ที่มา:-
https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9680000089447
โครงการ "บ้านนี้ไม่เทรวม" เตรียมนับหนึ่ง 1 ต.ค.นี้ ส่งเสริมให้คนกรุง คัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง เพื่อจัดการขยะอย่างยั่งยืนและลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด ด้วยแรงจูงใจ บ้านใดร่วมคัดแยกขยะได้ลดค่าธรรมเนียม ส่วนบ้านไหนไม่แยกต้องจ่ายแพงขึ้น 3 เท่า เผยวิธีวัดผลสำเร็จจากการสุ่มตรวจสอบหลักฐานของผู้ลงทะเบียน
นับถอยหลัง "บ้านนี้ไม่เทรวม" โครงการส่งเสริมให้ประชาชนและสถานประกอบการในกรุงเทพมหานคร คัดแยกขยะที่ต้นทางอย่างถูกต้อง เพื่อลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด ลดค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะ และผลักดันกรุงเทพฯ ไปสู่การเป็นเมืองที่ยั่งยืน
นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัจจุบันต้นทุนสิ่งแวดล้อมการจัดการขยะในกรุงเทพ ใช้งบประมาณ ตันละ 2,300บาท หรือปีละ 7,000 ล้านบาท คนกรุงเทพสร้างขยะวันละ 9,000 ตัน หรือ 3.3 ล้านตัน/ปี และ 50% เป็นขยะเปียกหรือเศษอาหารที่มักไปปนเปื้อนกับขยะอื่นๆ ทำให้ยากต่อการคัดแยกเพื่อนำกลับมารีไซเคิล
“ครึ่งหนึ่งของขยะที่เราทิ้งทั้งหมดคือขยะอาหารที่ผสมปนไปกับขยะรีไซเคิลที่ไม่ได้แยก จนทำให้ยากต่อการจัดการและส่งผลต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น กลิ่นจากขยะ ขยะในแม่น้ำ ขยะในทะเล และขยะในหลุมฝังกลม ที่เมื่อเกิดการทับถมมาก ๆ ในท้ายที่สุดก็จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกทำให้โลกร้อนขึ้นไปอีก”
ประชาชนที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการและแยกขยะอย่างถูกต้อง ควรเร่งดำเนินการ เพราะเหลือเวลาอีกแค่ 10 กว่าวันข้างหน้า กทม. จะเริ่มสุ่มตรวจและบังคับใช้มาตรการอย่างจริงจัง หากพบว่าบ้านเรือนใดไม่ปฏิบัติตาม จะถูกปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมเก็บขนขยะเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการแยกขยะและร่วมมือกันทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีประชาชนสมัครเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 251,455 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ก.ย. 68)
• หลักเกณฑ์และบทลงโทษ
บ้านเดี่ยว
-ที่มีขยะไม่เกิน 20 ลิตร หรือประมาณ 4 กิโลกรัมต่อวัน
-ถ้าแยกขยะอย่างถูกต้อง เสียค่าธรรมเนียมเพียง 20 บาทต่อเดือน (ค่าเก็บขยะ 10 บาทและค่ากำจัดขยะ 10 บาท)
-ถ้าไม่แยกขยะ ต้องจ่ายเต็มจำนวน 60 บาทต่อเดือน หรือ 720 บาทต่อปี (ค่าเก็บขยะ 30 บาทและค่ากำจัดขยะ 30 บาท)
คอนโด ร้านค้า และร้านอาหาร
-ที่มีปริมาณขยะระหว่าง 20 ลิตร – 1 ลูกบาศก์เมตร (ประมาณ 4–200 กิโลกรัม/วัน)
-ค่าธรรมเนียม 120 บาทต่อ 20 ลิตร (ค่าเก็บขยะ 60 บาท และค่ากำจัดขยะ 60 บาท)
หมู่บ้านหรือองค์กร
-ที่มีปริมาณขยะเกิน 1 ลูกบาศก์เมตร/วัน หรือเกิน 200 กิโลกรัม/วัน
-ค่าธรรมเนียม 8,000 บาทต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร (ค่าเก็บขยะ 3,250 บาท และค่ากำจัดขยะ 4,750 บาท)
-การแยกขยะจะช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด ทำให้ค่าธรรมเนียมลดลง
วิธีการลงทะเบียน แบ่งเป็น 2 รูปแบบ......
สามารถตามอ่านใน Link ได้ https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9680000089447
“บ้านนี้ไม่เทรวม” เริ่ม 1 ต.ค. นับถอยหลัง วัดใจคนกรุง !?
โครงการ "บ้านนี้ไม่เทรวม" เตรียมนับหนึ่ง 1 ต.ค.นี้ ส่งเสริมให้คนกรุง คัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง เพื่อจัดการขยะอย่างยั่งยืนและลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด ด้วยแรงจูงใจ บ้านใดร่วมคัดแยกขยะได้ลดค่าธรรมเนียม ส่วนบ้านไหนไม่แยกต้องจ่ายแพงขึ้น 3 เท่า เผยวิธีวัดผลสำเร็จจากการสุ่มตรวจสอบหลักฐานของผู้ลงทะเบียน
นับถอยหลัง "บ้านนี้ไม่เทรวม" โครงการส่งเสริมให้ประชาชนและสถานประกอบการในกรุงเทพมหานคร คัดแยกขยะที่ต้นทางอย่างถูกต้อง เพื่อลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด ลดค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะ และผลักดันกรุงเทพฯ ไปสู่การเป็นเมืองที่ยั่งยืน
นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัจจุบันต้นทุนสิ่งแวดล้อมการจัดการขยะในกรุงเทพ ใช้งบประมาณ ตันละ 2,300บาท หรือปีละ 7,000 ล้านบาท คนกรุงเทพสร้างขยะวันละ 9,000 ตัน หรือ 3.3 ล้านตัน/ปี และ 50% เป็นขยะเปียกหรือเศษอาหารที่มักไปปนเปื้อนกับขยะอื่นๆ ทำให้ยากต่อการคัดแยกเพื่อนำกลับมารีไซเคิล
“ครึ่งหนึ่งของขยะที่เราทิ้งทั้งหมดคือขยะอาหารที่ผสมปนไปกับขยะรีไซเคิลที่ไม่ได้แยก จนทำให้ยากต่อการจัดการและส่งผลต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น กลิ่นจากขยะ ขยะในแม่น้ำ ขยะในทะเล และขยะในหลุมฝังกลม ที่เมื่อเกิดการทับถมมาก ๆ ในท้ายที่สุดก็จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกทำให้โลกร้อนขึ้นไปอีก”
ประชาชนที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการและแยกขยะอย่างถูกต้อง ควรเร่งดำเนินการ เพราะเหลือเวลาอีกแค่ 10 กว่าวันข้างหน้า กทม. จะเริ่มสุ่มตรวจและบังคับใช้มาตรการอย่างจริงจัง หากพบว่าบ้านเรือนใดไม่ปฏิบัติตาม จะถูกปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมเก็บขนขยะเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการแยกขยะและร่วมมือกันทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีประชาชนสมัครเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 251,455 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ก.ย. 68)
• หลักเกณฑ์และบทลงโทษ
บ้านเดี่ยว
-ที่มีขยะไม่เกิน 20 ลิตร หรือประมาณ 4 กิโลกรัมต่อวัน
-ถ้าแยกขยะอย่างถูกต้อง เสียค่าธรรมเนียมเพียง 20 บาทต่อเดือน (ค่าเก็บขยะ 10 บาทและค่ากำจัดขยะ 10 บาท)
-ถ้าไม่แยกขยะ ต้องจ่ายเต็มจำนวน 60 บาทต่อเดือน หรือ 720 บาทต่อปี (ค่าเก็บขยะ 30 บาทและค่ากำจัดขยะ 30 บาท)
คอนโด ร้านค้า และร้านอาหาร
-ที่มีปริมาณขยะระหว่าง 20 ลิตร – 1 ลูกบาศก์เมตร (ประมาณ 4–200 กิโลกรัม/วัน)
-ค่าธรรมเนียม 120 บาทต่อ 20 ลิตร (ค่าเก็บขยะ 60 บาท และค่ากำจัดขยะ 60 บาท)
หมู่บ้านหรือองค์กร
-ที่มีปริมาณขยะเกิน 1 ลูกบาศก์เมตร/วัน หรือเกิน 200 กิโลกรัม/วัน
-ค่าธรรมเนียม 8,000 บาทต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร (ค่าเก็บขยะ 3,250 บาท และค่ากำจัดขยะ 4,750 บาท)
-การแยกขยะจะช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด ทำให้ค่าธรรมเนียมลดลง
วิธีการลงทะเบียน แบ่งเป็น 2 รูปแบบ......
สามารถตามอ่านใน Link ได้ https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9680000089447