ประเด็นสำคัญ: Meta Connect 2025 Opening Keynote

กระทู้สนทนา
สรุปประเด็นสำคัญจากงาน Meta Connect 2025 Opening Keynote ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การผสานรวมปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับฮาร์ดแวร์สำหรับผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งแว่นตาอัจฉริยะและเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) ประเด็นสำคัญที่สุดคือการประกาศวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการสร้าง "สุดยอดปัญญาประดิษฐ์ส่วนบุคคล" (Personal Superintelligence) ผ่านแว่นตา ซึ่งเป็นรูปแบบอุปกรณ์ที่เหมาะสมที่สุดในการเข้าถึง AI ได้ตลอดเวลาโดยไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน

วิสัยทัศน์หลัก: แว่นตา AI และการปรากฏตน (AI Glasses and Presence)
Mark Zuckerberg ได้วางรากฐานของงานนำเสนอด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการสร้างอุปกรณ์ที่สามารถส่งมอบ "สุดยอดปัญญาประดิษฐ์ส่วนบุคคล" และ "ความรู้สึกของการปรากฏตน" (Feeling of Presence) ผ่านโฮโลแกรมที่สมจริง

แว่นตาคือรูปแบบอุปกรณ์ในอุดมคติ: แว่นตาถูกระบุว่าเป็นรูปแบบอุปกรณ์ (Form Factor) ที่ดีที่สุดสำหรับ AI ส่วนบุคคล เนื่องจากช่วยให้ผู้ใช้ยังคงมีปฏิสัมพันธ์กับโลกรอบตัวได้ ในขณะที่สามารถเข้าถึงความสามารถของ AI ได้ตลอดเวลา

ความสามารถหลัก: AI ในแว่นตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ผู้ใช้เห็น ได้ยินสิ่งที่ผู้ใช้ได้ยิน และสนทนาโต้ตอบได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาไปสู่การสร้างสิ่งที่ AI ต้องการได้แบบเรียลไทม์

ค่านิยมหลักในการออกแบบแว่นตา:
ต้องเป็นแว่นตาที่ยอดเยี่ยมเป็นอันดับแรก: ก่อนจะพิจารณาด้านเทคโนโลยี แว่นตาต้องมีการออกแบบที่ดี สวมใส่สบาย และมีความสวยงาม

เทคโนโลยีต้องไม่เข้ามาเป็นอุปสรรค: แว่นตา AI ควรช่วยฟื้นฟู "ความรู้สึกของการปรากฏตน" ที่อาจสูญเสียไปกับการใช้สมาร์ทโฟน โดยเทคโนโลยีควรจะปรากฏเมื่อต้องการใช้ และหายไปเมื่อไม่ต้องการ

ให้ความสำคัญกับ Superintelligence อย่างจริงจัง: AI ควรถูกออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพให้กับผู้คน ไม่ใช่เป็นเพียงระบบอัตโนมัติในศูนย์ข้อมูล แว่นตาจึงถูกออกแบบมาเพื่อรองรับเซ็นเซอร์และความสามารถใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Meta ได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์แว่นตาอัจฉริยะรุ่นใหม่ 3 รุ่น ได้แก่

   
1.Ray-Ban Meta (Gen 2)
แว่นตารุ่นต่อยอดที่ปรับปรุงคุณสมบัติหลักให้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังคงดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Ray-Ban ไว้

แบตเตอรี่
ใช้งานได้ยาวนานขึ้นสองเท่า สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน

การบันทึกวิดีโอ
ความละเอียด 3K ซึ่งสูงกว่ารุ่นก่อนหน้าสองเท่า ให้วิดีโอที่คมชัดและนุ่มนวลขึ้น

คุณสมบัติใหม่
Conversation Focus: ฟีเจอร์ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ สามารถขยายเสียงของคู่สนทนาในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังรบกวนได้ จะพร้อมใช้งานผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์สำหรับแว่นตา Ray-Ban Meta ทุกรุ่น

Live AI
ปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงานให้ดีขึ้น ปัจจุบันสามารถใช้งาน Live AI ต่อเนื่องได้ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยมีเป้าหมายในอนาคตให้ทำงานได้ตลอดเวลา

ดีไซน์และสไตล์
เพิ่มสีสันใหม่ๆ และรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น "Transparent Matte" สองสี

ราคา
เริ่มต้นที่ $379

2. Oakley Meta Vanguard
แว่นตาที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานด้านกีฬาและสมรรถนะสูงโดยเฉพาะ  ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือกับ Oakley แบรนด์ที่เป็นสัญลักษณ์ของวงการกีฬา

แบตเตอรี่
ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น สามารถใช้วิ่งมาราธอนได้ 2 รอบต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

กล้อง
ตำแหน่งกล้องอยู่ตรงกลางเพื่อมุมมองที่สมบูรณ์แบบ มีมุมมองกว้างถึง 122 องศา พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว (Video Stabilization) ความละเอียด 3K

ลำโพง
เป็นหนึ่งในลำโพงที่ทรงพลังที่สุดที่ Meta เคยผลิต ดังขึ้น 6 เดซิเบล พร้อมระบบลดเสียงลมขั้นสูง

โหมดการถ่ายภาพ
เพิ่มโหมด Slow-motion และ Hyperlapse

การกันน้ำ
มาตรฐาน IP67 สามารถทนต่อการเปียกน้ำได้ เช่น การเล่นเซิร์ฟ

เลนส์
สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ Oakley PRIZM Shield ได้

ความร่วมมือ
- Garmin: ฟีเจอร์ Auto Captions จะเริ่มบันทึกวิดีโออัตโนมัติเมื่อผู้ใช้ถึงความเร็วหรือระยะทางที่กำหนด
- Strava: การเชื่อมต่อกับชุมชนนักกีฬา

ราคา
$499
วันวางจำหน่าย
เริ่มจัดส่งวันที่ 21 ตุลาคม
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

3. ผลิตภัณฑ์เรือธง Meta Ray-Ban Display
ผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดของงาน คือแว่นตา AI รุ่นแรกที่มีหน้าจอความละเอียดสูงในตัว พร้อมด้วย Meta Neural Band ซึ่งเป็นส่วนต่อประสานกับระบบประสาท (Neural Interface) สำหรับการควบคุมแบบไร้เสียงผ่านการตรวจจับการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อขนาดเล็ก

จอแสดงผล:
เป็นจอแสดงผลความละเอียดสูง (42 พิกเซลต่อองศา) ซึ่งคมชัดกว่า VR Headset ทั่วไป ความสว่างสูงสุด 5,000 nits ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง จอภาพจะปรากฏในตาข้างหนึ่งและเยื้องไปด้านข้างเล็กน้อยเพื่อไม่ให้บดบังการมองเห็น และจะหายไปเมื่อไม่ได้ใช้งาน

ดีไซน์: มาใน 2 สี คือ ดำและทราย (Sand) พร้อมเลนส์ Transition ที่จะเปลี่ยนเป็นแว่นกันแดดเมื่ออยู่กลางแจ้ง

Meta Neural Band
เทคโนโลยี: เป็น "ส่วนต่อประสานกับระบบประสาทกระแสหลักรุ่นแรกของโลก" ที่ตรวจจับสัญญาณไฟฟ้าจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อขนาดเล็ก เพื่อแปลงเป็นคำสั่งควบคุมแว่นตา

การใช้งาน: ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมแว่นตาได้แบบไร้เสียงและแทบจะไม่มีการเคลื่อนไหวที่สังเกตได้ เช่น การพิมพ์ข้อความ การรับสาย หรือการสั่งงาน AI ในอนาคต Live AI จะสามารถทำงานร่วมกับแว่นตาและ Neural Band เพื่อช่วยจดจำและติดตามประเด็นต่างๆ จากบทสนทนาประจำวันได้

การส่งข้อความ: สามารถพิมพ์ข้อความได้โดยตรงจาก Neural Band

คำบรรยายสด (Live Subtitles): สามารถแสดงคำบรรยายของสิ่งที่คู่สนทนาพูดได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงการแปลภาษา

ช่องมองภาพ (Viewfinder): สามารถดูภาพจากกล้องก่อนถ่ายหรือแชร์ได้

แบตเตอรี่: ใช้งานได้ 18 ชั่วโมง และกันน้ำได้

ราคาและวันวางจำหน่าย
ราคา: $799 สำหรับชุดแว่นตาและ Neural Band
วันวางจำหน่าย: ซื้อและทดลองได้ที่ร้านค้าตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ในส่วนของ Metaverse บริษัทได้ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในโครงสร้างพื้นฐานของ Metaverse เพื่อเร่งการเติบโตของระบบนิเวศ โดยมีการเปิดตัว New Meta Horizon Home ซึ่งสวยงามขึ้น เปิดตัว Meta Horizon Engine ซึ่งเป็นเอนจิ้นที่สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดเพื่อทดแทน Unity โดยมุ่งเน้นการสร้างโลกเสมือนที่สมจริง โหลดเร็วขึ้น และรองรับผู้ใช้งานพร้อมกันได้มากขึ้น ควบคู่ไปกับ Meta Horizon Studio และเครื่องมือ AI ที่จะช่วยให้การสร้างคอนเทนต์ 3D เป็นเรื่องง่ายเพียงแค่ใช้คำสั่งข้อความ

New Meta Horizon Home

Meta Horizon Engine: เอนจิ้นใหม่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อแทนที่ Unity โดยมีประสิทธิภาพดีขึ้นอย่างมาก:
ความเร็ว: โหลดและเรนเดอร์โลกใหม่ได้เร็วขึ้น 4 เท่า (เทียบเท่าการโหลดหน้าเว็บ)
กราฟิก: คุณภาพกราฟิกดีขึ้น และรองรับฟิสิกส์และการโต้ตอบที่สมจริง
การรองรับผู้ใช้: รองรับผู้คนในโลกเดียวกันได้มากขึ้น 5 เท่า

Meta Horizon Studio: ชุดเครื่องมือที่จะมี AI Assistant ช่วยสร้างโลกเสมือนจริง โดยใช้เครื่องมือสร้างสรรค์ต่างๆ ผ่านคำสั่งข้อความง่ายๆ

Hyperscape: เทคโนโลยีที่สามารถสแกนห้องจริงและเปลี่ยนให้เป็นโลกเสมือนที่สมจริงได้ในเวลาไม่กี่นาที

และ 3 เกม VR ระดับ Big ที่ถูกพูดถึงและจะได้เล่นกันในปีนี้คือ Marvel Dead Pool, Star Wars: Beyond Victory และ Demeo x Dungeons & Dragons: Battlemarked

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัว Horizon TV ซึ่งเป็นศูนย์รวมความบันเทิงใน VR โดยมีความร่วมมือที่สำคัญกับ Disney+ และ Universal Studios เพื่อนำเสนอคอนเทนต์ 3D ที่สมจริงยิ่งขึ้น

ความร่วมมือด้านคอนเทนต์:
Disney+: จะนำคอนเทนต์จาก Disney+, Hulu และ ESPN มาสู่ Horizon TV

Universal Studios: ร่วมมือในการนำภาพยนตร์สยองขวัญมาสร้างประสบการณ์ 3D ที่เอฟเฟกต์จะเข้ามาอยู่ในพื้นที่ของผู้ใช้
เทคโนโลยี: รองรับ Dolby Atmos และ Dolby Vision เพื่อประสบการณ์ภาพและเสียงที่สมจริง


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
James Cameron ผู้กำกับภาพยนตร์ระดับตำนาน ได้ขึ้นเวทีเพื่อแบ่งปันวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของภาพยนตร์ 3D และเทคโนโลยี VR การปรากฏตัวของ Cameron ได้ตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์ในการผลักดันคอนเทนต์ 3D คุณภาพระดับโรงภาพยนตร์ให้เข้าถึงได้ผ่านอุปกรณ์ VR

VR คืออนาคตของ 3D: Cameron กล่าวว่าชุดหูฟัง VR ในปัจจุบัน เช่น Quest 3 สามารถมอบประสบการณ์การรับชม 3D ที่เหนือกว่าโรงภาพยนตร์ส่วนใหญ่ได้แล้ว โดยเฉพาะในด้านความสว่าง (Brightness) ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อช่วงไดนามิกและปริภูมิสีของภาพ เขาเปรียบเทียบความสว่างของ Quest 3 ว่าเทียบเท่า 30-foot lamberts ในขณะที่โรงภาพยนตร์ส่วนใหญ่อยู่ที่ 3-foot lamberts

วิสัยทัศน์ "Stereo Ubiquity Future": อนาคตที่คอนเทนต์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นข่าว ความบันเทิง กีฬา จะถูกนำเสนอในรูปแบบสามมิติเป็นมาตรฐาน

เป้าหมายความร่วมมือ: Cameron และบริษัท Lightstorm Entertainment ของเขา กำลังทำงานร่วมกับ Meta เพื่อพัฒนาเครื่องมือและระบบกล้อง 3D ที่ใช้งานง่ายและชาญฉลาด เพื่อให้ผู้สร้างภาพยนตร์และรายการทีวีสามารถผลิตคอนเทนต์ 3D คุณภาพสูงได้ในวงกว้างและในต้นทุนที่ลดลง เพื่อป้อนเข้าสู่ระบบนิเวศของ VR ที่กำลังเติบโต
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่