นั่งร้านกาแฟหลายร้าน รู้สึกว่า เหมือนๆกัน คือ แนว Loft ปูนเปลือย
ร้านกาแฟที่นั่งได้นาน ๆ น่าจะต้องลูกเล่นแปลกใหม่อย่างไรได้บ้าง มาดูตัวอย่างกัน
1. Ice Home คอนเซ็บบรรยากาศ "ลืมไปเลยว่าอยู่เมืองร้อน"
ลองคิดดูว่า หากมานั่งแล้วมองผนังภาพวิวหิมะ มีกาแฟ ไอศกรีม บิงซูให้เลือก
การตกแต่งแบบเมืองหนาว ที่เก็บรายละเอียดมาอย่างดี มีจุดถ่ายรูป ชื่อ “Thailand’s Winter”
ทำให้คลายความคิดถึงสแกนดิเนเวีย ในวันหยุดพักผ่อน ที่ห่างจากบ้านไม่กี่ กม.
2. ร้านปริศนา ออกแบบให้วกวนหาอะไรยากๆ เข้าไว้
3. Writers’ House / Book Lovers เล่ากันว่า เมื่อก่อน ร้านกาแฟ
คือ ที่พบปะของนักเขียนนักคิด
กิจกรรมที่ทำให้ลูกค้าอยู่ในร้านได้นาน ๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ
ออกแบบร้านกาแฟเป็นบ้านนวนิยาย และหนังสือเก่า (ที่ซ่อมแซมแล้ว)
มีภาพจากหนังสือพิมพ์เก่าที่ใส่กรอบอย่างดี
มีหนังสือให้อ่าน ตกแต่งแนวสบายๆ เช่น แปล จักรยาน กลิ่นเบเกอร์รี่จากเตา
รวมถึงการตกแต่งราวกับ ยกบ้านนางเอกนวนิยาย มาไว้ในร้าน เช่น ดอกไม้ไทยกลิ่นหอม
ซึ่งเป็นการสร้าง story + scene ขึ้นมา จากบทตอนที่ชอบ
แต่การใช้ตัวละครฮีโร่โดยตรงให้ระมัดระวังอาจติดค่าลิขสิทธิ์ได้
จึงควรออกแบบฮีโร่ของคุณเอง เป็นบุคคลที่ลูกค้าอยากถ่ายรูปคู่
4. My Zoo เอาใจลูกค้ากลุ่มรักสัตว์ เน้นการตกแต่งด้วยคอลเล็กชั่นตุ๊กตาสัตว์
ไม่ว่าแบบปั้น แบบผ้า แบบนุ่มมีขน
5.
Fresh 90’s หากคุณคือนักสะสมภาพ อัลบั้ม หลงไหลเพลงป็อบยุค 90 นี่คือโอกาสทอง
ที่จะทำให้สิ่งที่คุณชอบเป็นองค์ประกอบการสร้างรายได้
จัดร้านให้ลูกค้ากลับไปสู่ยุค 90s ไม่ว่าเพลง ภาพประกอบ จากนิตยสารยุคก่อน ซึ่งอาจจะพริ้นมาใช้ได้
และศิลปินที่หลายคนชื่นชอบเมื่อ 20 ปีก่อน
ลองศึกษาดูค่าลิขสิทธิ์ด้วย ทั้งเรื่องภาพและการเปิดเพลงในร้าน
แต่เชื่อว่า ราคาไม่สูงเกินหลักหมื่นต่อปี คุณอาจทำสัญญากับบริษัทค่ายเพลง ที่จะใช้ภาพจากอัลบั้ม ในการตกแต่งร้าน
รวมถึงใช้เพลง เพื่อหารายได้ และประชาสัมฟันธ์ผลงาน ศิลปินยุคนั้น เช่น อำพล ทาทา มอส พี่เบิร์ด ชุดแรกๆ
หากเป็นดารา ก็จินตหรา สันติสุข ลลิตา จอย ศิริลักษณ์ วิลลี่
ตัวอย่างนิตยสาร เช่น คู่สร้างคู่สม ดาราภาพยนตร์ The Boy เธอกับฉัน
ค่ายเพลงอื่นๆ ต้องค้นดูว่าเขาเก็บค่าลิขสิทธิ์อย่างไร เช่น อาร์เอส นิธิทัศน์ คีตา
เปิดร้านกาแฟแนวไหน อยู่ที่คุณชื่นชอบเรื่องอะไร
แล้วนำเสนออย่างจัดเจน ให้คุ้มกับการเดินทางมาถึงของลูกค้า
แล้วคุณจะสามารถขายกาแฟและของว่างในราคาที่แพงขึ้น พยายามคุมตีม ไม่ออกนอกเรื่อง
อย่างบางคน ชอบปารีส ก็เก็บทุกอย่าง เกี่ยวกับปารีส แม้แต่เพลงยังเปิดเพลงภาษาฝรั่งเศส
ลูกค้าจ่ายให้คุณ ไม่ใช่แค่ค่าอาหาร แต่เขาจ่ายให้ประสพการณ์ที่เขาหาไม่ได้จากที่อื่นในประเทศไทย
ออกแบบร้านกาแฟ คอนเซ็ปต์ฉีกแนวจากปูนเปลือย
5. Fresh 90’s หากคุณคือนักสะสมภาพ อัลบั้ม หลงไหลเพลงป็อบยุค 90 นี่คือโอกาสทอง
ที่จะทำให้สิ่งที่คุณชอบเป็นองค์ประกอบการสร้างรายได้
จัดร้านให้ลูกค้ากลับไปสู่ยุค 90s ไม่ว่าเพลง ภาพประกอบ จากนิตยสารยุคก่อน ซึ่งอาจจะพริ้นมาใช้ได้
และศิลปินที่หลายคนชื่นชอบเมื่อ 20 ปีก่อน ลองศึกษาดูค่าลิขสิทธิ์ด้วย ทั้งเรื่องภาพและการเปิดเพลงในร้าน
แต่เชื่อว่า ราคาไม่สูงเกินหลักหมื่นต่อปี คุณอาจทำสัญญากับบริษัทค่ายเพลง ที่จะใช้ภาพจากอัลบั้ม ในการตกแต่งร้าน
รวมถึงใช้เพลง เพื่อหารายได้ และประชาสัมฟันธ์ผลงาน ศิลปินยุคนั้น เช่น อำพล ทาทา มอส พี่เบิร์ด ชุดแรกๆ
หากเป็นดารา ก็จินตหรา สันติสุข ลลิตา จอย ศิริลักษณ์ วิลลี่
ตัวอย่างนิตยสาร เช่น คู่สร้างคู่สม ดาราภาพยนตร์ The Boy เธอกับฉัน
ค่ายเพลงอื่นๆ ต้องค้นดูว่าเขาเก็บค่าลิขสิทธิ์อย่างไร เช่น อาร์เอส นิธิทัศน์ คีตา
เปิดร้านกาแฟแนวไหน อยู่ที่คุณชื่นชอบเรื่องอะไร
แล้วนำเสนออย่างจัดเจน ให้คุ้มกับการเดินทางมาถึงของลูกค้า
แล้วคุณจะสามารถขายกาแฟและของว่างในราคาที่แพงขึ้น พยายามคุมตีม ไม่ออกนอกเรื่อง
อย่างบางคน ชอบปารีส ก็เก็บทุกอย่าง เกี่ยวกับปารีส แม้แต่เพลงยังเปิดเพลงภาษาฝรั่งเศส
ลูกค้าจ่ายให้คุณ ไม่ใช่แค่ค่าอาหาร แต่เขาจ่ายให้ประสพการณ์ที่เขาหาไม่ได้จากที่อื่นในประเทศไทย