เอายังไงดีกับชีวิต ในวัย 37

1.ผมรับราชการ ปีนี้อายุราชการคือ 14 ปี
2.แฟนอายุน้อยกว่าหน่อย ตอนนี้ทำงานร้านสะดวกซื้อ
3.ที่บ้านมีการค้า
4.พ่อแม่เริ่มบ่นอายุเยอะอยากให้มาสานต่อ
5.ในใจลึกๆอยาก กลับไปทำธุรกิจต่อ เพราะกลัวพม่าจะเอาไปทำก่อน
6.อายุราชการไม่ถึง 25 ปีลาออกตอนนี้ ยังไม่ได้บำนาญ
ปัจจุบัผนผม อายุ 37 ปีติดว่ายังแข็งแรง ยังมีไฟ พื้นฐานเป็นคน alert
ตอนนี้ผมสับสนมาก ผมรับราชการงานก็ดีทุกอย่างโอเคหมด แต่ก็อยากไปสานต่อธุรกิจ เพราะพ่อกับแม่ก็ 60 กว่าๆ แล้ว
ยิ่งพอไปงานศพพ่อแม่เพื่อน ทำให้ผมมีฉุกคิดขึ้นมาในเรื่องนี้ คือ กลัว กลัวว่าพ่อหรือแม่จะไปก่อน ไม่ทันเห็น
เป็นเพื่อนๆ คิดยังไงกับเรื่องนี้ครับ ขอบคุณมากครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ผมขี้เกียจตอบเลยว่า ไม่ต้องออกหรอกข้าราชการทำไปเหอะ สุดท้ายใครๆ ก็จะสอนให้คุณเลือกข้าราชการอยู่ดี เพราะ คุณได้ศูนย์เสียสิ่งที่ เอกชนหลายคนมีศักยภาพสูงๆ เขา get ต่อมุมมองชีวิตไปแล้วครับ

ถ้าใครเสียสิ่งนี้ จะให้ยกเหตุผลอะไรก็ตามมาพูด ก็จะไม่ลาออกจากราชการทั้งนั้นแหละครับ แล้วมันเป็นเรื่องตลกอย่างนึง คือ มันซ่อนอยู่ในคำพูดตัวเองนี่แหละ หรือ คำตอบของคำถาม อยู่ใน detail อยู่แต่แรกแล้ว

ขนาดคนที่ ล้มเหลวในเอกชน ไปทำธุรกิจจนได้รายได้สัก 20-30K ก็จะยังไม่คิดวิ่งกลับไปเอกชนเลย เพราะ เขาก็เสียศูนย์เหมือนกันนั่นแหละตอนเลือกไปทำ มันเลยคิดไม่ต่างกัน

1. รับราชการ 14 ปี -> 11 ปี ครบ 25 = ชิว มาเกินครึ่งไม่ค่อยมีใครออกหรอก

2. พ่อแม่เริ่มบ่นอายุเยอะอยากให้มาสานต่อ -> 100% อยากใช้สวัสดิการข้าราชการ ทำไม อายุเยอะไงจะคิดถึง สุขภาพ การรักษาพยาบาล และ การสานต่อสิ่งที่ตัวเองทำไว้

3. 37 ปีติดว่ายังแข็งแรง ยังมีไฟ พื้นฐานเป็นคน alert ผมเห็นคนคิดแค่นี้ผมบอกเลยนะ ไฟแค่นี้มันไม่เพียงพอหรอกครับ มันน้อยมันก็เหมือนคนสมัครงานแล้วพูดว่า

ผมพร้อม ผมกล้าเรียนรู้สิ่งใหม่ ผมมีความพยายาม นึกออกไหม คำพูดง่ายๆ ที่ใครก็พูดได้ แต่ถ้าตัวเองทำได้ คิดว่าไม่น่ามาถามอะไรแบบนี้เกี่ยวกับมุมมองครับ คนมั่นใจ เขาไปทำเลย just do it มีแค่นี้ ไม่พอต่อทำงานเอกชนให้เจริญกลายเป็นพนักงานเงินเดือน 100-200K ได้ง่ายครับ เพราะ มันเป็นสกิลที่ใครก็มีหมด

แล้วเอกชนกว่าจะโตไป 100K ได้ใช้เวลาสร้างโปรไฟล์หยาบๆ 10 ปี ถ้าตอนนี้ 37 -> 47 จะทำได้ไหม ทำได้หรือเปล่า ไม่รู้เลยมันมีภูเขาท้าทายลูกบะเร่อให้คิดเยอะ แล้วคุณมีภาระแน่นอน 100% ในอนาคตจากพ่อแม่ตัวเอง การันตรีเลยว่าทำไม่ได้หรอกไม่ไหวมันเหนื่อย

แล้วก็คนที่ใช้คำว่า ยัง ในส่วนต้นของคำนั่นหมายถึง คนลังเล คนยังไม่ได้คิดมาถี่ถ้วนครับ เลยคิดว่าตัวเอง ยังไหว แต่บอกเลย คนไหวไม่ไหว เขาไม่พูดว่า ยังไหวกันครับ เขาพูดกันแค่ ไม่ไหวคือไม่ไหว ไม่ใช่ไม่ไหวบอกยังไหว นี่คือจุดบ่งบอกชัดเจนเลยในคำพูดนี่แหละ ว่าไม่ได้ไหวหรอกในระยะยาว

คนที่ทำงานระดับสูง ไม่พูดว่าตัวเองฝืนไหวกันนะ ถ้าฝันแล้วงานพัง = แย่ ไม่ไหวบอกไม่ไหวไม่ทันบอกไม่ทัน จะได้คิดแผนการทำงานให้ทัน

4. แฟนอายุน้อยกว่าหน่อย ตอนนี้ทำงานร้านสะดวกซื้อ ถ้าคุณคิดถึงเรื่องการแต่งงาน อยู่กินจริงจัง คุณจะเข้าใจเงินสำคัญแค่ไหนระหว่าง เงินที่เสี่ยงสูงกับเงินที่เสี่ยงต่ำ

คำตอบทั้งหมดจะจบที่ ข้าราชการนั่นแหละ แล้วไปวิ่งงานนอกทำธุรกิจเสริม รับทำธุรกิจบ้าน ตามมาด้วย -> ทำงานจนไม่มีเวลาใช้ชีวิต คุณเลือกได้แค่นี้มากกว่าจากตัวเลือกทั้งหมด

สิ่งที่คุณเสียไป คือ ไฟชีวิตแบบเอกชนครับ ให้ลองสังเกตุคนทำงานเอกชนมากว่า 10-15 ปี ปากบอกบ่น แต่ไฟชีวิตมันไม่เคยดับ แถมมีแต่ไฟแรงสูงขึ้น สูงขึ้น ยิ่งงานยาก ยิ่งงานท้าทาย ยิ่งพัฒนาตัวเอง ไฟชีวิต อนาคต เอฟวี่ติงจะสอนมุมมองของการ ไต่ระดับให้เองโดยอัตโนมัติ ทีนี้พอคุณไปทำข้าราชการมา 14 ปีใช่ไหมหละ คุณไม่เคยเห็น คุณหมือนเด็กจบใหม่มองเลย มองจากเพื่อนตัวเอง มองจากคนไกลตัว แต่ก็ไม่ได้รู้ว่าเนื้อแท้จริงๆ ในการเติบโตสายงานเอกชนทำกันยังไง ดังนั้น คุณเลยพูดเหมือนคนพึ่งเริ่มคิดออกนั่นเอง แล้วคิดแบบนี้ มันเลยเสี่ยงที่จะมาวิ่งสายเอกชน โอกาศที่คุณจะตัดสินใจพลาดสูงมากครับ แล้วโอกาศที่จะรู้สึกผิดต่อการตัดสินใจก็สูง เช่น

worst case แย่สุดคือ

1. คุณไปทำงานเอกชนก็ไม่รอด ไม่เติบโต โดนทางบ้านกฎดัน โดนชีวิตถล่ม

2. คุณจะไปนึกถึงตอน ยังทำข้าราชการ เพราะ คิดว่าทำงานแบบนี้ก็ไม่แย่ แต่คุณออกมาแล้วคุณทำอะไรไม่ได้ ไปสอบอีกที 40-45 -> ไม่ถึง 25 ปีอยู่แล้วครับ เพราะ คุณโยน 14 ปีทิ้งแล้ว

ผมเลยมองเส้นชีวิตแบบนี้ออกว่า ถ้าคุณไปไม่รอด = คุณจะเอาทุกอย่างมาถล่มตัวเองนี่แหละ

เขาถึงห้ามออกจากราชการตอนอายุ 35+ ยังไงหละครับ หรือ อายุเกิน 35+ ก็ไม่ควรมารับราชการเท่าไหร่ เพราะ มันมีอีกสิ่งนึงที่เสียไปเหมือนกัน รู้ปะคืออะไร เวลาให้ตัดสินใจพลาดครับ ในวัยทำงานเอกชน 22-30 ถ้าเราคิดผิด เอกชนไม่เวริค หรือ ข้าราชการไม่เวริค โอกาศครั้งแรกมันยังมีจังหวะให้เราเลือกเส้นชีวิตใหม่ตอน 30 แต่กลับกัน คนอายุ 30-40 เอาแค่การหางานหรือการ come back is real โอกาศพลาดก็จะไม่ค่อยมีเหมือนเด็กจบใหม่

ทุกๆ 10 ปีโอกาศแก้ตัว จะหายไป 1 ครั้งเสมอ คนเรามีโอกาศแก้ตัว 3-4 ครั้งตามอายุตัวเราเองนี่แหละ หรือ คนทำงาน 30-40 ปี หาร 10 ปีต่อครั้ง
3 - 4 ครั้งนั่นแหละ ล้มได้แค่นี้ บางคนล้มได้น้อยกว่านี้ถ้าขาไม่แข็งพอ

นี่แหละเหตุผลที่ผมตอบแทนเลยว่า ไม่ต้องออกข้าราชการฝืนทำไปเหอะ เอาเวลาไปดันตำแหน่งเหอะเดี๋ยวก็เจอคำตอบอีกแบบนึงเอง แต่จะเจอไหมก็วัดดวงระดับนึง

ปกติแล้ว คนที่คิดว่า ข้าราชการไม่เวริค เขาจะออกข้าราชการกันตั้งแต่ทำงานไป 3-5 ปีแล้วครับ ตอนที่มันตรัสรู้แล้วว่า โตช้า หรือ งานไม่คุ้มเลย

มันจะแปลกอะไร หมอจากข้าราชการยังลาออก คนทำงานจากข้าราชการยังลาออก พวกเงินเอกสาร งานง่าย ก็มีคนลาออก แต่ไม่โพสลงโซเชียลเยอะ เพราะ กลัวไปดับฝันคนอื่น ^^ มันจะแปลกอะไร มันจะมีใครกล้ามารีวิวความล้มเหลวตัวเองบ้างหละ 555 จริงปะ แต่คนล้มเหลวจากข้าราชการ ออกมาจากระบบไม่น้อยนะครับ ออกทุกปี มันถึงเปิดรับเพิ่มได้ทุกปีนี่แหละ

ไม่งั้นไม่จ้าง พนักงานราชการหรอกครับเพื่อเอามาแก้ไขเคสคนขาดจริงๆ จริงปะหละ??
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่