขอให้เราาช่วยแม่กับเราช่วยกันเอาไข่ให้เบลกินเพราะเราเองก็ไม่รู้จะทำยังไง เรียกหลานให้ไปตามน้าที่เขาเคยช่วยเอารางจืดให้หมากินแล้วหายเพราะเคยโดยวางเหมือนกัน เราเอาไข่ให้เบลกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วกออกมา จนเบลเริ่มซักเราก็เสียสติไปแล้ว ร้องไห้ออกมา สุดท้ายน้าฝนรางจืดเสร็จ พี่สาวกับเราช่วยกันเอาให้เบลกินแต่เบลก็นิ่งไปแล้ว เบลหยุดหายใจ ... ระบบอวัยวะภายในก็คงควบคุมไม่ได้แล้ว สถานการณ์ตอนนั้นเกิดขึ้นเร็มมาก ต่อให้ขับรถพาไปหาหมอในเมืองก็คงไม่ทันด้วยซ้ำ เราเสียใจมาก เพราะก่อนเช้าวันที่เบลตายเราบอกให้เบลไปอาบน้ำเพราะพูดเล่นๆไม่คิดว่าเราจะต้องมาอาบน้ำให้เบลตอนที่ไม่มีลมหายใจแล้ว เรารู้สึกผิดที่ดูแลเบลไม่ดีเท่าที่ควร อยากขอโทษเบล ขอโทษที่ทำให้เบลไปสร้างปัญหาหรือสร้างความไม่พอใจกับใคร แต่เราหวังว่า จะไม่มีสุนัขหรือแมวตัวให้บนโลกถูกพลากความสดใสจากเขาไปด้วยการโดนวางยาพิษ เบลคงจจะเจ็บมากแต่ตอนนี้เบลไม่ต้องเจ็บแล้ว อยากให้เบลรู้ว่ารักนะ เสียใจที่ ไม่สามารถช่วยชีวิตสัตว์เลี้ยงที่น่ารักของตัวเองไว้ได้ เราทำใจไว้ตั้งแต่ตอนที่พาเค้ามาว่าสัตว์ทุกตัวต้องตายแต่เราไม่คิดว่าจะเร็ซและเป็นเหตุการณ์นี้ เราไม่อยากให้เบลเจ็บเลยแม้แต่ครั้งเดียว มาถึงตรงนี้ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ เราพิมพ์ไม่ออกแล้วเพราะยิ่งคิดถึง แววตาตาของเบลในเช้าวันนั้นมันยังวนอยู่ในหัวเราและเราก็อดที่จะร้องไห้ไม่ได้.เรื่องราวของเบลถึงจะเป็นช่วงเลาสั้นๆ 3 ปี 4 เดือน กว่าๆ มากมายและทำให้เราได้รู้จักความรักที่รักโดยไม่มีเหตุผล สุดท้ายนี้เราเข้าใจแม่แล้วว่าที่ไม่ให้เลี้ยงเพราะอะไร เพราะเราก็เคยเห็นสภานการณืนี้มาก่อนถึง 3 ครั้ง ต่อให้เรามองว่าหมาเราน่ารักไม่ร้ายไม่ดุกับใคร มันก็จะมีคนที่ไม่ได้คิดแบบเราเพราะ ลูกเราไม่ได้น่ารักกับทุกคนและมีคนรักก็มีคนเกลียดมันไม่เกินจริงเลย เราหวังว่าคนรักหมาจะไม่ทำผิดพลาดแบบเราที่ผปล่อยน้องเพระใจไม่แข็งพอ รักเบลนะ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่