สวัสดีค่ะ 🙏 วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์หลังจากได้ลองใช้ BenQ GP520 มาสักพัก เป็นโปรเจกเตอร์ 4K ที่ตั้งใจซื้อมาใช้แทนทีวีเพราะอยากดูเก๋ แต่กลับเกินคาด !! พิกัด :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ https://www.benq.com/th-th/projector/cinema/gp520.html
ตัวเครื่องไม่ใหญ่เกินไป ยกย้ายไปห้องอื่นสะดวก ดีไซน์เรียบ ทันสมัย สีโทนกลางเข้ากับบ้านได้ง่าย
อีกจุดที่สะดวกมากๆ คือการควบคุม มีทั้งรีโมท Control ที่แถมมาให้ในกล่อง และถ้าใครไม่อยากหารีโมทก็กดผ่าน แอป BenQ Projector บนมือถือได้เลย ใช้ง่ายทั้งสองแบบจริงๆ
สิ่งที่ประทับใจแรกๆ คือ ความสว่าง ค่ะ ปกติเราคิดว่าโปรเจกเตอร์ต้องปิดไฟมืดสนิทถึงจะเห็นภาพ แต่ตัวนี้คือเปิดไฟบางส่วนก็ยังชัด ภาพไม่หม่น มันเลยเหมาะกับการใช้ในห้องนั่งเล่นจริง ๆ ไม่ต้องทำเป็นห้องมืดเหมือนโรงหนัง
อีกอย่างคือ ความละเอียด 4K + รองรับ HDR10+ เวลาเปิด Netflix หรือ Youtube รายละเอียดชัดมาก โดยเฉพาะฉากมืดๆ อย่างหนังไซไฟหรือซีรีส์ดราม่า ภาพไม่แตก รายละเอียดเล็กๆ ยังคมอยู่
เรื่องเสียง อันนี้เกินคาดค่ะ ลำโพง 12W, (x2) มีซับเล็กๆ ในตัว เปิดดูหนังหรือบอล เสียงเต็มกว่าโปรเจกเตอร์ทั่วๆ ไป ไม่จำเป็นต้องต่อซาวด์บาร์เพิ่ม (แต่ถ้าใครหูทอง ต่อเพิ่มก็ได้), บลูทูธเป็นลำโพงก็ได้
อีกเหตุผลที่เลือกมาแทนทีวีคือ ความสะดวก เพราะมันมี Google TV ในตัว เปิดเครื่องมาก็เข้า Netflix, YouTube ได้ทันที ไม่ต้องซื้อกล่องเสริม อีกทั้งมี Auto Focus + Auto Keystone ปรับภาพให้อัตโนมัติ จะวางมุมไหนของห้องหรือแม้แต่ตั้งขึ้นเพดานก็ฉายได้ชัด (ปล. ถ้าอยากวางกับขาตั้งต้องซื้อแยกนะคะ) ระยะฉาย กว้างพอสมควร จะวางใกล้–ไกลปรับได้ตามขนาดห้อง ไม่ต้องมีพื้นที่เยอะก็ได้จอใหญ่เต็มตา
พอร์ตเชื่อมต่อ ก็ครบ ทั้ง HDMI, USB, Wi-Fi, Bluetooth ต่อโน้ตบุ๊ก คอนโซล หรือฮาร์ดดิสก์ก็ง่าย
และที่ชอบคือรองรับ AirPlay ด้วย ใครใช้ iPhone/iPad เปิด YouTube หรือภาพถ่ายขึ้นจอใหญ่ได้ทันที
สรุปสั้น ๆ
ภาพสว่าง 4K HDR10+ 2600lm → ใช้ในห้องนั่งเล่นได้สบาย
ลำโพงในตัวเสียงดี → ดูหนังได้โดยไม่ต้องต่อเพิ่ม
Google TV + Auto Focus + Auto Keystone → ใช้ง่าย จะวางมุมไหนก็ชัดพอร์ตครบ + AirPlay ได้ → เชื่อมต่อสะดวกสุดๆ
ถ้าให้พูดตรงๆ เลยคือมันทำให้ทีวีที่บ้านแทบไม่ได้เปิดอีกต่อไป เพราะโปรเจกเตอร์ตัวเดียวก็จบทั้งความสะดวกและความบันเทิงที่อยากได้ค่ะ 🙌
[SR] รีวิวใช้งานจริง BenQ GP520 เป็น 4K Home Projector ที่ใช้แทนทีวีได้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตัวเครื่องไม่ใหญ่เกินไป ยกย้ายไปห้องอื่นสะดวก ดีไซน์เรียบ ทันสมัย สีโทนกลางเข้ากับบ้านได้ง่าย
อีกจุดที่สะดวกมากๆ คือการควบคุม มีทั้งรีโมท Control ที่แถมมาให้ในกล่อง และถ้าใครไม่อยากหารีโมทก็กดผ่าน แอป BenQ Projector บนมือถือได้เลย ใช้ง่ายทั้งสองแบบจริงๆ
สิ่งที่ประทับใจแรกๆ คือ ความสว่าง ค่ะ ปกติเราคิดว่าโปรเจกเตอร์ต้องปิดไฟมืดสนิทถึงจะเห็นภาพ แต่ตัวนี้คือเปิดไฟบางส่วนก็ยังชัด ภาพไม่หม่น มันเลยเหมาะกับการใช้ในห้องนั่งเล่นจริง ๆ ไม่ต้องทำเป็นห้องมืดเหมือนโรงหนัง
อีกอย่างคือ ความละเอียด 4K + รองรับ HDR10+ เวลาเปิด Netflix หรือ Youtube รายละเอียดชัดมาก โดยเฉพาะฉากมืดๆ อย่างหนังไซไฟหรือซีรีส์ดราม่า ภาพไม่แตก รายละเอียดเล็กๆ ยังคมอยู่
เรื่องเสียง อันนี้เกินคาดค่ะ ลำโพง 12W, (x2) มีซับเล็กๆ ในตัว เปิดดูหนังหรือบอล เสียงเต็มกว่าโปรเจกเตอร์ทั่วๆ ไป ไม่จำเป็นต้องต่อซาวด์บาร์เพิ่ม (แต่ถ้าใครหูทอง ต่อเพิ่มก็ได้), บลูทูธเป็นลำโพงก็ได้
อีกเหตุผลที่เลือกมาแทนทีวีคือ ความสะดวก เพราะมันมี Google TV ในตัว เปิดเครื่องมาก็เข้า Netflix, YouTube ได้ทันที ไม่ต้องซื้อกล่องเสริม อีกทั้งมี Auto Focus + Auto Keystone ปรับภาพให้อัตโนมัติ จะวางมุมไหนของห้องหรือแม้แต่ตั้งขึ้นเพดานก็ฉายได้ชัด (ปล. ถ้าอยากวางกับขาตั้งต้องซื้อแยกนะคะ) ระยะฉาย กว้างพอสมควร จะวางใกล้–ไกลปรับได้ตามขนาดห้อง ไม่ต้องมีพื้นที่เยอะก็ได้จอใหญ่เต็มตา
พอร์ตเชื่อมต่อ ก็ครบ ทั้ง HDMI, USB, Wi-Fi, Bluetooth ต่อโน้ตบุ๊ก คอนโซล หรือฮาร์ดดิสก์ก็ง่าย
และที่ชอบคือรองรับ AirPlay ด้วย ใครใช้ iPhone/iPad เปิด YouTube หรือภาพถ่ายขึ้นจอใหญ่ได้ทันที
สรุปสั้น ๆ
ภาพสว่าง 4K HDR10+ 2600lm → ใช้ในห้องนั่งเล่นได้สบาย
ลำโพงในตัวเสียงดี → ดูหนังได้โดยไม่ต้องต่อเพิ่ม
Google TV + Auto Focus + Auto Keystone → ใช้ง่าย จะวางมุมไหนก็ชัดพอร์ตครบ + AirPlay ได้ → เชื่อมต่อสะดวกสุดๆ
ถ้าให้พูดตรงๆ เลยคือมันทำให้ทีวีที่บ้านแทบไม่ได้เปิดอีกต่อไป เพราะโปรเจกเตอร์ตัวเดียวก็จบทั้งความสะดวกและความบันเทิงที่อยากได้ค่ะ 🙌
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้