คนโสดพุ่งทั่วโลก ไม่เกิน 5 ปี มีคนโสดสูงถึง 3,000,000,000 คน น่าใจหาย คนทั่วโลกพร้อมใจโสดอย่างไม่เคยมีมาก่อน

กระทู้คำถาม
แหล่งที่มา: YouTube https://share.google/SlQNcaHconxTiknFv

แหล่งที่มา: Facebook https://share.google/sjQIk7XeWHLqHVO7S

แหล่งที่มา: YouTube https://share.google/6g7o8snojxHY9wqJl

ปรากฏการณ์คนโสดเพิ่มสูงขึ้นเป็นกระแสระดับโลก สอดคล้องกับข้อมูลองค์การสหประชาชาติ (UN) ที่ระบุว่าในปี 2023 มีคนโสดทั่วโลก 2.12 พันล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มเป็น 3 พันล้านคนภายในปี 2030 การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้เกิด "เศรษฐกิจคนโสด" (Solo Economy) เนื่องจากคนโสดมีพฤติกรรมการบริโภคที่แตกต่างออกไป โดยเน้นการใช้จ่ายเพื่อตนเองในกิจกรรมต่างๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและโครงสร้างสังคม

ยุคที่ ‘อัตราการเกิด’ กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในแทบทุกวงสนทนา และถูกจับตาโดยผู้กำหนดนโยบายทั่วโลก ‘ปรากฏการณ์คนโสด’ กำลังระบาดหนักและแผ่ขยายวงกว้างไปทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา, ฟินแลนด์, เกาหลีใต้, ตุรกี, ตูนิเซีย หรือแม้แต่ไทย อัตราการเกิดที่ลดลงล้วนเป็นผลพวงมาจากความสัมพันธ์ที่ลดน้อยลงในกลุ่มคนวัยหนุ่มสาว จนนำไปสู่อัตราการเกิดที่ลดลงอย่างน่าใจหาย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่นี้ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสิ่งแวดล้อม แต่สิ่งที่น่าสนใจคือความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้มี ‘ความแตกต่าง’ จากอดีตอย่างสิ้นเชิง

เพราะไม่ใช่แค่การตัดสินใจมีลูกน้อยลงของคู่รัก แต่เป็นการลดลงของจำนวน ‘คู่รัก’ อย่างเห็นได้ชัด เรื่องราวสำคัญทางประชากรศาสตร์ในยุคนี้จึงไม่ใช่แค่อัตราการมีลูกที่ลดลง แต่เป็น ‘อัตราความโสด’ ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดต่างหาก ถือเป็นการเปลี่ยนแปลง ‘พื้นฐาน’ ครั้งใหญ่ในสังคมยุคใหม่ โดยข้อมูลจากสหรัฐฯ ชี้ชัดว่า หากอัตราการแต่งงานและการอยู่ร่วมกันของคนอเมริกันยังคงที่ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา อัตราการเจริญพันธุ์โดยรวมของสหรัฐฯ ในวันนี้จะสูงกว่าที่เป็นอยู่ ความสัมพันธ์ไม่ได้แค่เกิดขึ้นน้อยลง แต่ยังเปราะบางมากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่