สัญญาณเตือน! สภาพัฒน์เผย "คนจน" ในไทยพุ่งแตะ 3.43 ล้านคน
.
.
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยรายงานสถานการณ์ความยากจนและความเหลื่อมล้ำปี 67 พบจำนวนคนจนในไทย เพิ่มขึ้นเป็น 3.43 ล้านคน หรือ 4.89% ของประชากรทั้งประเทศ เพิ่มขึ้นจากปี 66 ที่อยู่ที่ 3.41% โดย 45% คนจน อยู่ในภาคเกษตร จากความเสี่ยงด้านผลผลิต และราคาที่ตกต่ำอย่างหนัก อย่างข้าวเปลือกเจ้า วันนี้เหลือกิโลกรัมละ 5 บาทกว่าเท่านั้น
.
และยังพบว่า มีมากถึง 8.7 แสนคน อยู่ในกลุ่มจนมาก มีรายได้ต่ำกว่า ‘เส้นยากจน’ ที่กำหนดไว้ที่ 3,078 บาทถึง 20% หรือ มีรายได้เฉลี่ยแค่ 615 บาทต่อคนต่อเดือนเท่านั้น ขณะที่กลุ่มคนจนน้อย หรือ กลุ่มคนที่มีระดับรายจ่ายต่ำกว่าเส้นความยากจนไม่เกิน 20% เพิ่มขึ้นเป็น 2.55 ล้านคน
.
ละภาคใต้มีสัดส่วนคนจนสูงที่สุดของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่ประสบปัญหาความยากจนเรื้อรังอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มขึ้นของคนจนในปี 67 ถือเป็นสัญญาณเตือน!! ที่ควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจโลกและในประเทศเผชิญกับความไม่แน่นอนสูง
.
สภาพัฒน์เน้นย้ำว่า รัฐบาลควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแนะให้ลดขนาดการใช้งบประมาณในโครงการขนาดใหญ่ที่ไม่เข้าเป้าหมาย ปรับปรุง หรือ ยุติโครงการที่ไม่คุ้มค่า และนำงบดังกล่าวมาออกแบบนโยบาย แก้ไขความยากจนให้ตรงจุดมากขึ้น
.
.
พริษฐ์ ขู่ ใช้กลไกสภาฯล้มรบ. หากภท.เบี้ยวสัญญา ชี้ก๊วนการเมืองแห่ซบพรึบ ยิ่งย้ำว่าต้องแก้รธน.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5371916
.
‘พริษฐ์’ ขู่ ถ้ามีการเบี้ยวสัญญา จะใช้เสียงล้ม รบ. หลังถูกถามก๊วนการเมืองแห่ซบ ‘เสี่ยหนู’ ผิด MOA หรือไม่ ปัดตอบว่าที่ รมต.ยุติธรรม เตรียมเช็กบิลมือทำคดี ‘เขากระโดง-ฮั้ว ส.ว.’ บอกใครมีข้อมูลแจ้ง ปชน.มาได้
.
เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่รัฐสภา นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีมีกลุ่มการเมืองย้ายเข้าไปยังพรรคภูมิใจไทยเพิ่มเติม ซึ่งส่งผลทำให้เสียง ส.ส.เพิ่ม จนอาจขัดต่อข้อตกลงทางการเมือง ระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ว่า ใน MOA มีเนื้อหาที่ปรากฏต่อสาธารณะแล้ว และขอย้ำอีกรอบว่า หากมีการกระทำอะไรที่ขัดต่อ MOA จะดำเนินการตามที่หัวหน้าพรรคประชาชนได้ประกาศไว้ หากมีกรณีที่มีการเบี้ยวสัญญา ตามที่ข้อตกลงที่ระบุว่าห้ามกระทำการใด ที่จะเปลี่ยนแปลงสถานะรัฐบาลเสียงข้างน้อย เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก แต่ก็เข้าใจว่ามีบางคนตั้งคำถามว่า อาจจะมี ส.ส.พรรคอื่น ที่ไม่ได้ร่วมเป็นรัฐบาล ย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งพรรคประชาชนจับตาอย่างใกล้ชิด
.
“
หากถึงจุดนั้น ก็จะดำเนินการตามมาตรการที่เรามี ในการควบคุมการรักษาสัญญา แต่คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันยิ่งตอกย้ำว่าทำไมถึงต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะกลายเป็นว่ามีรัฐธรรมนูญที่เปิดช่องให้ ส.ส.คนหนึ่ง วันนึงไปขอคะแนนเสียงประชาชนในนามพรรคหนึ่ง นโยบายของพรรคหนึ่ง แต่พอเข้ามาแล้ว อยู่ดีๆ ก็เดินไปสมัครกับอีกพรรคนึง หรือไปสนับสนุนอีกพรรคนึง ทั้งที่ตัวเองยังคงเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่ ในประเด็นนี้ ยิ่งตอกย้ำว่าควรที่จะรวมเข้าไปด้วย ตอนที่มีการพิจารณาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” นาย
พริษฐ์กล่าว
.
เมื่อถามว่า แม้จะจับตาอยู่ แต่หากพรรคภูมิใจไทยบอกว่าไม่ได้ดึงเขามาหาเอง จะเข้าข่ายผิดสัญญาหรือไม่ นาย
พริษฐ์ระบุว่า สัญญาเขียนชัดว่า ถ้ามีความพยายามจะแปลงจากรัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นเสียงข้างมาก พรรคประชาชนจะดำเนินการใช้กลไกของรัฐสภา รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อล้มรัฐบาลเสียงข้างน้อย หากไม่รักษาสัญญา ซึ่งหากใครติดตามอย่างใกล้ชิดก็จะรู้ เพราะหากรอให้เกิดเหตุแล้วจะไม่ทันการณ์
.
ดังนั้น การควบคุมรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยการใช้เสียงฝ่ายค้านที่เกินกึ่งหนึ่งในขณะนี้ หากรอให้เขาดำเนินการเสร็จ กลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก การอภิปรายไม่ไว้วางใจไป ก็ไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ ตามหลักคณิตศาสตร์ จึงติดตามดูว่า ความเสี่ยงจะนำไปสู่จุดนั้นหรือไม่
.
เมื่อถามว่า มีรายงานว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เตรียมที่จะเช็กบิล คดีเขากระโดง กับคดีฮั้ว ส.ว. กังวลหรือไม่ นาย
พริษฐ์กล่าวว่า เป็น 2 ประเด็น ที่จะรวมอยู่ในการอภิปรายคำแถลงนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว
.
ส่วนในเรื่องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่จะมีการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งมา ทางพรรคประชาชนให้ความเห็นไปแล้วว่า สังคมจับตาดูว่าใครจะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กำกับดูแลดีเอสไอ และคดีฟอกเงินของผู้สมัคร ส.ว.อยู่
.
จากเดิมที่จะปรากฏข่าวว่า เป็นตำรวจคนหนึ่งที่เคยอยู่ในทีมของ ส.ว. ที่เป็นอดีตตำรวจ และเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาในคดี พรรคประชาชนเคยทักท้วงไปแล้วว่า หากทำแบบนี้ สังคมจะมีการตั้งคำถามว่ามีการแต่งตั้งบุคคลดังกล่าว เพื่อไปแทรกแซงคดีหรือไม่ จึงต้องการให้มีการทบทวน
.
“
ก็เข้าใจว่า มีการทบทวนไปรอบหนึ่ง แต่กลายเป็นว่า ทบทวนไปแล้ว ก็ยังคงเป็นอยู่ ชื่อใหม่ก็จริง แต่ดูสถานะที่มีความเสี่ยง เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนเหมือนเดิม หากมีการทบทวนอีกรอบหนึ่ง คิดว่าจะทำให้หลุดพ้นจากข้อครหานี้ได้ดียิ่งขึ้น” นาย
พริษฐ์กล่าว
.
นาย
พริษฐ์กล่าวต่อว่า หากทูลเกล้าฯ ไปแล้ว ก็ยิ่งเป็นการเปิดช่องให้สังคมย่อมตั้งคำถามตรงนี้ได้ ในฐานะฝ่ายค้าน ก็จะตรวจสอบ หากมีการใช้อำนาจ เพื่อแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมโดยมิชอบ พรรคประชาชนมีกลไกที่สามารถดำเนินการได้ ย้ำว่า กลไกในการตรวจสอบของสภา รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ สามารถนำมาใช้ได้ ไม่ใช่เพียงเฉพาะกรณีการเบี้ยวสัญญา MOA แต่ยังรวมถึงการใช้อำนาจโดยมิชอบ ก็เข้าเงื่อนไขเช่นกัน
.
เมื่อถามถึงรายงานข่าวว่ามีการข่มขู่ทั้งการรถไฟ อธิบดีกรมที่ดิน รวมถึงคนที่ทำคดีเขากระโดง และคดีฮั้ว ส.ว. นาย
พริษฐ์กล่าวว่า หากประชาชนมีข้อมูล อย่างเมื่อวานนี้ ก็มีผู้ที่ยื่นข้อมูลให้กับนาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชนไปแล้ว มีคณะรับผิดชอบติดตามตรวจสอบ 2 เรื่องนี้อยู่ หากประชาชนมีข้อมูลเพิ่มเติม สามารถส่งให้ยังพรรคประชาชนได้ ยืนยันว่าทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างตรงไปตรงมา หากมีหลักฐานเรื่องการใช้อำนาจโดยมิชอบ ก็จะดำเนินการตามขั้นตอน
.
.
กองทัพภาคที่ 2 พบทุ่นระเบิด PMN-2 ของเขมรรวม 8 ลูก ที่ช่องโดนเอาว์
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9941348
.
กองทัพภาคที่ 2 พบทุ่นระเบิด PMN-2 ของเขมรรวม 8 ลูก ที่ช่องโดนเอาว์ ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.ศรีสะเกษ เป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน
.
เมื่อวันที่ 17 ก.ย.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.
วินธัย สุวารี โฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลจากกองทัพภาคที่ 2 ว่า เวลา 08.00-15.00 น. ทหารร้อย ร.132 โดย มว.ปล.ที่ 2 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ทำการสำรวจพื้นที่บริเวณช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.ศรีสะเกษ
.
ก่อนตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน จึงเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บไปเพื่อรอการทำลายต่อไป
.
.
เปิดไทม์ไลน์ เหตุการณ์เขมรชุมนุมประท้วง บ้านหนองหญ้าแก้ว ล่าสุดพบเจ้าหน้าที่ไทย
.
ทบ.แจงเหตุการณ์มวลชนกัมพูชาชุมนุมประท้วง บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว
.
วันนี้ (17 ก.ย. 2568) เวลา 15.40 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังบูรพา กรณีฝ่ายกัมพูชาได้นำประชาชนและมวลชนประมาณ 200 คน มาชุมนุมประท้วงการปฏิบัติของฝ่ายไทย ระหว่างการวางเครื่องกีดขวางและลวดหีบเพลงเสริมความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว
.
ฝ่ายไทยได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมและดำเนินการวางลวดหีบเพลงตามแผนการปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม กลุ่มมวลชนกัมพูชายังคงแสดงการประท้วงอย่างต่อเนื่อง
.
ต่อมา เวลา 16.20 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางควบคุมสถานการณ์ ส่งผลให้กลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนถอยห่างออกจากแนวปะทะ เนื่องจากผลของแก๊สน้ำตา
.
จนถึงเวลาประมาณ 17.00 น. ฝ่ายไทยยังคงดำเนินการเสริมความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยการวางแนวลวดหนามเพิ่มเติมและใช้ยางรถยนต์ประกอบ รวมถึงควบคุมการประท้วงโดยใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และเครื่อง LRAD ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาเริ่มถอยออกจากพื้นที่ และมีการตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ไทยเป็นระยะ รวมทั้งมีการใช้ความรุนแรงโดยการขว้างปาท่อนไม้ ก้อนหิน และยิงหนังสติ๊กมายังเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย จนมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
.
ทั้งนี้มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย (หัวแตก) จากการโดนก้อนหินจากกัมพูชา
JJNY : 5in1 "คนจน"ในไทยพุ่ง│พริษฐ์ขู่ใช้กลไกสภาฯ│พบทุ่น PMN-2 ของเขมร│เปิดไทม์ไลน์เขมรประท้วง│เมียคู่แค้นปูตินชี้ตรงกัน
.
และยังพบว่า มีมากถึง 8.7 แสนคน อยู่ในกลุ่มจนมาก มีรายได้ต่ำกว่า ‘เส้นยากจน’ ที่กำหนดไว้ที่ 3,078 บาทถึง 20% หรือ มีรายได้เฉลี่ยแค่ 615 บาทต่อคนต่อเดือนเท่านั้น ขณะที่กลุ่มคนจนน้อย หรือ กลุ่มคนที่มีระดับรายจ่ายต่ำกว่าเส้นความยากจนไม่เกิน 20% เพิ่มขึ้นเป็น 2.55 ล้านคน
.
ละภาคใต้มีสัดส่วนคนจนสูงที่สุดของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่ประสบปัญหาความยากจนเรื้อรังอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มขึ้นของคนจนในปี 67 ถือเป็นสัญญาณเตือน!! ที่ควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจโลกและในประเทศเผชิญกับความไม่แน่นอนสูง
.
สภาพัฒน์เน้นย้ำว่า รัฐบาลควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแนะให้ลดขนาดการใช้งบประมาณในโครงการขนาดใหญ่ที่ไม่เข้าเป้าหมาย ปรับปรุง หรือ ยุติโครงการที่ไม่คุ้มค่า และนำงบดังกล่าวมาออกแบบนโยบาย แก้ไขความยากจนให้ตรงจุดมากขึ้น
.
พริษฐ์ ขู่ ใช้กลไกสภาฯล้มรบ. หากภท.เบี้ยวสัญญา ชี้ก๊วนการเมืองแห่ซบพรึบ ยิ่งย้ำว่าต้องแก้รธน.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5371916
.
‘พริษฐ์’ ขู่ ถ้ามีการเบี้ยวสัญญา จะใช้เสียงล้ม รบ. หลังถูกถามก๊วนการเมืองแห่ซบ ‘เสี่ยหนู’ ผิด MOA หรือไม่ ปัดตอบว่าที่ รมต.ยุติธรรม เตรียมเช็กบิลมือทำคดี ‘เขากระโดง-ฮั้ว ส.ว.’ บอกใครมีข้อมูลแจ้ง ปชน.มาได้
.
เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีมีกลุ่มการเมืองย้ายเข้าไปยังพรรคภูมิใจไทยเพิ่มเติม ซึ่งส่งผลทำให้เสียง ส.ส.เพิ่ม จนอาจขัดต่อข้อตกลงทางการเมือง ระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ว่า ใน MOA มีเนื้อหาที่ปรากฏต่อสาธารณะแล้ว และขอย้ำอีกรอบว่า หากมีการกระทำอะไรที่ขัดต่อ MOA จะดำเนินการตามที่หัวหน้าพรรคประชาชนได้ประกาศไว้ หากมีกรณีที่มีการเบี้ยวสัญญา ตามที่ข้อตกลงที่ระบุว่าห้ามกระทำการใด ที่จะเปลี่ยนแปลงสถานะรัฐบาลเสียงข้างน้อย เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก แต่ก็เข้าใจว่ามีบางคนตั้งคำถามว่า อาจจะมี ส.ส.พรรคอื่น ที่ไม่ได้ร่วมเป็นรัฐบาล ย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งพรรคประชาชนจับตาอย่างใกล้ชิด
.
“หากถึงจุดนั้น ก็จะดำเนินการตามมาตรการที่เรามี ในการควบคุมการรักษาสัญญา แต่คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันยิ่งตอกย้ำว่าทำไมถึงต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะกลายเป็นว่ามีรัฐธรรมนูญที่เปิดช่องให้ ส.ส.คนหนึ่ง วันนึงไปขอคะแนนเสียงประชาชนในนามพรรคหนึ่ง นโยบายของพรรคหนึ่ง แต่พอเข้ามาแล้ว อยู่ดีๆ ก็เดินไปสมัครกับอีกพรรคนึง หรือไปสนับสนุนอีกพรรคนึง ทั้งที่ตัวเองยังคงเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่ ในประเด็นนี้ ยิ่งตอกย้ำว่าควรที่จะรวมเข้าไปด้วย ตอนที่มีการพิจารณาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” นายพริษฐ์กล่าว
.
เมื่อถามว่า แม้จะจับตาอยู่ แต่หากพรรคภูมิใจไทยบอกว่าไม่ได้ดึงเขามาหาเอง จะเข้าข่ายผิดสัญญาหรือไม่ นายพริษฐ์ระบุว่า สัญญาเขียนชัดว่า ถ้ามีความพยายามจะแปลงจากรัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นเสียงข้างมาก พรรคประชาชนจะดำเนินการใช้กลไกของรัฐสภา รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อล้มรัฐบาลเสียงข้างน้อย หากไม่รักษาสัญญา ซึ่งหากใครติดตามอย่างใกล้ชิดก็จะรู้ เพราะหากรอให้เกิดเหตุแล้วจะไม่ทันการณ์
.
ดังนั้น การควบคุมรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยการใช้เสียงฝ่ายค้านที่เกินกึ่งหนึ่งในขณะนี้ หากรอให้เขาดำเนินการเสร็จ กลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก การอภิปรายไม่ไว้วางใจไป ก็ไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ ตามหลักคณิตศาสตร์ จึงติดตามดูว่า ความเสี่ยงจะนำไปสู่จุดนั้นหรือไม่
.
เมื่อถามว่า มีรายงานว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เตรียมที่จะเช็กบิล คดีเขากระโดง กับคดีฮั้ว ส.ว. กังวลหรือไม่ นายพริษฐ์กล่าวว่า เป็น 2 ประเด็น ที่จะรวมอยู่ในการอภิปรายคำแถลงนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว
.
ส่วนในเรื่องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่จะมีการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งมา ทางพรรคประชาชนให้ความเห็นไปแล้วว่า สังคมจับตาดูว่าใครจะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กำกับดูแลดีเอสไอ และคดีฟอกเงินของผู้สมัคร ส.ว.อยู่
.
จากเดิมที่จะปรากฏข่าวว่า เป็นตำรวจคนหนึ่งที่เคยอยู่ในทีมของ ส.ว. ที่เป็นอดีตตำรวจ และเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาในคดี พรรคประชาชนเคยทักท้วงไปแล้วว่า หากทำแบบนี้ สังคมจะมีการตั้งคำถามว่ามีการแต่งตั้งบุคคลดังกล่าว เพื่อไปแทรกแซงคดีหรือไม่ จึงต้องการให้มีการทบทวน
.
“ก็เข้าใจว่า มีการทบทวนไปรอบหนึ่ง แต่กลายเป็นว่า ทบทวนไปแล้ว ก็ยังคงเป็นอยู่ ชื่อใหม่ก็จริง แต่ดูสถานะที่มีความเสี่ยง เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนเหมือนเดิม หากมีการทบทวนอีกรอบหนึ่ง คิดว่าจะทำให้หลุดพ้นจากข้อครหานี้ได้ดียิ่งขึ้น” นายพริษฐ์กล่าว
.
นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า หากทูลเกล้าฯ ไปแล้ว ก็ยิ่งเป็นการเปิดช่องให้สังคมย่อมตั้งคำถามตรงนี้ได้ ในฐานะฝ่ายค้าน ก็จะตรวจสอบ หากมีการใช้อำนาจ เพื่อแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมโดยมิชอบ พรรคประชาชนมีกลไกที่สามารถดำเนินการได้ ย้ำว่า กลไกในการตรวจสอบของสภา รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ สามารถนำมาใช้ได้ ไม่ใช่เพียงเฉพาะกรณีการเบี้ยวสัญญา MOA แต่ยังรวมถึงการใช้อำนาจโดยมิชอบ ก็เข้าเงื่อนไขเช่นกัน
.
เมื่อถามถึงรายงานข่าวว่ามีการข่มขู่ทั้งการรถไฟ อธิบดีกรมที่ดิน รวมถึงคนที่ทำคดีเขากระโดง และคดีฮั้ว ส.ว. นายพริษฐ์กล่าวว่า หากประชาชนมีข้อมูล อย่างเมื่อวานนี้ ก็มีผู้ที่ยื่นข้อมูลให้กับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชนไปแล้ว มีคณะรับผิดชอบติดตามตรวจสอบ 2 เรื่องนี้อยู่ หากประชาชนมีข้อมูลเพิ่มเติม สามารถส่งให้ยังพรรคประชาชนได้ ยืนยันว่าทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างตรงไปตรงมา หากมีหลักฐานเรื่องการใช้อำนาจโดยมิชอบ ก็จะดำเนินการตามขั้นตอน
.
.
กองทัพภาคที่ 2 พบทุ่นระเบิด PMN-2 ของเขมรรวม 8 ลูก ที่ช่องโดนเอาว์
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9941348
.
กองทัพภาคที่ 2 พบทุ่นระเบิด PMN-2 ของเขมรรวม 8 ลูก ที่ช่องโดนเอาว์ ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.ศรีสะเกษ เป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน
.
เมื่อวันที่ 17 ก.ย.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลจากกองทัพภาคที่ 2 ว่า เวลา 08.00-15.00 น. ทหารร้อย ร.132 โดย มว.ปล.ที่ 2 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ทำการสำรวจพื้นที่บริเวณช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.ศรีสะเกษ
.
ก่อนตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน จึงเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บไปเพื่อรอการทำลายต่อไป
.
.
.
วันนี้ (17 ก.ย. 2568) เวลา 15.40 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังบูรพา กรณีฝ่ายกัมพูชาได้นำประชาชนและมวลชนประมาณ 200 คน มาชุมนุมประท้วงการปฏิบัติของฝ่ายไทย ระหว่างการวางเครื่องกีดขวางและลวดหีบเพลงเสริมความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว
.
ฝ่ายไทยได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมและดำเนินการวางลวดหีบเพลงตามแผนการปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม กลุ่มมวลชนกัมพูชายังคงแสดงการประท้วงอย่างต่อเนื่อง
.
ต่อมา เวลา 16.20 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางควบคุมสถานการณ์ ส่งผลให้กลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนถอยห่างออกจากแนวปะทะ เนื่องจากผลของแก๊สน้ำตา
.
จนถึงเวลาประมาณ 17.00 น. ฝ่ายไทยยังคงดำเนินการเสริมความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยการวางแนวลวดหนามเพิ่มเติมและใช้ยางรถยนต์ประกอบ รวมถึงควบคุมการประท้วงโดยใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และเครื่อง LRAD ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาเริ่มถอยออกจากพื้นที่ และมีการตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ไทยเป็นระยะ รวมทั้งมีการใช้ความรุนแรงโดยการขว้างปาท่อนไม้ ก้อนหิน และยิงหนังสติ๊กมายังเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย จนมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
.
ทั้งนี้มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย (หัวแตก) จากการโดนก้อนหินจากกัมพูชา