เริ่มเรื่องเลยนะคะ เราคบกับผู้ชายคนนึง ตอนนั้นอายุเรา 20 ผู้ชายคนนั้นอายุมากกว่าเรา 2 ปี (22 ปี) เรารู้จักกันมาได้ 3 เดือนก็ตัดสินใจแต่งงานค่ะ ทางบ้านเราสองคนรับรู้ทุกอย่าง ความสัมพันธ์ของเราก็ดำเนินมาได้ด้วยดีค่ะ เค้าก็เป็นคนเสมอต้นเสมอปลายดี ดูแลเอาใจใส่ ไปรับ-ส่งตลอด แต่หลังจากเเต่งงานเราก็ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในบ้านหลังเดียวกันสะทีเดียว เพราะเราอยู่นนทบุรี ส่วนเค้าต้องทำงานกับที่บ้านที่ต่างหวัด เค้าก็เดินทางไปมาบ้านเราบ้านเค้า ใน 1 เดือน เค้าก็จะมาหาเราที่บ้านช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ทุกอาทิตย์ กลับบ้านเค้าเช้าวันจันทร์ ระหว่างที่ไม่ได้เจอกัน ก็คอลคุยกันทุกวัน ไม่เคยมีเหตุการนอกใจอะไรเลยค่ะ ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ใช้ชีวิตด้วยกันมา จนกระทั่งเราท้อง
หลังจากที่เรารู้ว่าท้อง เราก็แอบเครียดนะคะ เพราะตลอดเวลาที่เราใช้ชีวิตอยู่กัน เค้าก็ไม่ค่อยได้ซัพพอร์ตอะไรเราสักเท่าไหร่ เราก็พยายามเข้าใจค่ะ เพราะว่าเค้าทำงานกับที่บ้าน เราก็คิดในแง่ดี เค้าจะอ้างว่า เค้าต้องช่วยแม่เค้าส่งธนาคารบ้าง ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีบ้าง (แต่เป็นมาตลอด 6 ปีเลย มันจะไม่ดีขึ้นสักปีเลยหรอ?) เราก็บอกเค้านะคะ เราสองคนต้องเตรียมเก็บเงิน ไหนจะค่าฝากท้อง ค่าลอดลูก แล้วยังรายจ่ายอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นมาอีกในอนาคตเกี่ยวกับลูก เค้าก็รับทราบ (รับทราบเเต่ไม่รับผิดชอบอะไรสักอย่างรึป่าว 5555) จนเวลาล่วงผ่านมา ตอนเราท้อง 3 เดือน ก็เริ่มต้องมีการตรวจนิฟ เราก็ยังต้องออกค่าใช้จ่ายคนเดียว เค้าบอกว่าเดี๋ยวเงินเค้าได้เดือนนั้นเดือนนี้ เเล้วเดี๋ยวเค้าเอามาคืนเรา เราก็รอค่ะ ช่วงท้องเราก็ทยอยซื้อของๆลูก เค้าก็บอกกับเราว่ารอเงินก่อนนะ ยังไม่ออกเลย บลาๆๆๆ สรุป เราออกเงินซื้อของใช้ลูกเองเกือบจะทั้งหมด วันคลอดค่าคลอดลูกเค้าก็ไม่มีมา ต้องขอยืมแม่เค้ามาอีก พอเราเบิกเงินค่าคลอดคืนได้เราก็ยังต้องเอาไปคืนแม่เค้า (เราเครียดมาก.......) ในวันนั้นที่เรากลับบ้านเราก็เริ่มคิดว่านี่คือสิ่งที่เราเลือกเองสินะ เราลาคลอดเเค่เดือนเดียวเราก็ไปทำงานค่ะ เค้าก็เทียวไปเทียวมานะ หาลูกเอยอะไรเอย เเต่อย่างที่เล่าตอนต้นค่ะ เค้าไปๆมาๆ มาเเค่ช่วง ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เค้าก็เลยไม่ค่อยได้เลี้ยงลูกเท่าไหร่ ตั้งแต่หลังคลอดจนถึงลูกอายุได้ 5 เดือน เราไม่ได้มีอะไรกับเเฟนเลย เพราะเเค่เลี้ยงลูกกับทำงานก็เหนื่อยมากๆแล้ว ถึงจะมีพ่อแม่ช่วยเลี้ยงก็ตาม แม่เราก็เริ่มรู้สึกว่าเค้าไม่สามารถดูแลเรากับลูกได้เลย เพราะว่าค่าใช้จ่ายในการดูแลลูกในตอนนั้น เค้าให้ไม่ได้เลย แม่เราก็เลยทะเลาะกับสามี(เก่า)เราและไม่อยากให้เรากับลูกทนแบบนี้ เลยให้เราตัดสินใจเลิกค่ะ
หลังจากที่แม่เราไม่ให้เราเจอกัน เราก็ยังแอบติดต่อกับเค้าอยู่ทุกวันนะคะ เพราะเราไม่อยากให้ลูกขาดพ่อ เขาเองก็บอกว่าเค้าจะทำงานเพื่อลูกค่ะ เราก็รอที่จะหางานใหม่เพื่อที่จะได้มีเงินมากขึ้นกว่านี้เพื่อที่จะดูแลลูกได้ด้วยตนเอง (เพราะช่วงนี้คือ ที่บ้านคอยซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายของลูกเราทั้งหมดเลย) เราก็ยังตาบอดนะคะช่วงนั้น ก็เชื่อว่าที่เค้าทำอยู่ทุกวันเนี่ย ทำเพื่อลูกเเละเราเเน่ๆ จนกระทั่ง เราได้รับข้อความแจ้งเตือนจาก Google Play ค่ะ ข้อความนั้นคือ การำระเงินจากแอพ Tinder ถูกปฏิเสธ ซึ่งตอนนั้นเราเข้าใจว่า เป็นน้องชายเค้าที่สมัครแอพนี้ (ที่เราคิดแบบนั้นเพราะว่าบัญชี Google ของเราใช้กันทั้งหมด 5 คน คือ เรา สามี(เก่า) น้องชายของสามี(เก่า) 2 คน และน้องสาวของสามี(เก่า) )มันเลยทำให้เราเข้าใจว่าน้องชายเค้าสมัตร แต่มันตัดบัตรไม่ได้เพราะว่าไม่มีรหัส เราก็ยังแคปหน้าจอให้เค้าดูเลยว่า " เออเธอ เนี่ยน้องชายเธอสมัครแอพนี้เเน่เลย แต่สมัครไม่ได้เพราะไม่มีรหัสแน่เลย " เค้าก็เเบบ " อ่อ หรอๆ เดี๋ยวบอกมันให้นะ " แล้วมันก็เอ๊ะมาเรื่อยๆเลย โทรศัพท์เรามีรหัสเฟสเค้า ซึ่งเราไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปนะคะ เเต่มันเด้งเเจ้งเตือนมา เราก็พยายามจะเข้าไปลบบัญชีเฟสบุ๊คของเค้าออกจากเครื่องของเรา แต่มันลบไม่ได้ เราก็พยายามหาวิธี แล้วก็ไปเจอเค้าแชร์โพสประมาณว่า
7 คำถาม Deeptalk สำหรับคู่รักที่เพิ่งรู้จักกัน
10 คำถาม deeptalk เดทแรก
มันมี 2 แอคตอนนั้น (ตอนนี้มี 3 แอคละ)
จากนั้นเราก็เริ่มเป็นโคนันเลย เราก็เข้าไปเช็คประวัติ Google มีการค้นหาชื่อโรงแรมๆหนึ่ง เเล้วจากนั้นเราก็เข้าไปดูการจัดการแอปและอุปกรณ์ใน Google Play ค่ะ ปรากฎว่าโทรศัพท์ของเค้าโหลดแอพ Tinder และแอพหาคู่อื่นๆ มาเพียบเลย เราก็แคป แล้วรอมาถามเค้าภายหลัง เค้าก็บอกว่าไม่เคยเข้าไปเลย (ใช่สิ สมัครไม่ผ่านหนิ
ยยยยยย) ช่วงนั้นปีใหม่ปี 2568 พอดีเราติดต่อเค้าไม่ได้เลย ก็คิดและสงสัยว่าเค้าแอบไปกับคนในแอพแน่ๆ เราก็โทร.ไปหาแม่เค้าว่า แม่เค้ารู้รึป่าวว่าลูกเค้าไปไหน เค้าตอบเรากลับมาเเค่ว่า ไม่รู้เลย เพราะลูกเค้าไปอยู่บ้านสวนที่ห่างออกไปอีก เลยไม่รู้ว่าไปไหน เราก็เลยบอกว่า ถ้ากลับมาให้แม่เค้าโทร.บอกเราหน่อย (แต่ไม่ได้รับสารใดๆ จากแม่เค้าเลย ////// ก็เค้าแม่ลูกกันอ่ะเนอะ) หลังจากนั้นเราก็ไปเจอในแอพ X อีก เค้าไปเม้นในโพสนึง (พูดได้ไหมพี่จี้) ว่า " อยากเลีย xี "
ช๊อตนี้คือ ทำไมคนที่เรารู้จักมา 6 ปี เข้าปีที่ 7 ทำไมเป็นคนแบบนี้ว่ะ แล้วมันก็รีโพสอะไรแบบนี้เยอะมาก
ถามเค้า เค้าตอบเราว่าไงรู้ไหม เค้าบอกเราว่า " ไม่รู้ทำไมพี่ทำแบบนั้น " คำตอบเชี้ยมาก รู้ทั้งรู้.... แต่เลือกตอบว่า ไม่รู้ว่าเพราะอะไร (สถานะการณ์นี้เราเพิ่งไม่เจอกันเเค่ 1 เดือน) แค่เราไม่ได้เจอกเป๊ปเดียว 1 เดือนเท่านั้น เป็นคนแบบนี้ คือเสียใจมาก.... เเต่ก็ยังไม่ได้ตัดขาดนะ เราคิดแค่เราไม่อยากให้ลูกเราขาดพ่อ ก็เลยยอมให้อภัย เพราะนี่เป็นครั้งเเรก เค้าก็ทำตัวเหมือนปกติที่เรารู้จักกันมา 6 ปี หลังจากที่เราจับได้ เค้าสัญญาว่าจะไม่มีอีก เค้าจะทำเพื่อลูกเพื่อเรา จะได้มาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว เค้าว่าเค้าขาดเรากับลูกไม่ได้ ถ้าไม่เรากับลูกเค้าจะ ฆตต. ไม่นานหลังจากวันนั้น2-3วันแม่เค้าก็พาไปหาพระ (เค้าอ้างว่าแม่เค้าพาไปหาพระ) หลวงพ่อบอกว่าเค้าโดนของมา คนๆนั้นตั้งใจทำให้ชีวิตเค้าไม่มีความสุข (ชีวิตหรือกูที่ไม่มีความสุข ใฝ่หาแต่ xี ) เราก็คุยกันปกติเหมือนเดิมทุกวันเราก็ให้เค้าวีดีโอคอลกับลูกทุกครั้งที่มีโอกาส เราให้เค้าบอกกับแม่ของเค้า ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ระหว่างเราสองคน แต่ตั้งเเต่เกิดเรื่อง เค้าไม่เคยเล่าอะไรให้แม่เค้าฟังเลย จนกระทั่งเดือน กรกฎาคม 2568 ปลายๆเดือน เค้าบอกเราว่า เค้าตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่เค้าฟังเเล้วนะ เราก็บอกเค้า ก็ดีเเล้ว เค้าจะได้รู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง (ก็แอบหวังให้เเม่เค้ามาถามไถเราบ้างว่าเราเป็นยังไงบ้าง ลูกเราเป็นยังไง แต่ไม่เคยมาถามไถ่เลย) ตั้งเเต่วันนั้นเรากับเค้าก็คุยกันน้อยลงมากๆ ในระยะเวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์ เค้าบอกเราว่า เค้ามีคนคุยละนะ เราก็แบบ ทั้งโกรธทั้งโมโหทั้งเสียใจรู้สึกผิดกับลูกมาก ทำไมเราถึงเลือกให้เค้ามาเป็นพ่อของเด็กคนนี้ เด็กคนนึงที่เกิดมาแล้ว แล้วตอนนี้เค้ากำลังจะขาดพ่อ เราว่าเค้าเยอะมากค่ะ อยากจะเอามาลงเลย 55555 ด่าไปร้องไห้ไป เราให้เค้าส่งเงินมาให้ลูก ช่วยเหลือค่าเลี้ยงลูกบ้าง เค้าบอกไม่มี แต่เค้าพาคนคุย ไปเที่ยวน้ำตกได้ เค้าสารภาพว่าไปเจอกันมา 3 ครั้งเเล้ว นี่คือ..... ปล่อยให้กูโง่เป็นควาย เชื่อคำพูดคนที่เป็นพ่อของลูก ว่าจะทำเพื่อลูก กูดูโง่มากสินะ พอเราว่าเค้า เค้าก็บอกเราว่า ไม่ใช่เพราะแม่เราหรอที่ไล่เค้าออกจากบ้านไป นู่นนี่นั่น เราบอกเค้าว่า ใช่ เรารู้ว่าแม่เราผิดเรื่องนั้นแต่ก็เพราะเลี้ยงกูกะลูกไม่ได้ เเล้วอยากถามว่า กูกับลูก ผิดอะไร ทำไมทำกับกูและลูกแบบนี้
ทุกคนว่าเรื่องนี้ใครผิดค่ะ เราผิดหรอที่เราเลือกที่บ้านกับลูก แล้วแม่เราผิดหรอที่ไล่เค้าไป มีความเห็นยังไงกันบ้างค่ะ ท้ายที่สุดนี้ จงเชื่อเซนส์ของตัวเองค่ะ ผู้หญิงเซนส์แรง
ประสบการณ์เจอตะกวดในรูปลักษณ์ของมนุษย์ค่ะ
หลังจากที่เรารู้ว่าท้อง เราก็แอบเครียดนะคะ เพราะตลอดเวลาที่เราใช้ชีวิตอยู่กัน เค้าก็ไม่ค่อยได้ซัพพอร์ตอะไรเราสักเท่าไหร่ เราก็พยายามเข้าใจค่ะ เพราะว่าเค้าทำงานกับที่บ้าน เราก็คิดในแง่ดี เค้าจะอ้างว่า เค้าต้องช่วยแม่เค้าส่งธนาคารบ้าง ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีบ้าง (แต่เป็นมาตลอด 6 ปีเลย มันจะไม่ดีขึ้นสักปีเลยหรอ?) เราก็บอกเค้านะคะ เราสองคนต้องเตรียมเก็บเงิน ไหนจะค่าฝากท้อง ค่าลอดลูก แล้วยังรายจ่ายอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นมาอีกในอนาคตเกี่ยวกับลูก เค้าก็รับทราบ (รับทราบเเต่ไม่รับผิดชอบอะไรสักอย่างรึป่าว 5555) จนเวลาล่วงผ่านมา ตอนเราท้อง 3 เดือน ก็เริ่มต้องมีการตรวจนิฟ เราก็ยังต้องออกค่าใช้จ่ายคนเดียว เค้าบอกว่าเดี๋ยวเงินเค้าได้เดือนนั้นเดือนนี้ เเล้วเดี๋ยวเค้าเอามาคืนเรา เราก็รอค่ะ ช่วงท้องเราก็ทยอยซื้อของๆลูก เค้าก็บอกกับเราว่ารอเงินก่อนนะ ยังไม่ออกเลย บลาๆๆๆ สรุป เราออกเงินซื้อของใช้ลูกเองเกือบจะทั้งหมด วันคลอดค่าคลอดลูกเค้าก็ไม่มีมา ต้องขอยืมแม่เค้ามาอีก พอเราเบิกเงินค่าคลอดคืนได้เราก็ยังต้องเอาไปคืนแม่เค้า (เราเครียดมาก.......) ในวันนั้นที่เรากลับบ้านเราก็เริ่มคิดว่านี่คือสิ่งที่เราเลือกเองสินะ เราลาคลอดเเค่เดือนเดียวเราก็ไปทำงานค่ะ เค้าก็เทียวไปเทียวมานะ หาลูกเอยอะไรเอย เเต่อย่างที่เล่าตอนต้นค่ะ เค้าไปๆมาๆ มาเเค่ช่วง ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เค้าก็เลยไม่ค่อยได้เลี้ยงลูกเท่าไหร่ ตั้งแต่หลังคลอดจนถึงลูกอายุได้ 5 เดือน เราไม่ได้มีอะไรกับเเฟนเลย เพราะเเค่เลี้ยงลูกกับทำงานก็เหนื่อยมากๆแล้ว ถึงจะมีพ่อแม่ช่วยเลี้ยงก็ตาม แม่เราก็เริ่มรู้สึกว่าเค้าไม่สามารถดูแลเรากับลูกได้เลย เพราะว่าค่าใช้จ่ายในการดูแลลูกในตอนนั้น เค้าให้ไม่ได้เลย แม่เราก็เลยทะเลาะกับสามี(เก่า)เราและไม่อยากให้เรากับลูกทนแบบนี้ เลยให้เราตัดสินใจเลิกค่ะ
หลังจากที่แม่เราไม่ให้เราเจอกัน เราก็ยังแอบติดต่อกับเค้าอยู่ทุกวันนะคะ เพราะเราไม่อยากให้ลูกขาดพ่อ เขาเองก็บอกว่าเค้าจะทำงานเพื่อลูกค่ะ เราก็รอที่จะหางานใหม่เพื่อที่จะได้มีเงินมากขึ้นกว่านี้เพื่อที่จะดูแลลูกได้ด้วยตนเอง (เพราะช่วงนี้คือ ที่บ้านคอยซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายของลูกเราทั้งหมดเลย) เราก็ยังตาบอดนะคะช่วงนั้น ก็เชื่อว่าที่เค้าทำอยู่ทุกวันเนี่ย ทำเพื่อลูกเเละเราเเน่ๆ จนกระทั่ง เราได้รับข้อความแจ้งเตือนจาก Google Play ค่ะ ข้อความนั้นคือ การำระเงินจากแอพ Tinder ถูกปฏิเสธ ซึ่งตอนนั้นเราเข้าใจว่า เป็นน้องชายเค้าที่สมัครแอพนี้ (ที่เราคิดแบบนั้นเพราะว่าบัญชี Google ของเราใช้กันทั้งหมด 5 คน คือ เรา สามี(เก่า) น้องชายของสามี(เก่า) 2 คน และน้องสาวของสามี(เก่า) )มันเลยทำให้เราเข้าใจว่าน้องชายเค้าสมัตร แต่มันตัดบัตรไม่ได้เพราะว่าไม่มีรหัส เราก็ยังแคปหน้าจอให้เค้าดูเลยว่า " เออเธอ เนี่ยน้องชายเธอสมัครแอพนี้เเน่เลย แต่สมัครไม่ได้เพราะไม่มีรหัสแน่เลย " เค้าก็เเบบ " อ่อ หรอๆ เดี๋ยวบอกมันให้นะ " แล้วมันก็เอ๊ะมาเรื่อยๆเลย โทรศัพท์เรามีรหัสเฟสเค้า ซึ่งเราไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปนะคะ เเต่มันเด้งเเจ้งเตือนมา เราก็พยายามจะเข้าไปลบบัญชีเฟสบุ๊คของเค้าออกจากเครื่องของเรา แต่มันลบไม่ได้ เราก็พยายามหาวิธี แล้วก็ไปเจอเค้าแชร์โพสประมาณว่า
7 คำถาม Deeptalk สำหรับคู่รักที่เพิ่งรู้จักกัน
10 คำถาม deeptalk เดทแรก
มันมี 2 แอคตอนนั้น (ตอนนี้มี 3 แอคละ)
จากนั้นเราก็เริ่มเป็นโคนันเลย เราก็เข้าไปเช็คประวัติ Google มีการค้นหาชื่อโรงแรมๆหนึ่ง เเล้วจากนั้นเราก็เข้าไปดูการจัดการแอปและอุปกรณ์ใน Google Play ค่ะ ปรากฎว่าโทรศัพท์ของเค้าโหลดแอพ Tinder และแอพหาคู่อื่นๆ มาเพียบเลย เราก็แคป แล้วรอมาถามเค้าภายหลัง เค้าก็บอกว่าไม่เคยเข้าไปเลย (ใช่สิ สมัครไม่ผ่านหนิ
ช๊อตนี้คือ ทำไมคนที่เรารู้จักมา 6 ปี เข้าปีที่ 7 ทำไม
ถามเค้า เค้าตอบเราว่าไงรู้ไหม เค้าบอกเราว่า " ไม่รู้ทำไมพี่ทำแบบนั้น " คำตอบเชี้ยมาก รู้ทั้งรู้.... แต่เลือกตอบว่า ไม่รู้ว่าเพราะอะไร (สถานะการณ์นี้เราเพิ่งไม่เจอกันเเค่ 1 เดือน) แค่เราไม่ได้เจอกเป๊ปเดียว 1 เดือนเท่านั้น เป็นคนแบบนี้ คือเสียใจมาก.... เเต่ก็ยังไม่ได้ตัดขาดนะ เราคิดแค่เราไม่อยากให้ลูกเราขาดพ่อ ก็เลยยอมให้อภัย เพราะนี่เป็นครั้งเเรก เค้าก็ทำตัวเหมือนปกติที่เรารู้จักกันมา 6 ปี หลังจากที่เราจับได้ เค้าสัญญาว่าจะไม่มีอีก เค้าจะทำเพื่อลูกเพื่อเรา จะได้มาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว เค้าว่าเค้าขาดเรากับลูกไม่ได้ ถ้าไม่เรากับลูกเค้าจะ ฆตต. ไม่นานหลังจากวันนั้น2-3วันแม่เค้าก็พาไปหาพระ (เค้าอ้างว่าแม่เค้าพาไปหาพระ) หลวงพ่อบอกว่าเค้าโดนของมา คนๆนั้นตั้งใจทำให้ชีวิตเค้าไม่มีความสุข (ชีวิตหรือกูที่ไม่มีความสุข ใฝ่หาแต่ xี ) เราก็คุยกันปกติเหมือนเดิมทุกวันเราก็ให้เค้าวีดีโอคอลกับลูกทุกครั้งที่มีโอกาส เราให้เค้าบอกกับแม่ของเค้า ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ระหว่างเราสองคน แต่ตั้งเเต่เกิดเรื่อง เค้าไม่เคยเล่าอะไรให้แม่เค้าฟังเลย จนกระทั่งเดือน กรกฎาคม 2568 ปลายๆเดือน เค้าบอกเราว่า เค้าตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่เค้าฟังเเล้วนะ เราก็บอกเค้า ก็ดีเเล้ว เค้าจะได้รู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง (ก็แอบหวังให้เเม่เค้ามาถามไถเราบ้างว่าเราเป็นยังไงบ้าง ลูกเราเป็นยังไง แต่ไม่เคยมาถามไถ่เลย) ตั้งเเต่วันนั้นเรากับเค้าก็คุยกันน้อยลงมากๆ ในระยะเวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์ เค้าบอกเราว่า เค้ามีคนคุยละนะ เราก็แบบ ทั้งโกรธทั้งโมโหทั้งเสียใจรู้สึกผิดกับลูกมาก ทำไมเราถึงเลือกให้เค้ามาเป็นพ่อของเด็กคนนี้ เด็กคนนึงที่เกิดมาแล้ว แล้วตอนนี้เค้ากำลังจะขาดพ่อ เราว่าเค้าเยอะมากค่ะ อยากจะเอามาลงเลย 55555 ด่าไปร้องไห้ไป เราให้เค้าส่งเงินมาให้ลูก ช่วยเหลือค่าเลี้ยงลูกบ้าง เค้าบอกไม่มี แต่เค้าพาคนคุย ไปเที่ยวน้ำตกได้ เค้าสารภาพว่าไปเจอกันมา 3 ครั้งเเล้ว นี่คือ..... ปล่อยให้กูโง่เป็นควาย เชื่อคำพูดคนที่เป็นพ่อของลูก ว่าจะทำเพื่อลูก กูดูโง่มากสินะ พอเราว่าเค้า เค้าก็บอกเราว่า ไม่ใช่เพราะแม่เราหรอที่ไล่เค้าออกจากบ้านไป นู่นนี่นั่น เราบอกเค้าว่า ใช่ เรารู้ว่าแม่เราผิดเรื่องนั้นแต่ก็เพราะเลี้ยงกูกะลูกไม่ได้ เเล้วอยากถามว่า กูกับลูก ผิดอะไร ทำไมทำกับกูและลูกแบบนี้
ทุกคนว่าเรื่องนี้ใครผิดค่ะ เราผิดหรอที่เราเลือกที่บ้านกับลูก แล้วแม่เราผิดหรอที่ไล่เค้าไป มีความเห็นยังไงกันบ้างค่ะ ท้ายที่สุดนี้ จงเชื่อเซนส์ของตัวเองค่ะ ผู้หญิงเซนส์แรง