[SR] เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ ตัวช่วยเสริมฟอกอากาศให้เบาสบายและปลอดเชื้อโรค Wellis Air

  โรคทางเดินหายใจ กับความเข้าใจผิดเรื่องเครื่องฟอกอากาศในยุคที่ PM2.5 กลายเป็นคำคุ้นหู
และเรามักใช้เครื่องฟอกอากาศเป็น “เกราะป้องกัน”  สุขภาพ บ่อยครั้งเราหลงคิดว่าแค่ “ดักจับฝุ่น” ก็เพียงพอแล้ว
ทั้งที่ปัญหาสุขภาพจากอากาศนั้นซับซ้อนกว่านั้นมาก
โดยเฉพาะในบ้าน โรงเรียน โรงพยาบาล หรือแม้แต่คอนโดที่อากาศถ่ายเทน้อย 
จริง ๆ แล้ว สาเหตุของโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง เช่น ภูมิแพ้ หอบหืด
หรือแม้แต่การติดเชื้อ RSV, ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ฯลฯ มักมาจาก เชื้อโรคในอากาศ (airborne pathogens)
ซึ่งไม่สามารถ “กรอง” ออกได้ด้วยแผ่นกรอง HEPA เพียงอย่างเดียว จากเครื่องฟอกอากาศแบบระบบ “ดูด”อากาศและเชื้อโรคเข้ามาไว้ที่ตัวเอง
และหากไส้กรองที่ยังมีการดักจับที่ละเอียดมากพอก็ยังทำให้เชื้อโรคไวรัสยังเล็ดลอดออกมาได้อยู่ดี
และนั่นคือจุดที่ Wellis Air เข้ามาเติมเต็มเสริมประสิทธิภาพให้กับเครื่องกรองฝุ่น
ด้วยแนวคิด “ไม่ใช่แค่กรอง แต่ฆ่าเชื้อในอากาศ”  ด้วยประจุไฮดรอกซิล (OH-)  เทคโนโลยีที่แตกต่าง: ไฮดรอกซิล(OH-) คืออะไร?  
ไฮดรอกซิล(OH-)คือสารในธรรมชาติที่ถูกสร้างจากแสงแดดและโอโซนกับน้ำในอากาศ
เกิดการรวมกันของประจุออกซิเจน 1 โมเลกุลและไฮโดรเจร 1 โมเลกุล ในรูปแบบของพลาสม่า
กลายเป็น OH- เป็นสารทำทำความสะอาดจากธรรมชาติที่ทำธรรมชาติใช้กำจัดเชื้อโรคเชื้อไวรัส
รวมถึงแก๊สเรือนกระจก (CH4) แก๊สพิษต่างๆ โดย Wellis Air ใช้เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาให้คล้ายกับกลไกของธรรมชาติ
ในการทำความสะอาดชั้นบรรยากาศ จนเกิดเป็นไฮดรอกซิล(OH-) ซึ่งมีฤทธิ์เข้าไปทำลายผนังเซลล์ของ ไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา ในอากาศ
โดยไม่กระทบต่อมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยง และยังกำจัดพวกสารพิษอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) เช่น กาว แล็คเกอร์ ทินเนอร์
จากเฟอร์นิเจอร์ และ สีทาบ้าน ซึ่งมีอยู่ทั่วไปตามบ้านที่อยู่อาศัยด้วย




ภายใน 1 กล่อง จะประกอบไปด้วย ตัวเครื่อง  น้ำยา 4 ตลับ สำหรับ 1 ปี ฐานรองตัวเครื่อง แบบวาง และ แบบแขวนผนัง Adapter Charge 
คู่มือการใช้งาน เอกสารงานวิจัยคุณสมบัติการฆ่าเชื้อตัวเครื่อง

Review : สภาพตัวเครื่อง + การประกอบ



การประกอบตัวเครื่องจะไม่ยุ่งยากเลย เพียงแค่ใส่ตลับน้ำยาด้านหลังของตัวเครื่องและเสียบปลั๊ก พร้อมเปิดเครื่องก็จะทำงานทันที
โดยปกติแล้วน้ำยา 1 ตลับจะอยู่ได้ประมาณ 3 เดือน (ในกรณีที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง) ที่ตัวเครื่องจะมีช่องแสดงปริมาณน้ำยาให้เรารู้ว่า
ตอนนี้สถานะน้ำยาใกล้จะหมดแล้วหรือยัง และมีสติกเกอร์สำหรับรายละเอียดตัวเครื่องเพื่อเป็นการันตีว่าเป็นเครื่องแท้จากศูนย์ตัวแทนจำหน่าย
อย่างเป็นทางการในประเทศไทย และ Serial No. เพื่อเป็นการเช็คประกันของตัวเครื่องกับศูนย์บริการด้วย (ห้ามแกะออกเด็ดขาด)
และก็มีประกันตัวเครื่อง 2 ปีกับทางศูนย์บริการ ตัวเครื่องได้ อย.อเมริกา (US FDA) / CE Certificate(ยุโรป) / RoHs / FCC  และ มอก.ประเทศไทยด้วย

ระบบ: การทำงานของตัวเครื่อง Wellis Ai


ตัวเครื่องออกแบบมาให้ใช้งานง่าย แค่เสียบปลั๊ก + กดปุ่ม Power = เครื่องทำงานแล้ว โดยด้านหน้าตัวเครื่องเราจะสามารถกด ได้ 2 ปุ่มคือ ปุ่ม Power
เพื่อเปิดเครื่อง และ ปุ่ม Night Mode เอาไว้สำหรับในกรณีที่เราไว้ในห้องนอน เครื่องปิดไฟแสดงคุณภาพอากาศเพื่อไม่ให้รบกวน 
สถานะการทำงานของเครื่องจะมีด้วยกัน 4 สถานะ
1.ทำงานปกติ   
2. Night Mode ทำงาน
3. แจ้งเปลี่ยนตลับน้ำยา  
4. สถานะเครื่องผิดปกติ

ในระหว่างที่เครื่องทำงานอยู่จะมีสถานะในการวัดคุณภาพอากาศ จะมีด้วยกัน 3 สี ดังนี้


จากที่ได้ลองใช้มาสักระยะหนึ่ง แนะนำให้เปิดตลอดไว้ได้เลย และสถานะไฟจะแสดงเพื่อเตือนให้กับผู้ใช้งานได้รู้ว่า
อากาศในห้องปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร  ช่วงแรกๆที่เปิดส่วนใหญ่จะขึ้นเป็นสถานะสีแดงและสีส้มหลังจากที่เปิดไปสักระยะหนึ่ง
ให้ประจุไฮดรอกซิลฆ่าเชื้อโรคได้ทำงานหลังจากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน 


ต่างกันยังไงกับเครื่องฟอกอากาศทั่วไป

หลังจากที่รีวิวภาพรวมถึงสภาพตัวเครื่องกันแล้ว มาต่อที่เรื่องของคุณสมบัติของตัวเครื่องกันดีกว่า
ต้องทำความเข้าใจกันอีกครั้งว่า Wellis Air นี้เครื่องฟอกอากาศแบบระบบ”พ่น” ไม่ใช่เครื่องกรองอากาศระบบ “ดูด”  ที่จะดูดฝุ่น ดูดสิ่งสกปรก
ดูดเชื้อโรคมาไว้ที่ตัวเครื่อง(ไส้กรองดักจับ) ซึ่งระบบดูดอากาศนี้จะทำให้ตัวเครื่องนั้นเหมือนเป็น ถังขยะเก็บเชื้อโรคเชื้อไวรัสตลอด 3 - 6 เดือน
 เพราะเชื้อโรคบางชนิดมีอายุจะไม่ได้ตายในทันทีจะทำให้เป็นอันตราย เมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนไส้กรองหรือบางครั้งหากไส้กรอง HEPA Filter
ไม่ละเอียดมากพอที่จะดักจับเชื้อไวรัสเชื้อโรคได้ ก็จะไม่สามารถดักจับหรือป้องกันไว้ได้ ไม่เกิดประโยชน์สูงสุด ระบบดูดนี้อาจจะแก้ปัญหาเรื่องฝุ่นได้
แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องเชื้อโรค เชื้อไวรัส เชื้อราและแบคทีเรียในอากาศได้ เป็นจุดสังเกตว่าทำไมที่คนที่เป็นภูมิแพ้อากาศนั้น
แม้จะใช้เครื่องกรองอากาศแบบกรองฝุ่นแล้วแต่อาการก็ไม่ดีขึ้น เพราะจริงๆแล้วอาการภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นอาจจะมาจากเชื้อรา
เชื้อแบคทีเรียในอากาศที่เครื่องกรองฝุ่นไม่สามารถดูดได้หมดนั่นเอง  ส่วน Wellis Air ซึ่งเป็นระบบ “พ่น” คือ จะปล่อยประจุไฮดรอกซิล
ไปฆ่าเชื้อโรคในอากาศทันทีและฆ่าเชื้อโรคบนพื้นผิววัตถุ เช่น โต๊ะ ทีวี ฝาหนัง ด้วย ซึ่งระบบ”ดูด”ทำไม่ได้
แต่ระบบนี้ของ Wellis Air นี้ก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องฝุ่นได้เช่น เพราะถูกแบบมาเป็นเครื่องฆ่าเชื้อโรค ไข้หวัดใหญ่ RSV มือเท้าปาก
และเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจอื่นๆอีกมาก รวมถึงพวกสารพิษ(VOCs)ต่างๆเท่านั้น ไม่ได้เป็นเครื่องกำจัดฝุ่น ทางที่ดีที่สุดคือ
การใช้คู่กันทั้งเครื่องฟอกแบบกรองฝุ่น(ดูดอากาศ) และ เครื่องฟอกแบบระบบพ่น (ฆ่าเชื้อทันที)
มาเสริมประสิทธิภาพเพื่อให้อากาศในบ้านนั้นมีคุณภาพมากขึ้น

เปรียบเทียบประสิทธิภาพเทคโนโลยีฆ่าเชื้อและสารพิษประเภทต่างๆ 


   จากที่มีศึกษาระบบการฆ่าเชื้อวิธีอื่นๆร่วมด้วย หลักการฆ่าเชื้อโรคที่ดีจะประกอบด้วย 2 ปัจจัยคือ ปริมาณความเข้มข้นของสารฆ่าเชื้อที่ฆ่าเชื้อได้
และการฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ในปัจจุบันมีระบบการฆ่าเชื้อโรคที่หลากหลาย
ไม่ใช่แค่เพียงระบบปล่อยประจุ ไฮดรอกซิล(OH-)ของ Wellis Air เท่านั้นที่ทำได้
แต่หากเราพูดถึงระบบอื่นๆ เช่น การใช้หลอด UVC / เครื่องผลิตโอโซน / หรือการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคโดยตรง
ก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการทำให้อากาศในห้องหรือบ้านเราสะอาดขึ้นได้ แต่ก็จะมีข้อจำกัดคือ
เราไม่สามารถเปิดใช้งานหลอด UVC หรือ เครื่องผลิตโอโซนได้ตลอดเวลาในขณะที่เราอยู่ในห้องนั้นได้
เพราะมันเป็นอันตรายกับคนและสัตว์ และถึงแม้ว่าเราจะปิดการใช้งานเครื่องขณะที่เราใช้ชีวิตอยู่ในห้อง 
ก็จะเป็นจังหวะที่ทำให้เชื้อโรคเกิดขึ้นได้อีก และไม่ได้มีการป้องกันเชื้อโรคต่างๆกล่าวคือยังขาดความต่อเนื่องในการฆ่าเชื้อโรคนั่นเอง
 ถ้าวิเคราะห์ข้อดีที่ Wellis Air มี คือ สามารถเปิดเครื่องให้ทำงานตลอด 24 ชม.ได้ปลอดภัย
เพราะประจุไฮดรอกซิล(OH-) คือ กลไกของธรรมชาติไม่เป็นอันตรายกับคนและสัตว์
สามารถเปิดได้แม้ในบ้านจะมี เด็กเล็ก หรือ ผู้สูงอายุก็ตาม สามารถฆ่าเชื้อโรคหวัด
ไข้หวัดใหญ่ RSV มือเท้าปาก พวกเชื้อรา แบคทีเรียอื่นๆที่ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจก็ถูกกำจัดไปด้วย
แม้กระทั่งพวกสารพิษสารระเหยที่เราสูดดมไปแบบไม่รู้ตัว และกำจัดได้ทั้งในอากาศและพื้นผิวทั่วห้อง

ข้อจำกัดก็คือ Wellis Air ไม่ได้ช่วยเรื่องกำจัดฝุ่น ถ้าคนที่อยากปัญหาเรื่องแพ้ฝุ่น
ก็จะต้องพิจารณาเป็นเครื่องกรองฝุ่นเท่านั้นจะตอบโจทย์มากกว่า 

ประสบการณ์ใช้งานจริงในบ้านที่มีผู้สูงอายุและสัตว์เลี้ยง

ได้ทดลองใช้ Wellis Air ในห้องนั่งเล่น เพราะเป็นบ้านที่มีญาติๆมาเยี่ยมบ่อย
จนกังวลว่าจะนำพาเชื้อโรคมาให้กับผู้สูงอายุในบ้าน หลังใช้ Wellis Air ต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ สิ่งที่สังเกตได้คือ
กลิ่นอับของบ้านดูจางหายไป แอร์ที่ชอบมีกลิ่นเปรี้ยวจากเชื้อราก็เหมือนจะหายไปเลย ส่วนในเรื่องของการฆ่าเชื้อโรคนี้
เนื่องจากเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นอาจจะพิสูจน์ด้วยความรู้สึกอย่างเดียวไม่ได้ แต่ก็เป็นช่วงที่ไม่มีค่อยมีป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจอะไร 
อาจจะทดลองใช้ต่อในระยะยาวๆข้อจำกัดก็คือ Wellis Air ไม่ได้ช่วยเรื่องกำจัดฝุ่น ถ้าคนที่อยากปัญหาเรื่องแพ้ฝุ่น
ก็จะต้องพิจารณาเป็นเครื่องกรองฝุ่นเท่านั้นจะตอบโจทย์มากกว่า 

ประสบการณ์ใช้งานจริงในบ้านที่มีผู้สูงอายุและสัตว์เลี้ยง

ได้ทดลองใช้ Wellis Air ในห้องนั่งเล่น เพราะเป็นบ้านที่มีญาติๆมาเยี่ยมบ่อย
จนกังวลว่าจะนำพาเชื้อโรคมาให้กับผู้สูงอายุในบ้าน หลังใช้ Wellis Air ต่อเนื่อง 2 สัปดาห์
สิ่งที่สังเกตได้คือ กลิ่นอับของบ้านดูจางหายไป แอร์ที่ชอบมีกลิ่นเปรี้ยวจากเชื้อราก็เหมือนจะหายไปเลย
ส่วนในเรื่องของการฆ่าเชื้อโรคนี้ เนื่องจากเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นอาจจะพิสูจน์ด้วยความรู้สึกอย่างเดียวไม่ได้ แต่ก็เป็นช่วย

เหมาะกับใคร?
บ้านที่มี เด็กเล็ก / ผู้สูงอายุ / ผู้ป่วยติดเตียง ใช้ได้
[center
ชื่อสินค้า:   เครื่องฟอกอากาศ Wellis Air
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่