มองการเมืองตอนนี้ทำไมดูแปลกๆ ครับ เช่น พรรคประชาธิปัตย์ เก่าแก่ของไทย บุคคลสำคัญภายในพรรค หายไปไหนครับ

ถ้าย้อนหลังกลับไป10 ปีที่ผ่านมา จะเห็นพรรคการเมือง  แข่งขันกันอย่างดุเดือด  แต่เดี๋ยวนี้กลับเงียบไปครับ  และขนาดcapacityของพรรคเก่าๆ ในประวัติศาสตร์  จะลดขนาดลงครับ    ตรงกันข้ามฝ่ายนิติบัญญัติ  กับตุลาการ  2ใน3 ของอำนาจอธิปไตย  กลับมีอำนาจเหนือกว่าฝ่ายบริหารครับ
พรรคการเมืองเก่าๆ กลับมีขนาดเล็กลงมากครับ  แต่พรรคใหญ่มีพรรคเดียวคล้ายจะล้มลุกคลุกคลาน    กับพรรคขนาดกลาง  1 พรรค
และรัฐบาลก่อนนี้  ก็เกินคาดที่ พรรคประชาธิปัตย์  ร่วมรัฐบาลกับพรรคใหม่ที่สุด  ครับ  เมือก่อนเห็นสู้กันมานาน แบบว่าไม่สามารถร่วมรัฐบาลกันได้  แต่ก็มาร่วมรัฐบาลกันได้ครับ  

แต่ระบบการเลือกตั้งล่าสุด  เสียงของประชาชนไม่ใช่ผู้ชี้ขาดสุดท้าย  เพราะต้องผ่านฝ่าย ส.ว. ฝ่ายนิติบัญญัติ   คือด่านสุดท้าย ครับ   ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์การเมืองไทย  เพราะผลของรัฐธรรมนูญ ฉบับล่าสุด    แต่จุดที่ชอบรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุด คือผู้นำประเทศ หรือฝ่ายบริหาร  หรือนายกฯ อยู่ในตำแหน่งได้เพียง 2 สมัย หรือ 8ปี  ที่ช่วยลดการผูกขาดตำแหน่ง ครับ  มีโอกาสที่คนใหม่ๆจะมาบริหารประเทศ  ครับ  

ถ้าในอดีตการเลือกตั้งถ้าประชาชนเลือกใคร  คะแนนของใครสูงสุดในเขตเลือกตั้งคือผ่าน  ถ้าไม่มีทำผิดกฏการเลือกตั้ง ใช่หรือไม่ครับ  

แต่หลังการปฏิวัติครั้งล่าสุด  การเมืองไทยดูเปลี่ยนไป  อำนาจอยู่กับฝ่ายนิติบัญญัติ มากกว่าประชาชน    และการเลือกตั้ง ส.ว.  จะมีการแข่งขันรุนแรงกว่า  การเลือกตั้ง ส.ส.   ดูเหมือนฝ่ายนิติบัญญัติ  จะคุ้มเกมส์การเมืองไว้  

แต่ผลจากรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุด  คือ  พรรคการเมืองขนาดใหญ่ที่สุด  แบบภาคได้ หรือแบ่งกลุ่มได้   แต่ส่วนใหญ่อยู่ฝ่ายค้าน  แต่บางส่วนอยู่ฝ่ายรัฐบาล

แต่ฝ่ายค้าน  มีพรรคที่เคยเป็นรัฐบาล กับพรรคประชาชน หรือพรรคก้าวไกล  

ภาพรวมการเมืองไทย เริ่มพัฒนาคล้ายกับนานาชาติ หรือ นานาประเทศทั่วโลก แล้วครับ

ถ้าเทียบประวัติศาสตร์การเมืองไทย  เปลี่ยนแปลงไปเกิน 60% แล้วมั้งครับ