ภูมิใจไทย พร้อมเดินหน้า "คนละครึ่ง" คาดเริ่มได้ใน 2 สัปดาห์หลังแถลงนโนบาย

กระทู้สนทนา
 

         สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ย. 2568)--นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เปิดเผยความคืบหน้าโครงการ "คนละครึ่ง" ว่า หากภายในเดือนกันยายนนี้ได้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่จะสามารถเดินหน้าโครงการได้ภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งกระทรวงการคลังมีงบประมาณเบื้องต้น 25,000 ล้านบาทเตรียมไว้แล้ว โดยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รมว.คลัง กำลังจัดหาข้อมูลเพิ่มเติมและแหล่งเงินใหม่เพื่อเสริมงบประมาณให้โครงการ
          
          อย่างไรก็ดี ต้องรอดูว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี จะมีการแถลงนโยบายได้เมื่อไร เนื่องจากความเร็วในการแถลงนโยบายจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ด้วย
          
          "ถ้าแถลงนโยบายแล้ว สามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้ภายในปีงบประมาณ 68 นี้ น่าจะลองดูไม่เกินเพิ่มเติมได้ เพราะปีงบฯ 68 จบ 30 ก.ย. 68 หลังจากนั้น ก็ต้องไปใช้งบฯ ปี 69 โดยงบ 2.5 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นงบฯ ที่กระทรวงการคลังเก็บไว้ เพราะงบกระตุ้นเศรษฐกิจเอาไปใส่ในงบกลางแล้ว ซึ่งถ้าครม. เข้ามาทันก็น่าจะนำงบมาใช้ได้" หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคภูมิใจไทย กล่าว
          
          สำหรับเงื่อนไขใหม่ ๆ ที่จะคาดว่าจะได้เห็นในการทำโครงการ "คนละครึ่ง" นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ประเด็นที่ได้ฟังเสียงจากกรรมการบริหารพรรค สส. ในพรรคสะท้อน คือช่วงแรกตอนเริ่มโครงการ มีเรื่องความล่าช้าของการโอนเงิน หรือกลุ่มของคนที่จะใช้สิทธิ์ จึงอยากขยายให้กว้างขึ้น เช่น รอบที่แล้วเริ่มต้นอายุ 18 ปี หรือกลุ่มเปราะบางที่มีบัตรสวัสดิการ ไม่มีสิทธิ์ได้ เป็นต้น รวมถึงการขยายสิทธิ์ไปยังกลุ่มผู้เสียภาษี 11 ล้านคนตามแนวคิด 60:40 เพื่อจูงใจให้เข้าสู่ระบบภาษี
          
          ในส่วนของกลุ่มร้านค้า นายสิริพงศ์ยืนยันว่า หากร้านค้าเข้าร่วมโครงการจะไม่ถูกตรวจสอบภาษีย้อนหลังอย่างแน่นอน และหากไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งในครั้งนี้ร้านที่จด VAT จะสามารถรับได้หรือไม่ และควรเป็นร้านแบบไหน ต้องพิจารณาเพิ่ม
          
          สำหรับรายละเอียดอื่น ๆ ของโครงการ ทีมเศรษฐกิจอยู่ระหว่างพิจารณา เช่น การเพิ่มวงเงินต่อวันจาก 150 บาทเป็น 200 บาท รวมถึงการควบคุมราคาสินค้าและการลดค่า GP ของแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการด้วย และในเรื่องของกรอบระยะเวลาของโครงการด้วย
          
          ในส่วนข้อห้ามของการใช้สิทธิ์ น่าจะยังคงเป็นไปตามเดิม เช่น ห้ามซื้อสุรา บุหรี่ สลากกินแบ่งรัฐบาล หรือห้ามจ่ายค่าบริการ ส่วนจะมีการควบคุมสินค้าเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะนี้ทางทีมเศรษฐกิจอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มเติม
          
          นายสิริพงศ์ ย้ำว่า หากโครงการสามารถเริ่มต้นได้ตามกรอบเวลาที่วางไว้ จะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายในประเทศโดยตรง เพราะเงินสิทธิ์จะถูกนำไปใช้จ่ายจริง

https://www.infoquest.co.th/news/2025-IR8A0IQ42CG69G75XEG2TP8J4WUB1LE7


สมัยเงินหมื่นรอแล้วรออีก รอบนี้มีเวลาแค่ 4เดือนทำอะไรรีบทำ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่