ต้นกำเนิดของวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving)



     หัวใจสำคัญของการนมัสการของคริสตชนได้ชื่อมาจากมาจากภาษากรีก “Ευχαριστώ” ที่แปลว่า “การขอบพระคุณ” คำว่า “ศีลมหาสนิท (Eucharist)” แปลว่า “ขอบคุณ” ดังนั้น จึงไม่ต้องบอกก็รู้ว่า การขอบพระคุณเป็นองค์ประกอบสำคัญของพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ และไม่มีการแบ่งแยกพระศาสนจักรกับรัฐอย่างชัดเจนในการพิจารณาถึงการเฉลิมฉลองวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) ประชาชนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เฉลิมฉลองวันขอบคุณพระเจ้า อย่างน้อยก็อย่างไม่เป็นทางการมาตั้งแต่ก่อนการก่อตั้งประเทศ ทั้งพิธีมิสซาและการเฉลิมฉลองวันขอบคุณพระเจ้าล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความจริงที่จำเป็นอย่างยิ่งที่ว่า ในฐานะมนุษย์ เราถูกสร้างมาเพื่อแสดงความขอบคุณ


หัวใจสำคัญของการนมัสการของคริสตชนได้ชื่อมาจากภาษากรีก “Ευχαριστώ” ที่แปลว่า “การขอบพระคุณ” คำว่า “ศีลมหาสนิท (Eucharist)” แปลว่า “ขอบคุณ”

     เหตุผลในการขอบพระคุณของเราคืออะไร? อาร์คบิชอปแห่งชิคาโก “พระคาร์ดินัลฟรานซิส อี. จอร์จ (Cardinal Francis E. George)” คณะธรรมทูตแห่งมารีนิรมล (Missionary Oblates of Mary Immaculate - O.M.I.) ได้กล่าวไว้อย่างดีที่สุดว่า “โดยตระหนักว่า ไม่มีใครในพวกเราที่สร้างตัวเองขึ้นมาได้ และไม่เต็มใจที่จะประกาศตนว่า เป็นอุบัติเหตุแห่งจักรวาล เราจึงหันไปหาผู้สร้างสสรรพสิ่งและกล่าวขอบพระคุณ เมื่อเผชิญกับของขวัญที่ไม่อาจหาสิ่งใดมาทดแทนได้ สิ่งที่เราทำได้ คือ การสำนึกในพระคุณ”


อาร์คบิชอปแห่งชิคาโก “พระคาร์ดินัลฟรานซิส อี. จอร์จ (Cardinal Francis E. George)” คณะธรรมทูตแห่งมารีนิรมล (Missionary Oblates of Mary Immaculate - O.M.I.) ได้กล่าวไว้อย่างดีที่สุดว่า “โดยตระหนักว่า ไม่มีใครในพวกเราที่สร้างตัวเองขึ้นมาได้ และไม่เต็มใจที่จะประกาศตนว่า เป็นอุบัติเหตุแห่งจักรวาล เราจึงหันไปหาผู้สร้างสสรรพสิ่งและกล่าวขอบพระคุณ เมื่อเผชิญกับของขวัญที่ไม่อาจหาสิ่งใดมาทดแทนได้ สิ่งที่เราทำได้ คือ การสำนึกในพระคุณ”

     และคำพูดสุดท้ายของเราในพิธีมิสซาคือคำตอบของเรา : “ขอบพระคุณพระเจ้า” พระคาร์ดินัลฟรานซิสอธิบายความสำคัญของคำกล่าวนี้ โดยกล่าวว่า “ความกตัญญูต่อพระเจ้าหล่อหลอมชีวิตของเรา ทั้งในช่วงเริ่มต้นและสิ้นสุด ในแต่ละช่วงเวลา คือ ของขวัญ แต่ละเหตุการณ์ล้วนคลี่คลายภายใต้พระหัตถ์อันเปี่ยมด้วยความรักของพระเจ้า” ความท้าทายสำหรับคริสตชน คือ การดำเนินชีวิตแต่ละวันด้วยการตระหนักว่าทุกสิ่ง คือ ของขวัญ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุด คือ ความรอด ดังที่นักบุญเปาโล อัครสาวก (Saint Paul the Apostle) เตือนใจเราว่า “จงขอบพระคุณพระเจ้าในทุกกรณี” (1 เธสะโลนิกา 5:18)

+ จงขอบพระคุณพระเจ้าในทุกกรณี เพราะพระองค์ทรงปรารถนาให้ท่านทำสิ่งเหล่านี้ในพระคริสตเยซู - 1 เธสะโลนิกา 5:18 การระวังตัวขณะรอคอยการเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้า


นักบุญเปาโล อัครสาวก (Saint Paul the Apostle) เตือนใจเราว่า “จงขอบพระคุณพระเจ้าในทุกกรณี” (1 เธสะโลนิกา 5:18)

     ในปีค.ศ. 1789 ประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน (George Washington) ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนแรกของประเทคสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศให้วันขอบคุณพระเจ้าเป็นวันเพื่อแสดงความขอบคุณ “ต่อพระญาณสอดส่องขององค์พระเจ้าเจ้าผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสรรภานุภาพ เพื่อที่จะเชื่อฟังพระประสงค์ของพระองค์ เพื่อสำนึกในพระคุณของพระองค์ และเพื่อวิงวอนขอความคุ้มครองและความโปรดปรานจากพระองค์ด้วยความถ่อมตน“ ประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตันได้กำหนดวันขอบคุณพระเจ้าไว้สำหรับชาวอเมริกันเพื่อแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ และที่สำคัญที่สุด คือ เพื่อแสดงความขอบพระคุณต่อพระเจ้าด้วย “ความขอบคุณอย่างจริงใจและถ่อมตน สำหรับการดูแลและคุ้มครองอันเปี่ยมด้วยพระกรุณาของพระองค์” ในคำประกาศวันขอบคุณพระเจ้า ประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตันได้ยอมรับพระเจ้าผู้ชอบธรรมว่า เป็น “ผู้ทรงประทานพระกรุณาแห่งความดีทุกประการ ทั้งในอดีต , ปัจจุบัน และอนาคต”


ประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน (George Washington)

     ประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln) ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวทำนองเดียวกันนี้เมื่อประกาศให้วันขอบคุณพระเจ้าเป็นวันหยุดประจำชาติ การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่พี่น้องร่วมรบกันในสงครามกลางเมือง ในหลายแง่มุม คำประกาศวันขอบคุณพระเจ้าของลินคอล์นในปีค.ศ. 1863 เปรียบเสมือนบทภาวนา


ประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln)

     เมื่อเล่าถึงคุณงามความดีของชัยชนะครั้งสำคัญที่สหภาพได้รับ ประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์นยอมรับว่า พระเจ้าผทีู่้เดียวเท่านั้นที่เป็นเป้าหมายแห่งความจงรักภักดีต่อประเทศชาติ ท่านลงนามประกาศชัยชนะ “นี้คือพระพรอันเปี่ยมด้วยพระสิริรุ่งโรจน์จากพระเจ้าผู้สูงสุด ผู้ทรงปฏิบัติต่อเราด้วยพระพิโรธต่อบาปของเรา แต่กระนั้นก็ยังทรงระลึกถึงพระเมตตา” ดังนั้น ประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์นจึงตัดสินใจเชิญชวนชาวอเมริกันทุกคนให้เฉลิมฉลองวันขอบคุณพระเจ้าในวันพฤหัสบดีที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่กำหนดขึ้นเพื่อ “แสดงความขอบคุณและสรรเสริญพระบิดาผู้ทรงพระทัยดีของเรา ผู้สถิตอยู่ในสวรรค์”

     ตามตำนานอเมริกัน การเฉลิมฉลองวันขอบคุณพระเจ้ามีรากฐานมาจากกลุ่มผู้แสวงบุญพิวริตัน (Puritan) ผู้บุกเบิกแห่งพลีมัธร็อค (Plymouth Rock) ซึ่งรวมตัวกันเพื่อแสดงความขอบคุณสำหรับการเก็บเกี่ยวผลผลิตอันอุดมสมบูรณ์ในบ้านใหม่ของพวกเขาในทวีปอเมริกาเหนือ การเฉลิมฉลองนี้มีความหมายทางศาสนา เพราะผู้แสวงบุญเหล่านี้แสวงหาที่ลี้ภัยทางการเมืองเพื่อปฏิบัติตามเสรีภาพทางศาสนา วันขอบคุณพระเจ้า “ครั้งแรก” นี้ยังคงวนเวียนอยู่ในใจของชาวอเมริกันจำนวนมากทุกปี ขณะที่พวกเขามารวมตัวกันรอบโต๊ะอาหารเพื่อรับประทานไก่งวง



     แต่นั่นเป็นปีค.ศ. 1621 เนื่องจากประวัติศาสตร์ถูกเล่าขานโดยผู้ชนะ จึงเป็นตัวอย่างของเรื่องเล่าของชาวอังกฤษที่ต่อต้านนิกายคาทอลิก ซึ่งแพร่หลายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยุคแรกของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แม้จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับงานฉลองวันขอบคุณพระเจ้าที่จัดขึ้นเมื่อกว่าครึ่งศตวรรษก่อนหน้านั้นก็ตาม วันขอบคุณพระเจ้าในปีค.ศ. 1565 จัดขึ้น ณ เมืองเซนต์ออกัสติน (Saint Augustine) รัฐฟลอริดา (Florida) ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปัจจุบัน แน่นอนว่า นักล่าอาณานิคมชาวสเปน ที่จัดงานนี้เป็นคริสตชนคาทอลิก และพวกเขาขอบพระคุณพระเจ้า เช่นเดียวกับคริสตชนคาทอลิกที่เดินทางผ่านและเดินทางมาถึงโลกใหม่อย่างปลอดภัย พวกเขาไม่เพียงแต่เฉลิมฉลองด้วยอาหารมื้อใหญ่แห่งความกตัญญูในวันนั้น แต่ยังเริ่มต้นด้วยพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณอีกด้วย



     และในขณะที่เฉลิมฉลองวันขอบคุณพระเจ้าในปีนี้ อย่าลืมว่านักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่าแท้จริงแล้ววันขอบคุณพระเจ้ามีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาในฐานะการเฉลิมฉลองของคริสตชนคาทอลิก แต่ที่สำคัญที่สุด คือ อย่าลืมนึกถึงต้นกำเนิดและจุดประสงค์ของวันหยุดนี้ ไม่ว่าจะเชื่อว่า วันหยุดนี้เริ่มต้นโดยประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน , ประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น หรือนักล่าอาณานิคมชาวสเปน ก็เป็นที่แน่ชัดเสมอมาว่า พระเจ้า คือ เหตุผลที่เราแสดงความขอบพระคุณ

#คริสต์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #วันขอบคุณพระเจ้า #ขอบคุณพระเจ้า #ขอบคุณ #ขอบพระคุณ #พระเจ้า #มิสซาบูชาขอบพระคุณ #มิสซา #ศีลมหาสนิท #ประเทศสหรัฐอเมริกา #สหรัฐอเมริกา #อเมริกา #ประวัติศาสตร์ #catholic #thanksgiving 

CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/share/p/16n5WMxNkr/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่