นานแล้วเนอะที่มาร์เวลประกาศว่าได้กู้เงิน525ล้านจากmerril lynchกับpiere fenner & smith มาทำหนังตัวเองตั้ง10เรื่อง ดดยมีพาราเมาท์เป็คนจัดจำหน่ายและการตลาด
10เรื่องที่ว่านี้คือ แอนท์แมน อเวนเจอร์ แบล็คแพนเทอร์ กัปตันอเมริกา โคล๊ก&แด็กเกอร์ ดร.เสตรงจ์ ฮอว์คอายส์ นิคฟิวรี่ เพาเวอร์แพ็ค(หายไปไหนแล้วนะตอนนี้) และชางซีจ้าวกังฟู
ตอนได้ยินข่าว(จากเพจแนวนี้และนิตยสารหนังและการ์ตูน) นี่2อารมณ์เลยครับ ดีใจลั่นบ้านว่าจะมีหนังที่ใกล้เคียงกับคอมิคมากขึ้น(ตัวละครเชื่อมหากัน ฟอร์มทีม และอีเวนท์ใหญ่) แต่อีกใจนึงก้อหน้างิ่วคิ้วชนกัน เพราะตอนนี้มาร์เวลเหลืแต่ตัวละครเกรดรองจนถึงตัวละครที่ไม่มีใครรู้จักเลยนี่ดิ จะไหวรึเปล่า อีกอย่างคือ
ช่วงนั้นค่ายอื่นๆที่ถือสิทธิ์สร้างหนังกำลังท็อปฟอร์มอยู่
อย่าง
โซนี่ที่ตอนนั้นมือขึ้นเพราะสไปดี้2 ทำให้ สไปดี้3ถูกจับตาสุดๆ โดยเฉพาะการมาของเวน่อม(แม้ว่าตอนนั้นจะมีข่าวว่าเวน่อมจะอยู่อีกค่ายก้อตาม)
ฟ็อกซ์ ที่ถือสิทธิ์พวกX-MENและมนุษย์กลายพันธ์ ก้อเหมือนกับมีประชากรตัวละครมาร์เวลไปถึง3ใน5(ตอนนั้น) ที่นอกจากX-MEN3แล้ว(ที่ตอนนั้นซิงเกอร์เดินจากไปแล้ว) ที่สร้างความฮือฮาตอนปลายปี2004คือ ภาคต้นวูล์ฟเวอรีน(อันนี้คนเดาได้อยู่) และ แม็กนีโต้ (อันนี้ฮือฮาจริงๆ)
F4อีก1เรื่องที่ฟ็อกซ์ถือสิทธิ์ไว้ แม้รายได้จะไม่เปรี้ยงแต่ ฮือฮาตรงที่จะมีซิลเวอร์เซิฟเฟอร์และ
กาแล็คตัส โผล่มา พร้อมกับประกาศจะทำภาคต้นของซิลเวอร์เซิฟเฟอร์
ยูนิเวอแซล เกริ่นว่าจะทำภาคต่อของฮัลค์(ทั้งหนังโรงและหนังวิดีโอ)แต่ผมมองว่าทำเพื่อไม่ใส่สิทธิ์หลุดอะ แต่ที่น่าตกใจคือ วางตัว คริส โคลัมบัสมาทำ นามอร์/ซับมารีนเนอร์
นิวไลน์ก้อประกาศตอนปลายปี2004 ด้วยการวางตัว ผกก. นิค คาซาเวตซ์(ผกก.หนังรักthe notebook) มากำกับไออ้อนแมน
ไลอ้อนเกตก้อไม่ยอมแพ้(แม้พันนิชเชอร์จะไม่ไปถึงฝัน) ประกาศวางตัว เดวิด โกเยอร์ มากำกับ ทอร์ เทพสายฟ้า(แม้ดราฟแรกๆสแตนจะยี้ก้อตาม)
ลองคิดูซิครับว่ามาร์เวลสตูดิโอเจอตู่แข่งแบบนี้(ในตอนนั้น)จะทำไหง อีกอย่างคือ ช่วงนั้นกระแสหนังยอดมนุษย์เริ่มดาวน์ไปพอสมควร
แต่พอหลังจากนี้เริ่มมีข่าวดีมาบ้าง อย่างสิทธิ์ไออ้อนแมนและทอร์กลับมาอยู่ในมือมาร์เวล หรือ ยูนิเวอแซลใจอ่อนทำฮัลค์ร่วมกับมาร์เวลสตูดิโอ
เลยมาเสนาว่าตอนนั้นคุณได้ยินข่าวจากไหน และ รู้สึกไหงบ้าง
(วันวาน)เดือนนี้เมื่อ20ปีที่แล้ว
นานแล้วเนอะที่มาร์เวลประกาศว่าได้กู้เงิน525ล้านจากmerril lynchกับpiere fenner & smith มาทำหนังตัวเองตั้ง10เรื่อง ดดยมีพาราเมาท์เป็คนจัดจำหน่ายและการตลาด
10เรื่องที่ว่านี้คือ แอนท์แมน อเวนเจอร์ แบล็คแพนเทอร์ กัปตันอเมริกา โคล๊ก&แด็กเกอร์ ดร.เสตรงจ์ ฮอว์คอายส์ นิคฟิวรี่ เพาเวอร์แพ็ค(หายไปไหนแล้วนะตอนนี้) และชางซีจ้าวกังฟู
ตอนได้ยินข่าว(จากเพจแนวนี้และนิตยสารหนังและการ์ตูน) นี่2อารมณ์เลยครับ ดีใจลั่นบ้านว่าจะมีหนังที่ใกล้เคียงกับคอมิคมากขึ้น(ตัวละครเชื่อมหากัน ฟอร์มทีม และอีเวนท์ใหญ่) แต่อีกใจนึงก้อหน้างิ่วคิ้วชนกัน เพราะตอนนี้มาร์เวลเหลืแต่ตัวละครเกรดรองจนถึงตัวละครที่ไม่มีใครรู้จักเลยนี่ดิ จะไหวรึเปล่า อีกอย่างคือ
ช่วงนั้นค่ายอื่นๆที่ถือสิทธิ์สร้างหนังกำลังท็อปฟอร์มอยู่
อย่าง
โซนี่ที่ตอนนั้นมือขึ้นเพราะสไปดี้2 ทำให้ สไปดี้3ถูกจับตาสุดๆ โดยเฉพาะการมาของเวน่อม(แม้ว่าตอนนั้นจะมีข่าวว่าเวน่อมจะอยู่อีกค่ายก้อตาม)
ฟ็อกซ์ ที่ถือสิทธิ์พวกX-MENและมนุษย์กลายพันธ์ ก้อเหมือนกับมีประชากรตัวละครมาร์เวลไปถึง3ใน5(ตอนนั้น) ที่นอกจากX-MEN3แล้ว(ที่ตอนนั้นซิงเกอร์เดินจากไปแล้ว) ที่สร้างความฮือฮาตอนปลายปี2004คือ ภาคต้นวูล์ฟเวอรีน(อันนี้คนเดาได้อยู่) และ แม็กนีโต้ (อันนี้ฮือฮาจริงๆ)
F4อีก1เรื่องที่ฟ็อกซ์ถือสิทธิ์ไว้ แม้รายได้จะไม่เปรี้ยงแต่ ฮือฮาตรงที่จะมีซิลเวอร์เซิฟเฟอร์และ
กาแล็คตัสโผล่มา พร้อมกับประกาศจะทำภาคต้นของซิลเวอร์เซิฟเฟอร์ยูนิเวอแซล เกริ่นว่าจะทำภาคต่อของฮัลค์(ทั้งหนังโรงและหนังวิดีโอ)แต่ผมมองว่าทำเพื่อไม่ใส่สิทธิ์หลุดอะ แต่ที่น่าตกใจคือ วางตัว คริส โคลัมบัสมาทำ นามอร์/ซับมารีนเนอร์
นิวไลน์ก้อประกาศตอนปลายปี2004 ด้วยการวางตัว ผกก. นิค คาซาเวตซ์(ผกก.หนังรักthe notebook) มากำกับไออ้อนแมน
ไลอ้อนเกตก้อไม่ยอมแพ้(แม้พันนิชเชอร์จะไม่ไปถึงฝัน) ประกาศวางตัว เดวิด โกเยอร์ มากำกับ ทอร์ เทพสายฟ้า(แม้ดราฟแรกๆสแตนจะยี้ก้อตาม)
ลองคิดูซิครับว่ามาร์เวลสตูดิโอเจอตู่แข่งแบบนี้(ในตอนนั้น)จะทำไหง อีกอย่างคือ ช่วงนั้นกระแสหนังยอดมนุษย์เริ่มดาวน์ไปพอสมควร
แต่พอหลังจากนี้เริ่มมีข่าวดีมาบ้าง อย่างสิทธิ์ไออ้อนแมนและทอร์กลับมาอยู่ในมือมาร์เวล หรือ ยูนิเวอแซลใจอ่อนทำฮัลค์ร่วมกับมาร์เวลสตูดิโอ
เลยมาเสนาว่าตอนนั้นคุณได้ยินข่าวจากไหน และ รู้สึกไหงบ้าง