สุขวิชโนมิกส์:โร๊ดแม๊ปไทยบนเวทีโลกด้านการท่องเที่ยว/Sukavichinomics: Thailand’s Tourism Roadmap towards a Global Hub
บทคัดย่อ
“สุขวิชโนมิกส์” เป็นปรัชญาการพัฒนา ด้วยแนวทางประชาชนเป็นศูนย์กลาง เชื่อมโยงการศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน และเศรษฐกิจเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
ในมิติการท่องเที่ยว ปรัชญานี้ได้กลายเป็นกรอบคิดสำคัญในการกำหนดโร๊ดแม๊ปประเทศไทยในเวทีโลก
การยกระดับการท่องเที่ยว เป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งสะท้อนอัตลักษณ์ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และศักยภาพเชิงภูมิรัฐศาสตร์ของไทย บทความนี้มุ่งอธิบายถึงการใช้ ปรัชญาสุขวิชโนมิกส์ ในการกำหนดทิศทางการท่องเที่ยวไทย
ตั้งแต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและบริการ ไปจนถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวคุณภาพที่สอดคล้องกับหลักความยั่งยืนและการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น
ผลลัพธ์คือการสร้างบทบาทใหม่ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลก และ เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียที่ขับเคลื่อนด้วยความสมดุลระหว่าง การศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
บทนำ
) 🌏 ปี 1997– การเริ่มต้นในปี 1997 โลกท่ามกลาง วิกฤตเศรษฐกิจแห่งเอเชีย ปี 1997 หรือ วิกฤตต้มยำกุ้ง 2540 การก่อตั้งวิทยาลัยการท่องเที่ยวอุดรธานีและ มีนบุรี ยุคอภิวัฒน์การศึกษา 2538
2) ปี 1999 ประเทศไทยมี GDP 2,010 ดอลลาร์สหรัฐฯ/คน และมีนักท่องเที่ยว 8.7 ล้านคน
ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์และวัฒนธรรมอันหลากหลาย แต่มีสถานการณ์เดียวกับ ประเทศเพื่อนบ้านของไทยในปัจจุบัน หรือ ไม่อยู่ในสายตานักท่องเที่ยวนานาชาติ เนื่องจากความสับสนในชื่อประเทศ:ชาวตะวันตกจำนวนมากยังคงสับสนระหว่าง Thailand กับ Taiwan เพราะชื่อคล้ายกัน และยังคุ้นกับชื่อ “Siam” ในยุคพระพุทธเจ้าหลวงซึ่ง สยามประเทศ เปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกตะวันตก
3) ปี 2000 – ทางยกระดับบางนา-บางพลี-บางปะกงแล้วเสร็จ และได้รับการยกย่องระดับโลก
🌁 ปี 2000: โครงการ “ทางยกระดับบางนา-บางพลี-บางปะกง” เสร็จสมบูรณ์ เป็นทางยกระดับที่มีความยาวถึง 55 กิโลเมตร (34 ไมล์)
ได้รับการ ยกย่องโดย 🏆
Guinness World Records พร้อมรางวัล สะพานยาวที่สุดในโลก World Longest Bridge 2000-2008
หลักฐานอ้างอิง https://www.guinnessworldrecords.com/world-records/longest-road-bridge
การ ใช้เทคโนโลยี Precast Concrete Segmental Construction ขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วิศวกรรมโยธาโลกในยุคโลกาภิวัฒน์ เป็นสะพานที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคนั้น และ ปัจจุบัน ยังคงดำรงอยู่
หลักฐานอ้างอิง ด้านวิศวกรรม
https://www.pci.org/PCI_Docs/Design_Resources/Guides_and_manuals/references/bridge_design_manual/JL-00-January-February_Bang_Na_Expressway,_Bangkok,_Thailand-World_s_Longest_Bridge_and_Largest_Precasting_Operation.pdf
ปี 2565
https://www.re-thinkingthefuture.com/articles/bang-na-expressway-and-burapha-withi-expressway-thailand/
ปี 2567
https://www.thestructuralengineer.info/news/thailand-the-54km-burapha-withi-expressway-held-the-title-of-worlds-longest-bridge-for-over-a-decade
ปี 2568 ยังคงเป็นที่ 6 ของโลก
https://www.mastt.com/blogs/longest-bridges-in-the-world
🧠 Bang Na Expressway หนึ่งในความสำเร็จเป็นรูปธรรมของ ปรัชญาสุขวิชโนมิกส์ ของ ฯพณฯสุขวิช รังสิตพล ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ระหว่าง ปี
2536-2537
หลักฐานอ้างอิง
https://www.nytimes.com/1993/09/03/IHT-embattled-thai-commuters-win-round.html
เส้นทางสาย นี้เชื่อมระหว่าง: กรุงเทพมหานคร — โซน EEC (ภาคตะวันออก) —ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ส่งผลให้ ประเทศไทยมีระบบคมนาคมที่เชื่อมต่อเมือง ท่าเรือ และสนามบินอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับการเติบโตด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในระยะยาว
4) ปี 2019 – ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลก
✈️ ปี 2019: ผ่านไป 19 ปีหลังทางยกระดับบางนาแล้วเสร็จ ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลก
นักท่องเที่ยวเพิ่มจาก 8.7 ล้านคน (1999) → 40 ล้านคน (2019)
GDP ต่อคนเพิ่มจาก 2,010 USD → 7,800 USD
หลักฐานอ้างอิง https://www.jsce.or.jp/e/archive/project/pj17.html
ทบทวนวรรณกรรม(Literature Review)
การเตรียมความพร้อมบุคลากรและการยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยบนเวทีโลก
ก่อนปี 2000 ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีวัฒนธรรมหลากหลาย แต่ไม่เป็นที่รู้จักในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ
ชาวตะวันตกจำนวนมากสับสนระหว่าง Thailand กับ Taiwan และชื่อประวัติศาสตร์ “Siam” ยังไม่เป็นที่คุ้นเคย การแก้ปัญหาการสร้างภาพลักษณ์นี้เกิดขึ้นควบคู่ไปกับ การอภิวัฒน์การศึกษา 2538 การเตรียมบุคลากร พร้อม ทักษะและความรู้เพื่อตอบสนองความต้องการของ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในระยะยาว การก่อตั้ง วิทยาลัยการท่องเที่ยวที่อุดรธานีและมีนบุรี ซึ่งสร้างฐานการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างยั่งยืน
หลักฐานอ้างอิง รางวัลการอภิวัฒน์การศึกษา 2538
https://web.archive.org/web/20220904100222/https://www.seameo.org/vl/library/dlwelcome/photogallery/president/sukavich.htm
ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การสร้าง Bang Na–Bang Phli–Bang Pakong Expressway แล้วเสร็จในปี 2000 และได้รับการบันทึกโดย Guinness World Records ในฐานะ World’s Longest Road Bridge (2000–2008) การบันทึกสถิตินี้เป็นเกียรติระดับโลกและทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในเวทีนานาชาติ
หลักฐานอ้างอิง
https://www.guinnessworldrecords.com/world-records/longest-road-bridge
การ PPP สนามบินสุวรรณภูมิ ปี 2539 กับประเทศญี่ปุ่น แสดงถึงการคิดและปฏิบัติแบบองค์รวมของ ปรัชญาสุขวิชโนมิกส์ ในการเชื่อมโยง การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โครงสร้างพื้นฐาน และเศรษฐกิจ เข้าด้วยกัน
หลักฐานการความร่วมมือญี่ปุ่นไทยปี ในโครงการสนามบินสุวรรณภูมิปี 2539 กำหนดเสร็จปี 2543 ภายหลังล่าช้า 7 ปี
หลักฐานอ้างอิง โครงการสนามบินสุวรรณภูมิ เริ่มปี 2539
https://www.jsce.or.jp/e/archive/project/pj17.html
ผลคือ ปรัชญาสุขวิชโนมิกส์ได้สร้าง กลยุทธ์เชิงสัญลักษณ์ (symbolic strategy) และเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ ที่ช่วยให้ประเทศไทยโดดเด่นในสายตานานาชาติ ทั้งในมิติการศึกษา การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ สะท้อนถึงบทบาทของการวางแผนแบบองค์รวมเพื่อยกระดับประเทศไทยบนเวทีโลก
ระเบียบวิธีวิจัย (Methodology)
งานวิจัยนี้ใช้ วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) และ การวิเคราะห์เอกสาร (Document Analysis) เพื่อศึกษากระบวนการและผลลัพธ์ของการนำ ปรัชญาสุขวิชโนมิกส์ มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาบุคลากรและยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยในมิติการศึกษา การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ
ขอบเขตการศึกษา
การอภิวัฒน์การศึกษา 2538–2540
การก่อตั้งวิทยาลัยการท่องเที่ยวที่อุดรธานีและมีนบุรี
การสร้างและบันทึกสถิติของ Bang Na–Bang Phli–Bang Pakong Expressway (Guinness World Records 2000–2008)
การ PPP โครงการสนามบินสุวรรณภูมิ ปี 2539
แหล่งข้อมูล
เอกสารทางการศึกษาและรายงานโครงการจากกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลจาก Guinness World Records และแหล่งวิชาการด้านวิศวกรรมและการท่องเที่ยว
วิธีการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล
การรวบรวมเอกสารและข้อมูลเชิงประจักษ์ (Archival and Documentary Review)
การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) เพื่อระบุบทบาทของการเตรียมความพร้อมบุคลากร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และกลยุทธ์เชิงสัญลักษณ์ (Symbolic Strategy)
การสังเคราะห์ข้อมูลเชิงประจักษ์และข้อมูลเชิงวิเคราะห์เพื่อสร้าง กรอบการตีความผลลัพธ์ ในบริบทการยกระดับภาพลักษณ์ประเทศ
เกณฑ์ความน่าเชื่อถือและความถูกต้อง
ใช้เอกสารและแหล่งข้อมูลจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น Guinness World Records, SEAMEO, JSCE
การเปรียบเทียบข้อมูลจากหลายแหล่งเพื่อยืนยันความถูกต้อง (Triangulation)
ผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้
การทำความเข้าใจบทบาทของการอภิวัฒน์การศึกษา2538 ในการพัฒนาบุคลากร
การระบุความสำคัญของการบันทึกสถิติระดับโลกและโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สร้าง ภาพลักษณ์เชิงสัญลักษณ์ (Symbolic Strategy)
การสรุปบทเรียนเชิงนโยบายและกลยุทธ์ที่สามารถนำไปปรับใช้ใน เป็นบทเรียนในการพัฒนาประเทศ สำหรับประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งต้องการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชน ด้วยบทเรียนของประเทศไทยในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และ โครงสร้างพื้นฐานแบบองค์รวม
การวิเคราะห์ (Analysis)
จากการศึกษาวิเคราะห์เอกสารและข้อมูลเชิงประจักษ์ พบว่า ปรัชญาสุขวิชโนมิกส์ ถูกนำมาใช้ในลักษณะ องค์รวม (holistic approach) เพื่อเชื่อมโยงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โครงสร้างพื้นฐาน และเศรษฐกิจเข้าด้วยกัน ผลการวิเคราะห์สามารถสรุปได้ดังนี้:
การเตรียมความพร้อมบุคลากร (Human Capital Development)
การอภิวัฒน์การศึกษา 2538–2540 สร้างระบบการเรียนรู้ที่เน้นคุณภาพและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน
การก่อตั้งวิทยาลัยการท่องเที่ยวที่อุดรธานีและมีนบุรี ช่วยพัฒนาทักษะและความรู้ของบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ทำให้ประเทศไทยมีบุคลากรที่พร้อมตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในระยะยาว
การยกระดับภาพลักษณ์ประเทศ (National Image Enhancement)
การสร้าง Bang Na–Bang Phli–Bang Pakong Expressway และการบันทึกสถิติ Guinness World Records (2000–2008) เป็น เครื่องมือเชิงสัญลักษณ์ (symbolic strategy) ที่ทำให้ต่างชาติจดจำประเทศไทย
การ PPP โครงการสนามบินสุวรรณภูมิ (2539) แสดงถึงความสามารถในการวางแผนและดำเนินโครงการขนาดใหญ่ร่วมกับพันธมิตรระหว่างประเทศ
ผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Impact)
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ควบคู่กับโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ไทยสามารถรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากและสร้างรายได้จากภาคการท่องเที่ยว
การได้รับการบันทึกสถิติและการสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ส่งเสริม การรับรู้ในเวทีโลก (global recognition) และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน
บทเรียนและแนวทางสำหรับประเทศกำลังพัฒนา (Policy Lessons for Developing Countries)
การวางแผนแบบองค์รวมที่ผสาน ปรัชญาการพัฒนา การศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน และเศรษฐกิจ สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
กลยุทธ์เชิงสัญลักษณ์ เช่น การบันทึกสถิติระดับโลก เป็นเครื่องมือเสริมภาพลักษณ์ประเทศในระดับนานาชาติ
สรุป
การวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า ปรัชญาสุขวิชโนมิกส์ ไม่ใช่เพียงปรัชญาเชิงทฤษฎี แต่เป็น กลยุทธ์ปฏิบัติที่สร้างผลกระทบเชิงรูปธรรม ทั้งในด้านบุคลากร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยสู่เวทีโลก
โร๊ดแม๊ปไทยบนเวทีโลกด้านการท่องเที่ยว / Sukavichinomics: Thailand’s Tourism Roadmap towards a Global Hub
บทคัดย่อ
“สุขวิชโนมิกส์” เป็นปรัชญาการพัฒนา ด้วยแนวทางประชาชนเป็นศูนย์กลาง เชื่อมโยงการศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน และเศรษฐกิจเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
ในมิติการท่องเที่ยว ปรัชญานี้ได้กลายเป็นกรอบคิดสำคัญในการกำหนดโร๊ดแม๊ปประเทศไทยในเวทีโลก
การยกระดับการท่องเที่ยว เป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งสะท้อนอัตลักษณ์ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และศักยภาพเชิงภูมิรัฐศาสตร์ของไทย บทความนี้มุ่งอธิบายถึงการใช้ ปรัชญาสุขวิชโนมิกส์ ในการกำหนดทิศทางการท่องเที่ยวไทย
ตั้งแต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและบริการ ไปจนถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวคุณภาพที่สอดคล้องกับหลักความยั่งยืนและการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น
ผลลัพธ์คือการสร้างบทบาทใหม่ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลก และ เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียที่ขับเคลื่อนด้วยความสมดุลระหว่าง การศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
บทนำ
) 🌏 ปี 1997– การเริ่มต้นในปี 1997 โลกท่ามกลาง วิกฤตเศรษฐกิจแห่งเอเชีย ปี 1997 หรือ วิกฤตต้มยำกุ้ง 2540 การก่อตั้งวิทยาลัยการท่องเที่ยวอุดรธานีและ มีนบุรี ยุคอภิวัฒน์การศึกษา 2538
2) ปี 1999 ประเทศไทยมี GDP 2,010 ดอลลาร์สหรัฐฯ/คน และมีนักท่องเที่ยว 8.7 ล้านคน
ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์และวัฒนธรรมอันหลากหลาย แต่มีสถานการณ์เดียวกับ ประเทศเพื่อนบ้านของไทยในปัจจุบัน หรือ ไม่อยู่ในสายตานักท่องเที่ยวนานาชาติ เนื่องจากความสับสนในชื่อประเทศ:ชาวตะวันตกจำนวนมากยังคงสับสนระหว่าง Thailand กับ Taiwan เพราะชื่อคล้ายกัน และยังคุ้นกับชื่อ “Siam” ในยุคพระพุทธเจ้าหลวงซึ่ง สยามประเทศ เปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกตะวันตก
3) ปี 2000 – ทางยกระดับบางนา-บางพลี-บางปะกงแล้วเสร็จ และได้รับการยกย่องระดับโลก
🌁 ปี 2000: โครงการ “ทางยกระดับบางนา-บางพลี-บางปะกง” เสร็จสมบูรณ์ เป็นทางยกระดับที่มีความยาวถึง 55 กิโลเมตร (34 ไมล์)
ได้รับการ ยกย่องโดย 🏆 Guinness World Records พร้อมรางวัล สะพานยาวที่สุดในโลก World Longest Bridge 2000-2008
หลักฐานอ้างอิง https://www.guinnessworldrecords.com/world-records/longest-road-bridge
การ ใช้เทคโนโลยี Precast Concrete Segmental Construction ขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วิศวกรรมโยธาโลกในยุคโลกาภิวัฒน์ เป็นสะพานที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคนั้น และ ปัจจุบัน ยังคงดำรงอยู่
หลักฐานอ้างอิง ด้านวิศวกรรม
https://www.pci.org/PCI_Docs/Design_Resources/Guides_and_manuals/references/bridge_design_manual/JL-00-January-February_Bang_Na_Expressway,_Bangkok,_Thailand-World_s_Longest_Bridge_and_Largest_Precasting_Operation.pdf
ปี 2565 https://www.re-thinkingthefuture.com/articles/bang-na-expressway-and-burapha-withi-expressway-thailand/
ปี 2567 https://www.thestructuralengineer.info/news/thailand-the-54km-burapha-withi-expressway-held-the-title-of-worlds-longest-bridge-for-over-a-decade
ปี 2568 ยังคงเป็นที่ 6 ของโลก https://www.mastt.com/blogs/longest-bridges-in-the-world
🧠 Bang Na Expressway หนึ่งในความสำเร็จเป็นรูปธรรมของ ปรัชญาสุขวิชโนมิกส์ ของ ฯพณฯสุขวิช รังสิตพล ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ระหว่าง ปี 2536-2537
หลักฐานอ้างอิง https://www.nytimes.com/1993/09/03/IHT-embattled-thai-commuters-win-round.html
เส้นทางสาย นี้เชื่อมระหว่าง: กรุงเทพมหานคร — โซน EEC (ภาคตะวันออก) —ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ส่งผลให้ ประเทศไทยมีระบบคมนาคมที่เชื่อมต่อเมือง ท่าเรือ และสนามบินอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับการเติบโตด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในระยะยาว
4) ปี 2019 – ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลก
✈️ ปี 2019: ผ่านไป 19 ปีหลังทางยกระดับบางนาแล้วเสร็จ ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลก
นักท่องเที่ยวเพิ่มจาก 8.7 ล้านคน (1999) → 40 ล้านคน (2019)
GDP ต่อคนเพิ่มจาก 2,010 USD → 7,800 USD
หลักฐานอ้างอิง https://www.jsce.or.jp/e/archive/project/pj17.html
ทบทวนวรรณกรรม(Literature Review)
การเตรียมความพร้อมบุคลากรและการยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยบนเวทีโลก
ก่อนปี 2000 ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีวัฒนธรรมหลากหลาย แต่ไม่เป็นที่รู้จักในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ
ชาวตะวันตกจำนวนมากสับสนระหว่าง Thailand กับ Taiwan และชื่อประวัติศาสตร์ “Siam” ยังไม่เป็นที่คุ้นเคย การแก้ปัญหาการสร้างภาพลักษณ์นี้เกิดขึ้นควบคู่ไปกับ การอภิวัฒน์การศึกษา 2538 การเตรียมบุคลากร พร้อม ทักษะและความรู้เพื่อตอบสนองความต้องการของ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในระยะยาว การก่อตั้ง วิทยาลัยการท่องเที่ยวที่อุดรธานีและมีนบุรี ซึ่งสร้างฐานการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างยั่งยืน
หลักฐานอ้างอิง รางวัลการอภิวัฒน์การศึกษา 2538 https://web.archive.org/web/20220904100222/https://www.seameo.org/vl/library/dlwelcome/photogallery/president/sukavich.htm
ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การสร้าง Bang Na–Bang Phli–Bang Pakong Expressway แล้วเสร็จในปี 2000 และได้รับการบันทึกโดย Guinness World Records ในฐานะ World’s Longest Road Bridge (2000–2008) การบันทึกสถิตินี้เป็นเกียรติระดับโลกและทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในเวทีนานาชาติ
หลักฐานอ้างอิง https://www.guinnessworldrecords.com/world-records/longest-road-bridge
การ PPP สนามบินสุวรรณภูมิ ปี 2539 กับประเทศญี่ปุ่น แสดงถึงการคิดและปฏิบัติแบบองค์รวมของ ปรัชญาสุขวิชโนมิกส์ ในการเชื่อมโยง การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โครงสร้างพื้นฐาน และเศรษฐกิจ เข้าด้วยกัน
หลักฐานการความร่วมมือญี่ปุ่นไทยปี ในโครงการสนามบินสุวรรณภูมิปี 2539 กำหนดเสร็จปี 2543 ภายหลังล่าช้า 7 ปี
หลักฐานอ้างอิง โครงการสนามบินสุวรรณภูมิ เริ่มปี 2539 https://www.jsce.or.jp/e/archive/project/pj17.html
ผลคือ ปรัชญาสุขวิชโนมิกส์ได้สร้าง กลยุทธ์เชิงสัญลักษณ์ (symbolic strategy) และเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ ที่ช่วยให้ประเทศไทยโดดเด่นในสายตานานาชาติ ทั้งในมิติการศึกษา การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ สะท้อนถึงบทบาทของการวางแผนแบบองค์รวมเพื่อยกระดับประเทศไทยบนเวทีโลก
ระเบียบวิธีวิจัย (Methodology)
งานวิจัยนี้ใช้ วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) และ การวิเคราะห์เอกสาร (Document Analysis) เพื่อศึกษากระบวนการและผลลัพธ์ของการนำ ปรัชญาสุขวิชโนมิกส์ มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาบุคลากรและยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยในมิติการศึกษา การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ
ขอบเขตการศึกษา
การอภิวัฒน์การศึกษา 2538–2540
การก่อตั้งวิทยาลัยการท่องเที่ยวที่อุดรธานีและมีนบุรี
การสร้างและบันทึกสถิติของ Bang Na–Bang Phli–Bang Pakong Expressway (Guinness World Records 2000–2008)
การ PPP โครงการสนามบินสุวรรณภูมิ ปี 2539
แหล่งข้อมูล
เอกสารทางการศึกษาและรายงานโครงการจากกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลจาก Guinness World Records และแหล่งวิชาการด้านวิศวกรรมและการท่องเที่ยว
วิธีการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล
การรวบรวมเอกสารและข้อมูลเชิงประจักษ์ (Archival and Documentary Review)
การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) เพื่อระบุบทบาทของการเตรียมความพร้อมบุคลากร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และกลยุทธ์เชิงสัญลักษณ์ (Symbolic Strategy)
การสังเคราะห์ข้อมูลเชิงประจักษ์และข้อมูลเชิงวิเคราะห์เพื่อสร้าง กรอบการตีความผลลัพธ์ ในบริบทการยกระดับภาพลักษณ์ประเทศ
เกณฑ์ความน่าเชื่อถือและความถูกต้อง
ใช้เอกสารและแหล่งข้อมูลจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น Guinness World Records, SEAMEO, JSCE
การเปรียบเทียบข้อมูลจากหลายแหล่งเพื่อยืนยันความถูกต้อง (Triangulation)
ผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้
การทำความเข้าใจบทบาทของการอภิวัฒน์การศึกษา2538 ในการพัฒนาบุคลากร
การระบุความสำคัญของการบันทึกสถิติระดับโลกและโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สร้าง ภาพลักษณ์เชิงสัญลักษณ์ (Symbolic Strategy)
การสรุปบทเรียนเชิงนโยบายและกลยุทธ์ที่สามารถนำไปปรับใช้ใน เป็นบทเรียนในการพัฒนาประเทศ สำหรับประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งต้องการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชน ด้วยบทเรียนของประเทศไทยในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และ โครงสร้างพื้นฐานแบบองค์รวม
การวิเคราะห์ (Analysis)
จากการศึกษาวิเคราะห์เอกสารและข้อมูลเชิงประจักษ์ พบว่า ปรัชญาสุขวิชโนมิกส์ ถูกนำมาใช้ในลักษณะ องค์รวม (holistic approach) เพื่อเชื่อมโยงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โครงสร้างพื้นฐาน และเศรษฐกิจเข้าด้วยกัน ผลการวิเคราะห์สามารถสรุปได้ดังนี้:
การเตรียมความพร้อมบุคลากร (Human Capital Development)
การอภิวัฒน์การศึกษา 2538–2540 สร้างระบบการเรียนรู้ที่เน้นคุณภาพและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน
การก่อตั้งวิทยาลัยการท่องเที่ยวที่อุดรธานีและมีนบุรี ช่วยพัฒนาทักษะและความรู้ของบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ทำให้ประเทศไทยมีบุคลากรที่พร้อมตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในระยะยาว
การยกระดับภาพลักษณ์ประเทศ (National Image Enhancement)
การสร้าง Bang Na–Bang Phli–Bang Pakong Expressway และการบันทึกสถิติ Guinness World Records (2000–2008) เป็น เครื่องมือเชิงสัญลักษณ์ (symbolic strategy) ที่ทำให้ต่างชาติจดจำประเทศไทย
การ PPP โครงการสนามบินสุวรรณภูมิ (2539) แสดงถึงความสามารถในการวางแผนและดำเนินโครงการขนาดใหญ่ร่วมกับพันธมิตรระหว่างประเทศ
ผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Impact)
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ควบคู่กับโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ไทยสามารถรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากและสร้างรายได้จากภาคการท่องเที่ยว
การได้รับการบันทึกสถิติและการสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ส่งเสริม การรับรู้ในเวทีโลก (global recognition) และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน
บทเรียนและแนวทางสำหรับประเทศกำลังพัฒนา (Policy Lessons for Developing Countries)
การวางแผนแบบองค์รวมที่ผสาน ปรัชญาการพัฒนา การศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน และเศรษฐกิจ สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
กลยุทธ์เชิงสัญลักษณ์ เช่น การบันทึกสถิติระดับโลก เป็นเครื่องมือเสริมภาพลักษณ์ประเทศในระดับนานาชาติ
สรุป
การวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า ปรัชญาสุขวิชโนมิกส์ ไม่ใช่เพียงปรัชญาเชิงทฤษฎี แต่เป็น กลยุทธ์ปฏิบัติที่สร้างผลกระทบเชิงรูปธรรม ทั้งในด้านบุคลากร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยสู่เวทีโลก