สัตว์ก็มีชีวิตจิตใจ ถึงเวลาหรือยังที่เราจะเลิกสนับสนุนงานโชว์สัตว์

ทุกปี ณ คอมมูนิตี้มอลย่านพุทธมณฑล มีการจัดงานโชว์สัตว์แปลก หนึ่งในเป้าหมายของงานคือการให้ผู้ปกครองพาลูกหลานไปเที่ยวดูสัตว์สร้างความบันเทิง และอาจจ่ายเงินซื้อเศษผักเล็กๆน้อยๆให้กับสัตว์เหล่านั้น ผู้คนหลั่งไหลไปดูด้วยความตื่นตา แต่จะมีสักกี่คนที่เห็นแววตาสิ้นหวัง พฤติกรรมเครียดตื่นกลัวอย่างถึงที่สุด และความหิวโหยอย่างที่เขาพยายามบอกอยู่
-แพะเดินวนในคอกแคบๆ บนฟางที่ปูบางๆ พอให้เห็นว่ามีอึฉี่ของมันเรี่ยราดอยู่ ในคอกไม่มีน้ำและอาหาร มันเดินวนแล้วก็ก้มกินฟางที่ปูพื้นนั้นอย่างหมดหนทาง ไม่รู้กี่โมงจะถึงเวลาได้กินน้ำอาหารหรือมีคนมาทำความสะอาดคอกให้ หรือต้องรอจนจบงานตอนดึก!
-นกกระจอกเทศ 2 ตัวเดินวนซ้ำ ๆ ในคอกแคบ มีถังน้ำหูหิ้วสีดำที่น้ำเหลือไม่ถึงครึ่งถังแขวนไว้1ใบ ถ้าไม่เดินวนก็หยุดจิกถังน้ำ จิกพลาสติกปูรองที่ขอบคอกแก้เครียดแก้หิวกันไป
-หนูแกสบี้ซุกตัวอยู่ใต้ฟาง หนีเสียงดังจากรถรางเด็กเล่นที่จัดอยู่ใกล้กัน มีขวดน้ำแบบดูดซึ่งในขวดเขียวครึ้มไปด้วยตะไคร่น้ำแขวนอยู่ข้างกรง  
-เต่า 3 ตัวซุกตัว หดหัวอยู่มุมคอกด้วยกัน เพราะในกระดองคือที่สุดท้ายที่พวกเขาจะหลบหนีมนุษย์ได้
-ลูกหมูยื่นหน้ารับแขกมากที่สุด แต่ไม่ใช่เพราะมันมีความสุขแน่นอน สำหรับสัตว์ที่กินเก่งแบบหมู จะได้กินอาหารล่าสุดไปเมื่อไหร่กัน

อะไรคือความบันเทิงที่แลกมากับความทรมานเหล่านี้?
สัตว์ก็มีชีวิต มีหัวใจ ไม่ต่างจากเรา แต่กลับถูกยัดเยียดให้เป็นเพียงเครื่องมือเรียกรอยยิ้มและรายได้ เรากำลังสอนให้เด็กรู้จักความบันเทิงบนความทุกข์ของผู้อื่นอยู่หรือเปล่า? นี่คือสิ่งที่สังคมเราควรปลูกฝังจริงหรือ?
ปีที่แล้วมีหน่วยงานปศุสัตว์เข้าไปตักเตือนแล้ว แต่ปีนี้ก็ยังเหมือนเดิม
ฉันไม่อยากเห็นภาพเหล่านี้ซ้ำอีก ไม่ว่าที่นี่หรือที่ห้างไหนทั้งนั้น ไม่อยากให้สัตว์ต้องตกเป็นเหยื่อของงานโชว์ที่จัดขึ้น “ความบันเทิง” ของมนุษย์ ซึ่งยากที่ผู้จัดงานจะดูแลสัตว์ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ได้
ประเทศไทยควรมีกฎหมายห้ามการนำสัตว์มาแสดงในลักษณะนี้หรือไม่? เพื่อให้สัตว์ได้มีชีวิตอย่างที่ควรเป็นไม่ใช่เพียงเครื่องมือหากินของเจ้าของสถานที่ ผู้จัดงานและกลุ่มคนที่เลี้ยงสัตว์สำหรับวิ่งรอบออกงานโชว์...






แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่