41.
นกฺขตฺตํ ปฏิมาเนนฺตํ อตฺโถ พาลํ อุปจฺจคา
ประโยชน์ย่อมล่วงเลยคนโง่ผู้มัวถือฤกษ์อยู่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โดยปกติแล้ว คนส่วนใหญ่มักจะมองหาฤกษ์ยามที่เป็นมงคล เช่น ฤกษ์ดีในการเริ่มต้นธุรกิจ แต่งงาน หรือออกเดินทาง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าสิ่งที่จะทำนั้นจะประสบความสำเร็จ แต่ในทางพระพุทธศาสนาสอนว่า สิ่งที่จะนำพาความสำเร็จมาให้ ไม่ใช่ฤกษ์ยาม แต่เป็น การกระทำ ที่ประกอบด้วยความเพียรพยายาม สติปัญญา และความรอบคอบต่างหากครับ
- "คนโง่ผู้มัวถือฤกษ์อยู่" ในที่นี้หมายถึงคนที่เชื่อในโชคชะตาหรือฤกษ์ยามมากเกินไป จนละเลยการลงมือทำ เมื่อมีโอกาสเข้ามาในชีวิต แต่ยังมัวรอฤกษ์ดีที่เหมาะสม โอกาสนั้นก็อาจจะหลุดลอยไป
- "ประโยชน์ย่อมล่วงเลย" หมายถึง โอกาส หรือผลประโยชน์ต่างๆ ที่ควรจะได้รับกลับไม่ได้ เพราะมัวแต่รอ มัวแต่ลังเล และไม่ลงมือทำในทันทีที่โอกาสมาถึง
พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า "การกระทำต่างหากที่เป็นมงคล" หมายถึง การที่เราลงมือทำสิ่งดีๆ ด้วยความตั้งใจและความเพียรพยายาม นั่นแหละคือฤกษ์งามยามดีที่สุดแล้วครับ
ดังนั้น ประโยคนี้จึงสอนให้เราตระหนักว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการลงมือทำในปัจจุบัน ไม่ใช่การรอคอยโชคชะตาในอนาคต หากเรามีความตั้งใจ มีความเพียร และลงมือทำอย่างเต็มที่ เราก็จะสามารถสร้างโอกาสและความสำเร็จขึ้นมาได้ด้วยตัวเองครับ
ประโยชน์ย่อมล่วงพ้น....ผ่านเลย
คนโง่ถือเสบย...............ฤกษ์ล้ำ
การงานปล่อยวางเฉย....รอท่า
สติปัญญาค้ำ................เพลี่ยงพล้ำไป่มี
ฤกษ์ดีกรรมเหตุชี้..........ดีหมาย
เพียรหมั่นมุ่งเรือพาย.....ฝั่งนั้น
กรรมดีก่อใจสบาย........ห่อนฤกษ์
ประโยชน์จึงเลิศครั้น.....เสร็จแล้วสุขใจ
กรรมใดฤกษ์ก่อให้........เกิดผล
มีแต่พาอับจน...............หม่นแผ้ว
มัวถือฤกษ์คือคน-.........เขลาโง่
โอกาสล่วงเลยแล้ว.......หากแคล้วยากคืน.
มัวเมาฤกษ์ ยามดี มีแต่หลง
ประโยชน์คง ล่วงไป ไม่ทันเห็น
มัวแต่นั่ง นิ่งสบาย คลายใจเย็น
ผลกลับเป็น พลาดหวัง สิ่งตั้งใจ
โอกาสดี มีแล้ว อย่ารอท่า
หากเนิ่นช้า เวลา หารอไม่
ควรลงมือ มุ่งมั่น ทำทันใด
ความสำเร็จ สุขใจ ใคร่เกิดเอง.


[คติธรรม] ประโยชน์ย่อมล่วงเลยคนโง่ผู้มัวถือฤกษ์อยู่
ประโยชน์ย่อมล่วงเลยคนโง่ผู้มัวถือฤกษ์อยู่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ประโยชน์ย่อมล่วงพ้น....ผ่านเลย
คนโง่ถือเสบย...............ฤกษ์ล้ำ
การงานปล่อยวางเฉย....รอท่า
สติปัญญาค้ำ................เพลี่ยงพล้ำไป่มี
ฤกษ์ดีกรรมเหตุชี้..........ดีหมาย
เพียรหมั่นมุ่งเรือพาย.....ฝั่งนั้น
กรรมดีก่อใจสบาย........ห่อนฤกษ์
ประโยชน์จึงเลิศครั้น.....เสร็จแล้วสุขใจ
กรรมใดฤกษ์ก่อให้........เกิดผล
มีแต่พาอับจน...............หม่นแผ้ว
มัวถือฤกษ์คือคน-.........เขลาโง่
โอกาสล่วงเลยแล้ว.......หากแคล้วยากคืน.
มัวเมาฤกษ์ ยามดี มีแต่หลง
ประโยชน์คง ล่วงไป ไม่ทันเห็น
มัวแต่นั่ง นิ่งสบาย คลายใจเย็น
ผลกลับเป็น พลาดหวัง สิ่งตั้งใจ
โอกาสดี มีแล้ว อย่ารอท่า
หากเนิ่นช้า เวลา หารอไม่
ควรลงมือ มุ่งมั่น ทำทันใด
ความสำเร็จ สุขใจ ใคร่เกิดเอง.