เป็นที่ทราบกันดีว่าตอนนี้ที่ประเทศเนปาลประท้วงใหญ่จากกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือที่เรารู้จักในชื่อว่าเจนเนอเรชั่นz ผลสืบเนื่องมาจากทางรัฐบาลได้มีการปิดกั้นสื่ออินเตอร์เน็ตอย่างโซเชียลมีเดียจำนวน 24 สื่อ ซึ่งก็ถือว่าเยอะอยู่
-----
จนสร้างความไม่พอใจให้แก่กลุ่มนักเรียนนักศึกษาและที่สำคัญก็คือความสะสมของความฉ้อราษฎร์บังหลวงคอร์รัปชั่นในประเทศเนปาล ที่สะสมมาอย่างยาวนานหลายยุคหลายสมัยนักการเมืองพัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาอยู่ในรัฐสภามากอบโกยแล้วก็จากไปมีแต่ผู้สูงอายุทั้งนั้น
ลูกหลานนักการเมืองได้ไปอยู่ต่างประเทศใช้ชีวิตสะดวกสบายอัพโหลดรูปความหรูหรามั่งคั่งลงโซเชียลมีเดีย ทั้งทั้งที่ประชากรเนปาลนั้นมีความยากจนมีรายได้วันละ 100 กว่าบาทเท่านั้นเอง
การระงับระบบโซเชียลมีเดียเหมือนเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ความอดทนถึงที่สุดจากการชุมนุมกันโดยสงบกลายเป็นการชุมนุมกันโดยการก่อเหตุเผาบ้านเผาเมืองรวมถึงรัฐสภารามไปถึงที่อยู่อาศัยของนักการเมืองผู้ช่อฉล ก็ถูกเผาเรียบ
-----
จากสภาพเศรษฐกิจอันเปราะบางประชากรมากกว่า 20% ยังอยู่ในช่วงตกงานการที่ที่เกิดการจรจลเผาบ้านเผาเมืองก็เป็นโอกาสอันดีที่ชนกลุ่มนี้จะเสาะหาในการปล้นชิงเอาซึ่งทรัพย์สินของทางราชการทั้งทางรัฐบาลทั้งทางนักการเมืองทีช่อโกง เอากันแบบไม่ไว้หน้ากันเลยทีเดียว
แม่ผู้นำอย่างนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลหลายหลายคนก็ได้ลาออกไปเพื่อเป็นการรับผิดชอบและมีการปิดสนามบินเป็นเวลาหลายวันแต่ถึงกระนั้นอย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีทีท่าว่าการชุมนุมนี้จะหยุดลง ด้วยเหตุผลหลักการคือหนึ่งไม่มีผู้นำไม่มีใครควบคุม ทำให้เหตุการณ์บานปลายไปเรื่อยเรื่อย
อย่างที่สองทางทหารไม่มีความเข้มแข็งถึงแม้จะมีมีการประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกจากพื้นที่ห้ามออกจากบ้านแต่อย่างใดก็ตามคู่ชุมนุมก็ยังคงออกมาประท้วงการสกัดขั้นยังเป็นไปได้ยากและมีการกระจายการก่อเหตุไปในหลายพื้นที่
-----
หันมามองที่ประเทศเราบ้างทั้งคอรัปชั่นนั้นก็ยังมีอยู่อย่างที่เราเห็นว่าตึกบางตึกถล่มลงมายังตึกสตง. ก็ยังคงเกิดขึ้นเพราะการคอรัปชั่น ที่เราเห็นอยู่ตลอด มีทุกยุคทุกสมัยของรัฐบาล
แม้แต่ยังไม่หมดไปแต่หวังว่ามันจะมีน้อยลงเหตุการณ์การประท้วงอย่างนี้อาจจะได้ย้ำเตือนให้ทางนักการเมืองเขี้ยวลากดินทั้งหลายได้ตรึกตรองและสำนึกเพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์ชนิดที่ประเทศของเราก็ได้…
ประท้วงได้ประท้วงดี จนตอนนี้ เลยเถิดที่เนปาล
เป็นที่ทราบกันดีว่าตอนนี้ที่ประเทศเนปาลประท้วงใหญ่จากกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือที่เรารู้จักในชื่อว่าเจนเนอเรชั่นz ผลสืบเนื่องมาจากทางรัฐบาลได้มีการปิดกั้นสื่ออินเตอร์เน็ตอย่างโซเชียลมีเดียจำนวน 24 สื่อ ซึ่งก็ถือว่าเยอะอยู่
-----
จนสร้างความไม่พอใจให้แก่กลุ่มนักเรียนนักศึกษาและที่สำคัญก็คือความสะสมของความฉ้อราษฎร์บังหลวงคอร์รัปชั่นในประเทศเนปาล ที่สะสมมาอย่างยาวนานหลายยุคหลายสมัยนักการเมืองพัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาอยู่ในรัฐสภามากอบโกยแล้วก็จากไปมีแต่ผู้สูงอายุทั้งนั้น
ลูกหลานนักการเมืองได้ไปอยู่ต่างประเทศใช้ชีวิตสะดวกสบายอัพโหลดรูปความหรูหรามั่งคั่งลงโซเชียลมีเดีย ทั้งทั้งที่ประชากรเนปาลนั้นมีความยากจนมีรายได้วันละ 100 กว่าบาทเท่านั้นเอง
การระงับระบบโซเชียลมีเดียเหมือนเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ความอดทนถึงที่สุดจากการชุมนุมกันโดยสงบกลายเป็นการชุมนุมกันโดยการก่อเหตุเผาบ้านเผาเมืองรวมถึงรัฐสภารามไปถึงที่อยู่อาศัยของนักการเมืองผู้ช่อฉล ก็ถูกเผาเรียบ
-----
จากสภาพเศรษฐกิจอันเปราะบางประชากรมากกว่า 20% ยังอยู่ในช่วงตกงานการที่ที่เกิดการจรจลเผาบ้านเผาเมืองก็เป็นโอกาสอันดีที่ชนกลุ่มนี้จะเสาะหาในการปล้นชิงเอาซึ่งทรัพย์สินของทางราชการทั้งทางรัฐบาลทั้งทางนักการเมืองทีช่อโกง เอากันแบบไม่ไว้หน้ากันเลยทีเดียว
แม่ผู้นำอย่างนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลหลายหลายคนก็ได้ลาออกไปเพื่อเป็นการรับผิดชอบและมีการปิดสนามบินเป็นเวลาหลายวันแต่ถึงกระนั้นอย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีทีท่าว่าการชุมนุมนี้จะหยุดลง ด้วยเหตุผลหลักการคือหนึ่งไม่มีผู้นำไม่มีใครควบคุม ทำให้เหตุการณ์บานปลายไปเรื่อยเรื่อย
อย่างที่สองทางทหารไม่มีความเข้มแข็งถึงแม้จะมีมีการประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกจากพื้นที่ห้ามออกจากบ้านแต่อย่างใดก็ตามคู่ชุมนุมก็ยังคงออกมาประท้วงการสกัดขั้นยังเป็นไปได้ยากและมีการกระจายการก่อเหตุไปในหลายพื้นที่
-----
หันมามองที่ประเทศเราบ้างทั้งคอรัปชั่นนั้นก็ยังมีอยู่อย่างที่เราเห็นว่าตึกบางตึกถล่มลงมายังตึกสตง. ก็ยังคงเกิดขึ้นเพราะการคอรัปชั่น ที่เราเห็นอยู่ตลอด มีทุกยุคทุกสมัยของรัฐบาล
แม้แต่ยังไม่หมดไปแต่หวังว่ามันจะมีน้อยลงเหตุการณ์การประท้วงอย่างนี้อาจจะได้ย้ำเตือนให้ทางนักการเมืองเขี้ยวลากดินทั้งหลายได้ตรึกตรองและสำนึกเพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์ชนิดที่ประเทศของเราก็ได้…