สำหรับผู้ปกครอง คงจะเป็นห่วงลูกหลานว่าจบมาแล้ว จะไม่มีงานทำ หรือจะโดน AI แย่งงานทำ
คุณจะมีคำแนะนำลูกๆ ของคุณอย่างไรในการเลือกคณะเรียนต่อในมหาลัย เพื่อจะจบมาในอีก 4-5 ปีข้างหน้า ที่ AI น่าจะมาแรงในอีก 4-5 ปีข้างหน้า
แต่เดิม ผมคิดว่า ควรให้อิสระลูกๆ ในการตัดสินใจเลือกอนาคตของพวกเขาเอง
แต่ตอนนี้ ถ้าเขาเลือกคณะที่มองไม่เห็นอนาคตเลย ผมคงจะเป็นห่วง และอาจจะต้องให้คำแนะนำแก่พวกเขา
ปล. ผมยังไม่มีลูกหรอก แต่มีหลานที่เลือกคณะไปแล้ว คนนึงเรียนจบเป็นด็อกเตอร์ไปแล้ว คนนี้น่าจะหมดห่วง
แต่อีกคนกำลังเรียนปี 4 คงจะไม่ทันซะแล้ว ก็เลยยังเป็นห่วงอยู่ แต่ไม่รู้จะให้คำแนะนำยังไงเลย
อยากให้ทางมหาวิทยาลัย ระดมสมองของบรรดาคณาจารย์ในคณะที่มีความสุ่มเสี่ยงอย่างมากที่จะโดน AI แย่งงาน ว่า จะปรับตัว พัฒนาหลักสูตร เพิ่มหลักสูตร ที่จะทำให้นิสิต นักศึกษา จบมาแล้ว ยังสามารถมีที่ยืนในตลาดแรงงานได้ ยังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานได้ คือ น่าจะเพิ่มหลักสูตร หรือวิชา หรือคอร์สเสริม ที่จะพัฒนาให้นักศึกษาสามารถใช้ AI ให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กรหรือบริษัทได้มากที่สุดในสาขาวิชาชีพของพวกเค้า สามารถเพิ่ม productivity ได้
ถ้าคุณเป็นผู้ปกครองที่มีลูกกำลังจะต้องตัดสินใจเลือกคณะในมหาลัย คุณจะแนะนำลูกอย่างไรเมื่อคำนึงถึง AI ที่กำลังมาแรง
คุณจะมีคำแนะนำลูกๆ ของคุณอย่างไรในการเลือกคณะเรียนต่อในมหาลัย เพื่อจะจบมาในอีก 4-5 ปีข้างหน้า ที่ AI น่าจะมาแรงในอีก 4-5 ปีข้างหน้า
แต่เดิม ผมคิดว่า ควรให้อิสระลูกๆ ในการตัดสินใจเลือกอนาคตของพวกเขาเอง
แต่ตอนนี้ ถ้าเขาเลือกคณะที่มองไม่เห็นอนาคตเลย ผมคงจะเป็นห่วง และอาจจะต้องให้คำแนะนำแก่พวกเขา
ปล. ผมยังไม่มีลูกหรอก แต่มีหลานที่เลือกคณะไปแล้ว คนนึงเรียนจบเป็นด็อกเตอร์ไปแล้ว คนนี้น่าจะหมดห่วง
แต่อีกคนกำลังเรียนปี 4 คงจะไม่ทันซะแล้ว ก็เลยยังเป็นห่วงอยู่ แต่ไม่รู้จะให้คำแนะนำยังไงเลย
อยากให้ทางมหาวิทยาลัย ระดมสมองของบรรดาคณาจารย์ในคณะที่มีความสุ่มเสี่ยงอย่างมากที่จะโดน AI แย่งงาน ว่า จะปรับตัว พัฒนาหลักสูตร เพิ่มหลักสูตร ที่จะทำให้นิสิต นักศึกษา จบมาแล้ว ยังสามารถมีที่ยืนในตลาดแรงงานได้ ยังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานได้ คือ น่าจะเพิ่มหลักสูตร หรือวิชา หรือคอร์สเสริม ที่จะพัฒนาให้นักศึกษาสามารถใช้ AI ให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กรหรือบริษัทได้มากที่สุดในสาขาวิชาชีพของพวกเค้า สามารถเพิ่ม productivity ได้