ตามหัวข้อเลยครับ ตามช่วงอายุ ยกตัวอย่างเช่น
เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี ไม่สามารถอยู่นอกบ้านโดยลำพังหรือปราศจากความยินยอมของผู้ปกครองหลัง 19.00 โดยไม่มีเหตุอันควร
เด็กอายุมากกว่า 13 แต่ไม่ถึง 18 ปี ไม่สามารถอยู่นอกบ้านโดยลำพังหรือปราศจากความยินยอมของผู้ปกครองหลัง 22.00 โดยไม่มีเหตุอันควร
เรื่องการทำงาน : เด็กวัยนี้ก็ไม่ควรต้องทำงานยามวิกาลอยู่แล้ว
กิจกรรมอื่นๆ : ต้องมีหนังสือยินยอมผู้ปกครอง และ มีผู้รับผิดชอบชัดเจน เช่น ถ้าจะติวหนังสือ ต้องมีครู หรือ ผู้ใหญ่ ได้รับมอบหมายจาก ผปค และ อยู่ในสถานะผู้รับผิดชอบตามระบุ
นอกนั้น หากมีเด็ก ผู้เยาว์ อยู่นอกบ้านหลังเวลาเคอร์ฟิว ถือว่า ผู้ปกครองมีความผิด ตัวเด็กถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมนำตัวไปยังสถานีตำรวจได้เลย พ่อแม่ต้องถูกเรียกตัวมารับ พร้อมโทษปรับตามความหนักเบาและประวัติ
กรณีซ้ำซาก เอาผิดฐานละเลยทอดทิ้งเด็กในความดูแล หนักสุดก็ให้ พัฒนาสังคมเข้ามาช่สยเหลือซะ
ข้อมูลเพิ่มเติม
สหรัฐอเมริกา มีกฎหมายเคอร์ฟิวเด็กและเยาวชน แต่รายละเอียดและอายุแตกต่างกันไปตามรัฐและเมือง ตัวเด็กไม่มีความผิด เน้นทำประวัติ และผู้ปกครองมีโทษหากกรณีซ้ำซากและร่วมรับผิดหากเด็กก่ออาชญากรรมร้ายแรงฐานละเลย
ส่วนญี่ปุ่น ในบางเมืองและบางจังหวัด มีกฎหมายเคอร์ฟิวเด็กในลักษณะเดียวกัน แต่ผู้ปกครองไม่มีโทษตามกฎหมายจนกว่าเด็กจะไปก่ออาชญากรรม เช่นเดียวกับออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และอังกฤษ (ไม่มีกฎหมายระดับชาติ ใช้กฎเทศบัญญัติของเมือง ส่วนท้องถิ่น)
เกาหลีใต้ ไม่มีกฎหมายเคอร์ฟิวเด็กและเยาวชน แต่มีการกำหนดโซนนิ่งและพื้นที่รวมถึงเวลาการเปิดปิดร้านค้าให้บริการต่างๆชัดเจนเช่น ร้านเกมส์ คาเฟ่ มีกำหนดเวลาปิดที่เข้มงวด ส่วนสถานบันเทิง หากมีเด็กหรือเยาวชนเข้าไป โทษหนักถึงขั้นสั่งปิด ยึดใบอนุญาต ย่านราตรี จนท สามารถควบคุมตัวเด็กและเยาวชนไปสถานีตำรวจได้แม้ไม่มีการก่อคดี หากพบว่ามีความไม่เหมาะสม
คิดยังไงถ้าจะมีกฎหมายเคอร์ฟิวเด็กและเยาวชน
เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี ไม่สามารถอยู่นอกบ้านโดยลำพังหรือปราศจากความยินยอมของผู้ปกครองหลัง 19.00 โดยไม่มีเหตุอันควร
เด็กอายุมากกว่า 13 แต่ไม่ถึง 18 ปี ไม่สามารถอยู่นอกบ้านโดยลำพังหรือปราศจากความยินยอมของผู้ปกครองหลัง 22.00 โดยไม่มีเหตุอันควร
เรื่องการทำงาน : เด็กวัยนี้ก็ไม่ควรต้องทำงานยามวิกาลอยู่แล้ว
กิจกรรมอื่นๆ : ต้องมีหนังสือยินยอมผู้ปกครอง และ มีผู้รับผิดชอบชัดเจน เช่น ถ้าจะติวหนังสือ ต้องมีครู หรือ ผู้ใหญ่ ได้รับมอบหมายจาก ผปค และ อยู่ในสถานะผู้รับผิดชอบตามระบุ
นอกนั้น หากมีเด็ก ผู้เยาว์ อยู่นอกบ้านหลังเวลาเคอร์ฟิว ถือว่า ผู้ปกครองมีความผิด ตัวเด็กถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมนำตัวไปยังสถานีตำรวจได้เลย พ่อแม่ต้องถูกเรียกตัวมารับ พร้อมโทษปรับตามความหนักเบาและประวัติ
กรณีซ้ำซาก เอาผิดฐานละเลยทอดทิ้งเด็กในความดูแล หนักสุดก็ให้ พัฒนาสังคมเข้ามาช่สยเหลือซะ
ข้อมูลเพิ่มเติม
สหรัฐอเมริกา มีกฎหมายเคอร์ฟิวเด็กและเยาวชน แต่รายละเอียดและอายุแตกต่างกันไปตามรัฐและเมือง ตัวเด็กไม่มีความผิด เน้นทำประวัติ และผู้ปกครองมีโทษหากกรณีซ้ำซากและร่วมรับผิดหากเด็กก่ออาชญากรรมร้ายแรงฐานละเลย
ส่วนญี่ปุ่น ในบางเมืองและบางจังหวัด มีกฎหมายเคอร์ฟิวเด็กในลักษณะเดียวกัน แต่ผู้ปกครองไม่มีโทษตามกฎหมายจนกว่าเด็กจะไปก่ออาชญากรรม เช่นเดียวกับออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และอังกฤษ (ไม่มีกฎหมายระดับชาติ ใช้กฎเทศบัญญัติของเมือง ส่วนท้องถิ่น)
เกาหลีใต้ ไม่มีกฎหมายเคอร์ฟิวเด็กและเยาวชน แต่มีการกำหนดโซนนิ่งและพื้นที่รวมถึงเวลาการเปิดปิดร้านค้าให้บริการต่างๆชัดเจนเช่น ร้านเกมส์ คาเฟ่ มีกำหนดเวลาปิดที่เข้มงวด ส่วนสถานบันเทิง หากมีเด็กหรือเยาวชนเข้าไป โทษหนักถึงขั้นสั่งปิด ยึดใบอนุญาต ย่านราตรี จนท สามารถควบคุมตัวเด็กและเยาวชนไปสถานีตำรวจได้แม้ไม่มีการก่อคดี หากพบว่ามีความไม่เหมาะสม